ศิลปะการต่อสู้ให้ชีวิตใหม่ “วันเดอร์บอย” ฟาบริซิโอ จากเด็กสลัมสู่ราชัน MMA
ย้อนรอยเส้นทางการสู้ชีวิตของ “ฟาบริซิโอ อานดราเด” ที่เผชิญความยากลำบากตั้งแต่วัยเด็ก ก่อนจะใช้ศิลปะการต่อสู้ชูเป้าหมายให้ตัวเองประสบความสำเร็จจนกลายเป็นราชัน MMA
“วันเดอร์บอย” ฟาบริซิโอ อานดราเด แชมป์โลก ONE MMA รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) จะเผชิญหน้ากับ “The General” โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี เจ้าบัลลังก์มวยไทยรุ่นเดียวกัน เพื่อชิงตำแหน่งแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต ที่ว่างอยู่ ในศึก ONE Fight Night 16: โจนาธาน vs ฟาบริซิโอ ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 07.00 น. ของวันเสาร์ที่ 4 พ.ย.66
สำหรับ “ฟาบริซิโอ” ถือเป็นราชันอีกรายที่ยังไร้พ่ายในสังเวียน ONE นับตั้งแต่เปิดตัว แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าจอมน็อกเอาต์วัย 26 ปี จากบราซิลรายนี้ ชีวิตต้องฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ นานา ตั้งแต่วัยเด็ก กว่าจะมาประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้โดยมีกีฬาการต่อสู้ช่วยนำทาง วันนี้เราจะพาย้อนดูเส้นทางชีวิตว่าเขาต้องก้าวผ่านอะไรมาบ้าง
#เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่
“ฟาบริซิโอ” เติบโตมาในย่านสลัม ในเมืองฟอร์ตาเลซา ประเทศบราซิล เขาเป็นลูกคนสุดท้องในบรรดาพี่น้อง 3 คน พ่อของเขาเป็นคนขายนาฬิกาในตลาด ส่วนแม่ทำงานเป็นแม่ครัว ที่บ้านมีฐานะยากจน ซ้ำต้องทนกับสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยดีนัก เพราะรอบตัวเขาเต็มไปด้วยอาชญากรรมและความรุนแรงที่เขาเห็นจนชินตา แต่ในความขาดพร่องของชีวิต ยังมีแง่ดีซ่อนอยู่ ความยากลำบากช่วยขัดเกลาให้เขารู้จักมีน้ำอดน้ำทน และหล่อหลอมให้เขามีหัวใจแข็งแกร่งกว่าเด็กในวัยเดียวกัน
“ผมจำได้ว่ามีหลายครั้งที่ผมรู้สึกสิ้นหวัง ไม่รู้ว่าอนาคตของผมจะเป็นยังไง ครอบครัวของผมยากจนมากครับ ผมต้องเผชิญความลำบากนับไม่ถ้วนสมัยที่ผมอยู่ที่บราซิล เรามีเงินแค่พอซื้ออาหาร และของจำเป็น พ่อและแม่ของผมทำงานหนัก เพื่อให้ลูก ๆ มีกิน และพยายามเลี้ยงผมและพี่น้องให้เติบโตเป็นคนที่มีคุณภาพครับ”
“ผมเจอเรื่องแย่ ๆ มานับไม่ถ้วนในชีวิต ที่นั่นมีแก๊งกลุ่มอาชญากร และพ่อค้ายาเต็มไปหมด ผมจึงโตมาโดยเห็นคนตายต่อหน้าต่อตา วัยรุ่นที่อายุเท่าผมก็ปลิดชีวิตตัวเองไปหลายคน มันเป็นชีวิตวัยเด็กที่ทารุณจิตใจผมมาก ๆ ครับ”
#มวยไทยนำทางสู่ชีวิตใหม่
