คนนี้ของจริง เปิดชีวิต “อนาโตลี มาลีคิน” แชมป์โลก MMA 3 รุ่นคนแรกในประวัติศาสตร์
ประกาศศักดาให้คนทั่วโลกจดจำเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ “อนาโตลี มาลีคิน” ราชัน MMA วัย 35 ปี ชาวรัสเซีย หลังจากย้ำแค้นพิชิตชัยเหนือคู่ปรับเก่า “ไรเนียร์ เดอ ริดเดอร์” สร้างประวัติศาสตร์ ผงาดเหนือบัลลังก์แชมป์โลก MMA 3 รุ่นในเวลาเดียวกันเป็นคนแรกของ ONE ได้สำเร็จ ในศึก ONE 166: Qatar ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศกาตาร์ ณ ลูเซล สปอร์ตส์ อารีนา เมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา
นับตั้งแต่เปิดตัวใน ONE เมื่อปี 2564 “อนาโตลี” ก็สร้างความฮือฮาไปทั่ววงการ MMA ด้วยการเก็บสถิติไร้พ่ายจนได้โอกาสขึ้นเถลิงบัลลังก์แชมป์โลก ONE MMA รุ่นไลต์เฮฟวีเวต (205-225 ป.) และ รุ่นเฮฟวีเวต (225-265 ป.) อย่างสมใจ มาวันนี้เขาจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่บนสังเวียน ONE ได้สำเร็จ ด้วยการกระชากเข็มขัดแชมป์รุ่นมิดเดิลเวต (185-205 ป.) มาครองเพิ่มอีกเส้น แต่ถึงกระนั้น ยังมีอีกหลายเรื่องราวที่ทุกคนอาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับจอมปิดเกมจากแดนหมีขาวรายนี้
เพื่อให้ทุกคนรู้จัก “อนาโตลี” ให้มากขึ้น วันนี้เราจะขออาสาพาย้อนกลับไปดูเส้นทางนักสู้ของเขาตั้งแต่จุดเริ่มต้น จนมาถึงปัจจุบันที่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นนักกีฬาผู้จารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการ MMA ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
#1 จากนักเต้นลีลาศสู่วงการมวยปล้ำ
“อนาโตลี” เติบโตขึ้นมาในแถบตะวันตกเฉียงใต้ของไซบีเรีย ไม่มีใครเชื่อว่าเด็กหนุ่มผู้แข็งแกร่งรายนี้ จะเริ่มต้นชีวิตนักกีฬาด้วยการเป็นนักเต้นลีลาศ อย่างไรก็ตาม ปู่ของเขารับรู้ได้ถึงพลังอันมหาศาลที่มีอยู่ในตัวหลานชายอย่างเหลือล้น จึงได้พา “อนาโตลี” ไปสมัครเป็นนักมวยปล้ำฟรีสไตล์ ซึ่งภายหลังเขาได้ฉายแววพรสวรรค์ในกีฬานี้อย่างรวดเร็ว
“อนาโตลี” ตะเวนลงแข่งขันมวยปล้ำไปทั่วราชอาณาจักร พร้อมทั้งกวาดเหรียญทองในรายการระดับประเทศมาครองได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ จนในที่สุดเขาก็สามารถพิชิตรางวัล Master of Sport อันทรงเกียรติที่นักสู้ทุกคนต่างจับจ้อง และปรารถนาอยากจะได้มาครอบครองสักครั้งในชีวิต
#2 แรงบันดาลใจจากตำนานชาวรัสเซีย
แน่นอนว่า “อนาโตลี” ทุ่มเทชีวิตให้กับการเป็นนักกีฬาต่อสู้อย่างแข็งขัน ในขณะเดียวกัน การได้เห็นไอดอลผู้เป็นตำนานนักสู้ของชาวรัสเซียอย่าง “เฟดอร์ เอเมเลียเนนโก” ทำให้เขาเริ่มหันเหความสนใจและอยากเจริญรอยตามชายผู้นี้เข้าสู่วงการศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน
