เจาะประวัติ “เสือแบล็ค” นักมวยกะเหรี่ยงที่ไม่ยอมแพ้โชคชะตาผู้หยิบสัญญานักกีฬา ONE รายที่ 10
“เสือแบล็ค ท.พราน49” จอมบู๊พลังแกร่งเชื้อสายกะเหรี่ยง วัย 28 ปี จากเพชรบุรี ฝากผลงานร้อนแรงในปี 2566 ด้วยการปิดเกมคู่ชกแบบไม่ครบยกได้รวด 4 ไฟต์ติดต่อกัน จนสามารถพิชิตใจของบิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” มอบสัญญานักกีฬา ONE มูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.7 ล้านบาท) ให้เป็นรางวัลในศึก ONE ลุมพินี 46: ตะวันฉาย vs ซุปเปอร์บอน เมื่อ 22 ธ.ค.66
โอกาสนี้ เราขอพาไปทำความรู้จักกับ “เสือแบล็ค“ ให้มากขึ้น จากวัยเด็กที่เขาต้องเผชิญกับความยากลำบากอดมื้อกินมื้อ แต่อาศัยความทุ่มเทไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคสร้างชื่อขึ้นมาในศึก ONE ลุมพินี ก่อนกลายมาเป็นนักชกที่ทุกคนต้องหันมาจับตามองพร้อมโชว์ผลงานในเวทีระดับโลกอยู่ในเวลานี้
#เสืออันตรายจากป่าเด็ง
พื้นเพของ “เสือแบล็ค” เป็นคนเพชรบุรี อยู่ในชุมชนชาวกะเหรี่ยงกลุ่มปกาเกอะญอบ้านป่าเด็ง ที่บ้านมีอาชีพทำไร่ทำสวน เริ่มชกมวยตั้งแต่อายุ 7 ขวบตามพี่ชายที่ใช้ชื่อในวงการมวยว่า “ก้องภพ ท.พราน49” ซึ่งปัจจุบันยังชกมวยอยู่เช่นกัน จนกระทั่งอายุ 12 ปี ถึงได้ติดสอยตามพี่ชายขึ้นมาชกที่กรุงเทพฯ ด้วยกัน
ส่วนชื่อ “เสือแบล็ค” มาจากชื่อเล่น “แบล็ค” ที่พ่อแม่ตั้งให้ตั้งแต่เกิด ส่วน “เสือ” เป็นฉายาที่เพื่อน ๆ เรียก โดยไฟต์แรกที่ใช้ชื่อ “เสือแบล็ค” คือไฟต์ที่ชนะน็อกยกสอง “ฟาบิโอ เรอิส” จากโปรตุเกส ได้ในปี 2563 โดยถือเป็นไฟต์แจ้งเกิดของตนแบบเต็มตัว จึงตัดสินใจเลือกใช้ฉายานี้มาตลอด
#ขยันผิดที่ 10 ปี ก็ไม่รวย
“เสือแบล็ค” ชกมวยมาเกือบ 20 ปี ไต่จากค่าตัว 300 บาทในวันแรก ค่อย ๆ ขยับสู่หลักหมื่น ผ่านการเจ็บตัวมาเยอะ เป็นแค่มวยเกรดรองที่คนมองไม่เห็นความสามารถ จนบ่อยครั้งเขาต้องไปทำงานรับจ้างเป็นกรรมกรก่อสร้าง เพราะลำพังรายได้จากการชกมวยไม่พอเลี้ยงปากท้อง
“ผมเคยลำบากสุด ๆ บางวันต้องขอยืมเงินแม่ยาย มาซื้อนมให้ลูก เพราะรายได้ไม่พอใช้จ่าย ผมเคยพูดกับภรรยาว่า อยากมีโอกาสมาชกที่ ONE ลุมพินี ตอนนี้ผมมาถึงฝันแล้ว การได้มาชกในรายการ ONE ลุมพินี ทำให้ชีวิตของผมดีขึ้นเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ”
#แสงสว่างที่ ONE ลุมพินี