เด็กและเยาวชนมากมายในบราซิลส่วนใหญ่จะเติบโตและคลุกคลีกับกีฬาฟุตบอล เพราะนี่คือกีฬาอันดับหนึ่งของประเทศนี้ ซึ่ง “ฟาบริซิโอ” ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มเด็กเหล่านั้น จนกระทั่งเขาค้นพบศิลปะการต่อสู้ เมื่อเขาได้โอกาสติดตามเพื่อนของเขาไปที่ยิมมวยไทย และเกิดความประทับใจที่ได้เห็นนักสู้บนเวทีได้รับความเคารพจากผู้คน เขาจึงหวังจะเดินตามรอยนักสู้เหล่านั้นและใช้ศิลปะการต่อสู้ช่วยดึงเขาให้ออกจากชีวิตข้างถนนใน ฟอร์ตาเลซา
“พอผมเริ่มเก่งมวยไทย ทุกคนก็ชื่นชมผม และนั่นเป็นแรงกระตุ้นให้ผมในทุก ๆ วัน กีฬาเปลี่ยนชีวิตผมมาก มันเป็นเป้าหมายชีวิตเพียงหนึ่งเดียวของผม ก่อนหน้านี้ผมอาจจะหลงทาง ไม่รู้ว่าเป้าหมายในชีวิตของตัวเองคืออะไร แต่ทุกวันนี้ มันทำให้ผมมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตและครอบครัวของผมให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นครับ”
#จากบ้านอันแสนไกล เพื่อไล่ล่าความฝัน
เมื่อ “ฟาบริซิโอ” ตั้งธงเป้าหมายในชีวิตของตัวเองได้แล้ว เขาตัดสินใจจากบ้านเกิดอันแสนไกลเพื่อไล่ล่าความฝันบนถนนสายนักสู้ ด้วยการลงแข่ง MMA โดยใช้ทักษะวิชามวยไทย และ BJJ ที่มีในสายเลือดผสมผสานเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว เด็กหนุ่มเลือดแซมบ้าเริ่มเดินสายสั่งสมประสบการณ์จากหลายเวทีโดยลงแข่งทั้งในกติกาคิกบ็อกซิ่งและมวยไทยจนเริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชีย แต่ถึงกระนั้นการที่เด็กหนุ่มจากบ้านและครอบครัวเพื่อมาอยู่อีกซีกหนึ่งของโลก ก็อดพูดไม่ได้ว่าเขาต้องเผชิญกับความโดดเดี่ยวและอ้างว้างเพื่อแลกกับเป้าหมายที่เขาตั้งเอาไว้
“หนึ่งในประสบการณ์ที่แย่ที่สุด คือตอนที่ผมไปอยู่ที่จีน ผมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย และไม่รู้จักใครด้วย มีแต่ผู้จัดการเป็นธุระจัดหาไฟต์ให้ผมลงแข่ง ผมต้องสื่อสารผ่านล่าม และมันลำบากมาก ตอนอยู่ที่ยิมซึ่งเต็มไปด้วยคนจีน ผมไม่มีเพื่อน ไม่รู้จะคุยกับใคร เพราะคุยภาษาเขาไม่ได้เลยครับ”
“ผมจำได้ว่า ผมเคยรู้สึกเสียใจที่มาเมืองจีน ผมไปนั่งร้องไห้ในห้องน้ำเป็นชั่วโมง เพราะผมไม่รู้จะทำยังไงดี ผมไม่มีเงิน และครอบครัวของผมก็ไม่อยู่ที่นั่น ผมต้องเก็บกดทุกอย่างไว้ ไม่อยากเล่า หรือขอความช่วยเหลือจากทางบ้าน เพราะผมไม่อยากทำให้พวกเขาต้องเป็นห่วงครับ”
#จากความฝัน สู่ความสำเร็จ
หลังจากสั่งสมประสบการณ์การชกคิกบ็อกซิ่งและมวยไทยอยู่ที่จีนเป็นเวลานาน “ฟาบริซิโอ” เริ่มหันเหความสนใจมาที่ประเทศต้นตำรับศาสตร์อาวุธทั้งแปดอย่างไทย จนสุดท้ายเขาตัดสินใจย้ายมาฝึกซ้อมที่ภูเก็ต และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้รับข้อเสนอให้เซ็นสัญญาเข้าร่วมสังกัด ONE ในปี 2563
