ไม่มีดีคงไม่กล้ามา “เว่ย รุย” กำสถิติชนะรวด 20 ไฟต์ ปะทะอดีตราชาคิกบ็อกซิ่ง “ฮิโรกิ”
“เว่ย รุย” นักชกชาวจีนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล วัย 32 ปี พร้อมสร้างแรงสะเทือนประเดิมบู๊ใน ONE เป็นครั้งแรก เปิดศึกพบกับ “ฮิโรกิ อากิโมโตะ” นักสู้หนุ่ม วัย 31 ปี จากญี่ปุ่น ดีกรีอดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต (135 – 145 ป.) และผู้รั้งอันดับ 1 แรงกิงในรุ่นคนปัจจุบัน โดยเตรียมวัดฝีมือกันภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต ในศึก ONE Fight Night 22: สมิลลา vs นาตาเลีย ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 07.00 น. ของวันเสาร์ที่ 4 พ.ค.นี้
แม้ “เว่ย รุย” จะมีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่แฟนพันธ์ุแท้คิกบ็อกซิ่ง แต่ผู้ชมคนอื่น ๆ จากทั่วโลกอาจยังไม่คุ้นเคยกับผลงานอันสุดยอดของเขามากนัก และนี่คือ 5 เรื่องที่น่ารู้ที่จะทำให้คุณรู้จักเจ้าของฉายา “Demon Blade” ดียิ่งขึ้น
#จอมวิวาทในโรงเรียน
สำหรับ “เว่ย รุย” เกิดและเติบโตที่มณฑลเหอหนาน ในครอบครัวที่ต้องดิ้นรนหาเงินเลี้ยงชีพ แม้ในวัยเด็กเขาจะชอบมีเรื่องทะเลาะวิวาทที่โรงเรียนอยู่บ่อย ๆ โดยที่ทางบ้านไม่เคยรับรู้ ก่อนที่ทางโรงเรียนจะแนะนำให้เขาเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ เหตุเพราะต้องการส่งเสริมให้เขาเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง ซึ่งเขาก็สามารถฉายแววพรสวรรค์ที่มีในการฝึกฝน “สานต่า” กีฬาการต่อสู้ของจีนที่ผสมผสานเทคนิคมวยสากล, คิกบ็อกซิ่ง, การกอด และการเตะที่มีประสิทธิภาพเข้าด้วยกัน
“ผมเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทในโรงเรียน แต่พ่อแม่ไม่รู้เพราะผมทำตัวเป็นเด็กดีที่บ้าน ผมมีเรื่องการวิวาทจนทำให้ผลการเรียนไม่ดี ผมจึงได้รับคำแนะนำให้ย้ายไปเรียนในโรงเรียนศิลปะการต่อสู้”
“พ่อแม่ของผมเคารพการตัดสินใจของผมเสมอ ถ้าผมเลือกอยากทำอะไร พวกท่านจะสนับสนุนผมเต็มที่และให้สิทธิ์ขาดให้ผมตัดสินใจเอง แต่แม่ขออย่างเดียวคือผมต้องเป็นคนดี”
#นักชกคิกบ็อกซิ่งเก่งสุดแบบปอนด์ต่อปอนด์
ด้วยพรสวรรค์อันยอดเยี่ยมด้านกีฬาส่งผลให้ “เว่ย รุย” ก้าวขึ้นมาเป็นดาวเด่นในกีฬาสานต่าระดับประเทศอย่างรวดเร็ว แต่ความสำเร็จดังกล่าวไม่ได้สร้างความมั่นคงทางการเงินให้เขาดีพอ เจ้าตัวจึงเลือกหันมาเอาดีทางด้านคิกบ็อกซิ่งแทน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตเลยทีเดียว
“ตอนที่ผมอยู่ในทีมสานต่า ผมไม่มีรายได้อะไรเลย ผมจึงรู้สึกว่ามันดูไม่ค่อยมีอนาคตเท่าไหร่ และเพื่อช่วยลดเรื่องภาระด้านการเงินของครอบครัว ผมจึงตัดสินใจเปลี่ยนมาฝึกคิกบ็อกซิ่งแทน”
ความสำเร็จของ “เว่ย รุย” ทำให้เขาได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในนักกีฬาคิกบ็อกซิ่งที่เก่งที่สุดในโลกมาหลายปี และเคยเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ชั้นยอดจากทั่วทุกมุมโลก ส่งให้เขาขึ้นเทียบชั้นกับนักชกคิกบ็อกซิ่งตัวท็อประดับโลกอย่าง “ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทรนนิงแคมป์”, “ชิงกิซ อัลลาซอฟ” และ “มารัต กริกอเรียน” ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
#ดีกรีแชมป์หลายเวที
ตลอดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา “เว่ย รุย” มีสถิติในการแข่งขันคิกบ็อกซิ่งที่ยอดเยี่ยม ด้วยการชนะ 69 ครั้ง และแพ้เพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น โดยในปี 2558 เจ้าตัวคว้าแชมป์ WLF แชมเปียนชิพ จากนั้นในอีกสองปีต่อมา เขาคว้าตำแหน่งแชมป์โลก K-1 กรังด์ปรีซ์ รุ่นไลต์เวต มาครองได้ ทำให้เขาได้กลายเป็นแชมป์โลก K-1 ชาวจีนคนแรกในประวัติศาสตร์
แน่นอนว่าเส้นทางอาชีพของ “เว่ย รุย” ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เช่นเดียวกับนักสู้อาชีพคนอื่น ๆ เขาต้องเผชิญหน้ากับอาการบาดเจ็บรบกวนเป็นประจำ แต่แรงฮึดและความมุ่งมั่นอันไม่สิ้นสุดพาเขาฝ่าฟันทุกอุปสรรคไปได้เสมอ โดยตอนนี้สายตาของเขากำลังจับจ้องไปที่ความท้าท้ายที่ใหญ่ขึ้น โดยหวังจัดการปราบนักสู้ที่เก่งที่สุดของ ONE ลงไปทีละรายเพื่อไปถึงแชมป์โลกให้ได้
#แพ้ใครไม่เป็น 20 ไฟต์ นาน 6 ปี
ในช่วงอาชีพของ “เว่ย รุย” เคยผ่านการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้สายแข็งมาไม่น้อยและเคยเอาชนะนักสู้ชาวไทยชื่อดังมาแล้วหลายราย ไม่ว่าจะเป็น “เพชรพนมรุ้ง เกียรติหมู่9” แชมป์โลกมวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง, “ปกรณ์ พีเค.แสนชัย” แชมป์โลกมวยไทยเวทีลุมพินีและราชดำเนิน รวมถึงนักสู้ฝีมือดีอย่าง “ธนชัย ธนกรยิม” ต่างเคยถูกเขาโค่นลงมาได้หมดแล้ว
ส่วนตอนนี้เขากำลังอยู่ในช่วงฟอร์มเข้าฝักสุดขีด เก็บชัยชนะรวดมาได้แล้ว 20 ไฟต์ติดต่อกัน หลังจากความพ่ายแพ้ครั้งสุดท้ายเมื่อเดือน มี.ค.61 อย่างไรก็ตาม เจ้าตัวยังคงกระตือรือร้นที่จะพิสูจน์ฝีมือตัวเองกับบรรดานักสู้ระดับท็อปในเวทียิ่งใหญ่ระดับโลก และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงอยากมาโชว์ฝีมือใน ONE
#โอกาสเฉิดฉายใน ONE
ในช่วงหกปีที่ผ่านมา “เว่ย รุย” ได้สร้างชื่อเสียงให้กับ “ต้าตงเซียง ไฟต์คลับ” ต้นสังกัดของเขาให้กลายเป็นค่ายมวยระดับท็อปของประเทศจีน และเมื่อได้มีโอกาสขึ้นชกกับตัวท็อปคิกบ็อกซิ่งชาวญี่ปุ่น “ฮิโรกิ” ที่มีดีกรีอดีตราชันคิกบ็อกซิ่งติดปลายนวม เขาก็ยินดีตอบรับโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้อย่างหน้าชื่นตาบาน โดยหวังจะประกาศศักดาสุดยอดนักชกคิกบ็อกซิ่งจากแดนมังกรให้เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก
“ผมอยากสู้เพื่อทีมของผมและหวังว่าจะสามารถนำชื่อเสียงเกียรติยศมาให้ทีมของผม ผมคิดว่า ONE เป็นองค์กรกีฬาที่ทรงอิทธิพลและทรงคุณค่าที่สุดในวงการนักชกสายยืนสู้ทั่วโลก ผมหวังว่าผมจะพิสูจน์ตัวเองได้ในระดับนานาชาติและโชว์ให้โลกได้เห็นถึงพลังของนักสู้จากจีนครับ”
ติดตามชม “เว่ย รุย vs ฮิโรกิ” ศึก ONE Fight Night 22: สมิลลา vs นาตาเลีย ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันเสาร์ที่ 4 พ.ค.นี้ จองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 07.00 น. และรับชมทางช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
- ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 10.00 น.
- เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand เริ่ม 07.00 น.
- ยูทูบ ONE Championship (บางประเทศ) เริ่ม 07.00 น.
- Watch.ONEFC.com เริ่ม 07.00 น.