หลังจากวันแรกที่ “เสือแบล็ค” ปรากฏตัวในศึก ONE ลุมพินี 20 เมื่อ 9 มิ.ย.66 เหมือนเขามองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ สามารถพัฒนาการชกของตัวเองให้ถูกใจแฟน ๆ ของ ONE และด้วยบุคลิกอ่อนน้อมถ่อมตน เขาสั่งสมแฟนคลับของตัวเองมากขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว
“เสือแบล็ค” เปิดตัวด้วยการชนะน็อก “ธนูเงิน เอฟเอ.กรุ๊ป” ตามด้วยปิดเกมไม่ครบยก “เลนนี บลาซี” จากอิตาลี และ “ชินจิ ซูซูกิ” จากญี่ปุ่น กระทั่งในศึก ONE ลุมพินี 46 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เขากดน็อกยกแรก “เคร็ก โคกลีย์” แชมป์ Road To ONE UK รับโบนัส 350,000 บาทเป็นไฟต์ที่ 4 ติดต่อกัน และยังพิชิตสัญญานักกีฬา ONE มูลค่า 100,000 ดอลลาร์ (ราว 3.7 ล้านบาท) ไปครอง
#ขอพิสูจน์ตัวเองในระดับโลก
ในวัย 28 ปี “เสือแบล็ค” รู้ดีว่านี่คือช่วงเวลาสำคัญของอาชีพนักมวย เหมาะสมที่จะเค้นฟอร์มทีดีที่สุดในชีวิตออกมาให้ได้ เพื่อปะทะฝีมือกับคู่ต่อสู้สุดแข็งแกร่งอีกมากที่ยืนขวางหน้าอยู่บนเวทีระดับโลก
“ตอนผมรู้ว่าตัวเองได้รับสัญญา ONE มันเป็นคำพูดที่ทำให้ผมดีใจที่สุดในชีวิตของอาชีพนักมวยของผมเลยก็ว่าได้ ความฝันของผมคือการได้เข้ามาชกในศึก ONE ลุมพินี และอยากชกในศึก วัน แชมเปียนชิพ ด้วย ตอนนี้ผมทำตามความฝันได้สำเร็จก็ดีใจมาก ผมได้รับคำตอบที่ชัดเจนแล้วว่า ตัวเองมีดีพอกับการได้เป็นนักกีฬาของ ONE ครับ”
#คนต้นแบบพี่น้องกะเหรี่ยง
หนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่ “เสือแบล็ค” พูดถึงอยู่ตลอดเวลา คือการพาตัวเองไปเป็นนักมวยที่สร้างชื่อบนเวทีระดับโลกให้ได้ ในฐานะตัวแทนของพี่น้องชาวกะเหรี่ยง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับน้อง ๆ รุ่นใหม่ต่อไป
ปัจจุบัน “เสือแบล็ค” แบ่งเงินรางวัลบางส่วนไปสร้างค่ายมวยของตัวเองที่บ้านเกิดในชื่อ “ค่ายมวยศิษย์ดามัน” เพื่อสานต่อปณิธานเปิดโอกาสให้เยาวชนในหมู่บ้านที่เป็นเด็กกะเหรี่ยง เด็กยากจน ได้มีสถานที่ฝึกซ้อมมวยเป็นประจำ หวังว่าสักวันหนึ่งจะมีเด็กสายเลือดใหม่ก้าวขึ้นมาเป็นนักมวยที่มีชื่อเสียงแบบตัวเองได้
โดยหลังจากนี้ “เสือแบล็ค” จะสร้างชื่อใน ONE ได้โด่งดังมากแค่ไหน แฟน ๆ สามารถติดตามอัปเดตโปรแกรมการแข่งขันของเขาได้ที่นี่ และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และ อินสตาแกรม ONEChampTh