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้น “ฟาบริซิโอ” รู้สึกสนใจในกีฬา MMA จึงประยุกต์ทักษะคิกบ็อกซิ่งและมวยไทยให้เข้ากับการต่อสู้ BJJ ที่เขามีพื้นฐานและเบนเข็มมาลงแข่งในกติกา MMA กับ ONE จนกระทั่งคว้าชัยชนะเหนือคู่ต่อสู้ 5 ครั้งติดต่อกัน ส่งให้เขาคว้าตั๋วขึ้นผู้ท้าชิงบัลลังก์รุ่นแบนตัมเวตกับ “จอห์น ลินีเคอร์” ในเดือน ต.ค.65 แม้ผลการแข่งขันครั้งนั้นจะจบลงด้วยไม่มีผลการแข่งขัน เนื่องจาก “ฟาบริซิโอ” พลาดแทงเข้าเข่ากระจับของ “จอห์น” แตก จนไม่สามารถกลับมาสู้ต่อได้
แต่อีก 4 เดือนต่อมาทั้งคู่ก็ได้คิวรีแมตช์อย่างเป็นทางการ ในศึก ONE FIGHT NIGHT 7 ครั้งนี้ เด็กซ่าจอมน็อกเอาต์เดินหน้ารัวอาวุธใส่จนนักสู้เพื่อนร่วมชาติไม่ยอมออกจากมุมหลังจบยก 4 ผู้ชี้ขาดบนเวทีจึงตัดสินใจสั่งยุติการแข่งขัน พร้อมชูมือให้ “ฟาบริซิโอ” กลายเป็นแชมป์โลก ONE MMA รุ่นแบนตัมเวต คนใหม่ทันที
“ทุกวันที่ผมตื่นขึ้นมา ผมยังไม่อยากเชื่อว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตผมเป็นเรื่องจริง ผมมาไกลขนาดนี้ แต่สิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นที่สุด คือผมรู้เสมอว่าต่อให้ลำบากแค่ไหน ผมก็จะทำให้สำเร็จ”
“ถ้าคุณเชื่อในหัวใจของคุณ จงทำในสิ่งที่ต้องทำ เพราะเมื่อถึงจุดหนึ่ง ทุกอย่างจะดีขึ้น เราหว่านพืชวันนี้เพื่อหวังผลในวันพรุ่งนี้ครับ”
#ลบความทรงจำแย่ ๆ ด้วยเป้าหมายแน่วแน่ในชีวิต
แม้ความทรงจำแย่ ๆ ในวัยเด็กจะยังตามมาหลอกหลอนจิตใจของ “ฟาบริซิโอ” อยู่เสมอ แต่เขาก็สามารถเอาชนะมันได้ด้วยศิลปะการต่อสู้ควบคู่กับเป้าหมายในชีวิต โดยราชัน MMA กำลังจะสานต่อความฝันของตัวเองด้วยหวนกลับคืนสู่กีฬาคิอกบ็อกซิ่งที่เขาเคยสร้างชื่อ พร้อมกับโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ในการลุ้นครองเข็มขัดสองเส้น
“ฟาบริซิโอ” ยังคงมุ่งมั่นกับเป้าหมายดั้งเดิมที่ตั้งใจไว้เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ของตนเอง เหนือสิ่งอื่นใด การบรรลุเป้าหมายครั้งนี้จะช่วยทำให้ชีวิตของเขาและครอบครัวสุขสบาย ซึ่งเป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะช่วยลบภาพจำอันเลวร้ายในวัยเด็กของเขาไปให้สิ้น
“คุณต้องมองหาสิ่งที่คุณชอบ ไม่ว่าจะเป็นกีฬา งาน หรือสิ่งที่คุณชอบทำจริงๆ และนึกภาพว่าคุณอยากไปให้ถึงจุดไหน หากคุณมีเป้าหมาย คุณจะตื่นขึ้นมาทุกวันพร้อมภารกิจในการพยายามเพื่อบรรลุมันให้ได้ นี่จะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณก้าวไปข้างหน้าในทุก ๆ วัน และมันจะช่วยลบความทรงจำแย่ ๆ ที่คุณมี”
“การเป็นแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่งก็เป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝันมาตลอด ตอนนี้ผมได้เป็นแชมป์โลกในองค์กรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระดับโลกแล้ว มันสุดยอดมาก และผมแทบจะรอเวลาให้ถึงเวลานั้นไม่ไหวแล้วครับ ”
ติดตามความคืบหน้าได้ที่นี่และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และอินสตาแกรม ONEChampTh