“เฟดอร์ เอเมเลียเนนโก” ได้ชื่อว่าเป็นนักสู้รุ่นเฮฟวีเวตร่างเล็ก แต่เต็มไปด้วยพิษสงรอบด้านทั้งในเกมยืนที่มีพลังอาวุธหนักหน่วง และทักษะเกมนอนสุดโหดที่สามารถใช้ปิดเกมคู่ต่อสู้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ “อนาโตลี” หวังพัฒนาฝีมือตัวเองเพื่อเจริญรอยตามไอดอลผู้ยิ่งใหญ่ของเขารายนี้
“เมื่อผมได้ดูการต่อสู้ของ เฟดอร์ ผู้เป็นตำนานในครั้งแรก ผมก็บอกกับตัวเองทันทีว่าผมจะต้องเป็นเหมือนชายคนนี้ให้ได้ครับ”
#3 จอมปิดเกมผู้แพ้ใครไม่เป็น
การพลิกบทบาทจากนักกีฬามวยปล้ำมาสู่ขาบู๊สาย MMA ของ “อนาโตลี” นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและชาญฉลาด หลังจากประสบความสำเร็จในระดับสมัครเล่นจนหมดความท้าทาย เขาจึงตัดสินใจเริ่มเทิร์นโปรในระดับอาชีพ ก่อนจะเดินหน้าเก็บแต้มชัย 8 ไฟต์รวด และได้โอกาสเปิดตัวบนเวทีระดับโลก ONE
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังคงรักษาฟอร์มแกร่งเอาไว้ได้อย่างคงเส้นคงวา กระทั่งประกาศศักดาคว้าเข็มขัดเส้นสีทองมาคาดเอวได้อย่างสมภาคภูมิถึง 2 รุ่นน้ำหนัก และที่น่าประทับใจที่สุดคือ “อนาโตลี” สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ทุกคนได้แบบไม่ครบยกตลอด 6 ไฟต์ใน ONE
#4 ทุ่มเททั้งชีวิตให้กับ ภรรยา และ ลูกชาย
นอกจากการต่อสู้ที่ “อนาโตลี” ทุ่มเทให้อย่างสุดตัว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา เขามักจะใช้เวลาอยู่กับ “อนิตา” ภรรยาสาวอันเป็นที่รัก และ “เลฟ” ลูกชายสักขีพยานรักตัวน้อยที่เป็นดั่งโซ่ทองคล้องใจ
ด้าน “อนิตา” นอกจากจะรับหน้าที่ดูแลโซเชียลมีเดียให้กับ “อนาโตลี” ยังเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้กับสามีของเธอเพื่อดูแลด้านธุรกิจอาชีพนักต่อสู้ อย่างไรก็ตาม หนึ่งในข้อกำหนดของเธอในการรับบทบาททั้งหมดทั้งมวลก็คือ “อนาโตลี” ต้องใช้ชื่อสัตว์เลี้ยงของเธอเป็นสมญานาม นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ “อนาโตลี” ต้องเปลี่ยนฉายาจาก “Spartak” มาเป็น “Sladkiy” ซึ่งมีความหมายว่า “หวานใจ”
#5 ฟอร์มจัดทุบโบนัสกระจาย
“อนาโตลี” ถือเป็นนักสู้ที่มักจะสร้างสถิติใหม่ ๆ ให้กับวงการอยู่เสมอ ด้วยขีดความสามารถที่จัดการปิดเกมคู่ต่อสู้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้เขาฟันโบนัสจากบิ๊กบอส “ชาตรี” อยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะสองไฟต์ที่เขาสามารถปิดเกม “คิริลล์ กรีเชนโก” และ “ไรเนียร์ เดอ ริดเดอร์” ในภาคแรก จนขึ้นแท่นนั่งบัลลังก์แชมป์โลก ซึ่งทั้ง 2 ไฟต์นี้ “อนาโตลี” ได้รับโบนัส 2 เด้ง เป็นเงินจำนวน 100,000 ดอลลาร์ (ราว 3.5 ล้านบาท) ไม่รวมค่าตัว
อย่างไรก็ตาม “อนาโตลี” ไม่ได้ใช้เงินจำนวนนี้ซื้อความสุขให้กับตัวเองเพียงอย่างเดียว เพราะเขายังถอยรถกระบะป้ายแดงให้กับ “จอห์น ฮัทชินสัน” เทรนเนอร์คู่บุญของเขาเพื่อตอบแทนการทำงานหนักจนส่งให้เขาประสบความสำเร็จบนถนนสายนักสู้
ติดตามข่าวสารและความคืบหน้าได้ที่นี่และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และอินสตาแกรม ONEChampTh