เส้นทางแชมป์โลก BJJ 5 สมัยของหนุ่มเนิร์ด “ไมกี มูซูเมกี” ที่ต้องใช้มากกว่าความพยายาม
หากเอ่ยชื่อ “Darth Rigatoni” ไมกี มูซูเมกี แฟนกีฬาชาวไทยคงอาจไม่คุ้น แต่สำหรับชาวมะกันเขาคือดาวรุ่งชื่อดังในกีฬาปล้ำจับล็อก (Submission Grappling) และเป็นหนึ่งในนักกีฬาแถวหน้าในกีฬาปล้ำจับล็อกของ ONE ในปีนี้
นักกีฬาจอมล็อกดีกรีแชมป์โลกบราซิลเลียนยิวยิตสู (BJJ) 5 สมัยกำลังจะได้โอกาสขึ้นชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE ปล้ำจับล็อก รุ่นฟลายเวต เส้นแรกในประวัติศาสตร์ โดยจะพบกับคู่แข่งชาวบราซิล “เคลเบอร์ ซัวซา” ในศึก ONE Fight Night 2: ซง vs แองเจลา III ที่จะถ่ายทอดสดช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ตรงกับช่วงเช้าเวลา 7.00 น. ของวันเสาร์ที่ 1 ต.ค.65 ตามเวลาประเทศไทย
เส้นทางที่ผ่านมากว่าจะถึงจุดนี้ ไมกี ต้องแลกมาด้วยการเสียสละอย่างมหาศาล และนี่คือเรื่องราวเส้นทางชีวิตนักสู้ที่ไม่เหมือนใครของชายหนุ่มวัย 25 ปีที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเป็นนักกีฬาอนาคตไกลบนเวทีระดับโลก
#วัยเด็กแสนธรรมดาแต่เปี่ยมสุข
ไมกี เกิดที่อีสต์ บรันสวิค รัฐนิวเจอร์ซีย์ โดยสืบสายเลือดบรรพรุษชาวอิตาลี-อเมริกันในย่านบรูคลิน มหานครนิวยอร์ก ไมกี จึงเติบโตมาในวถีชีวิตและวัฒนธรรมที่ผสานกันอย่างลงตัวระหว่างอิตาลี และวิถีชาวนิวยอร์ก
ไมกี ในวัยเด็กได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีในเขตชานเมือง เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับพ่อแม่และพี่สาว “แทมมี” โดยมีความสุขตามประสาเด็กกับการเล่นกีฬาทั่วไปและได้วิ่งเที่ยวเล่นในป่าธรรมชาติในละแวกบ้าน
#ลิ้มรสการต่อสู้ครั้งแรก
แม้พ่อของ ไมกี จะไม่ใช่นักกีฬาการต่อสู้ แต่เขาเป็นแฟนตัวยงของกีฬาการต่อสู้ ซึ่งได้ส่งต่อแรงบันดาลใจไปยัง ไมกี ตั้งแต่เขาอายุได้เพียง 4 ขวบ หลังจากได้เห็นพ่อของเขาเริ่มฝึกมวยไทย ไมกี เริ่มสนใจเรียนมวยไทยและ BJJ ในเวลาต่อมา
หลังจากฝึกในยิมท้องถิ่นได้ไม่นาน พรสวรรค์ของเขาเริ่มฉายแวว โค้ชจึงให้เขาลงแข่ง BJJ ครั้งแรกเมื่ออายุราว 4-5 ขวบ และเป็นฝ่ายชนะด้วย แต่ชัยชนะครั้งนั้นกลับทำให้เขาเดินร้องไห้ออกจากสนามและบอกกับว่าพ่อว่า “มันน่ากลัว”
“ผมจำได้ว่าผมลงเล่น แล้วผมก็อัดกับคู่ต่อสู้เด็กด้วยกัน แต่ผมเดินร้องไห้ลงจากเวทีไปกอดพ่อ แล้วบอกว่า ผมไม่อยากสู้แล้ว เพราะมันน่ากลัวมาก”
#ความสำเร็จที่ต้องเสียสละ
ก่อนที่เขาจะย้ายมาอยู่ฟลอริดา ไมกี มองเป็นกีฬา BJJ เป็นเพียงกิจกรรมสันทนาการแต่เขาเปลี่ยนความคิดทันทีเมื่อเขาเริ่มลงลึกถึง “ศาสตร์อันอ่อนโยน” จากอาจารย์ “Shark” เอเมียร์ บัสซาด ที่คลับในเครือของอเมริกัน ท็อป ทีม ซึ่งเป็นผู้จุดประกายให้ ไมกี ตัดสินใจทุ่มเทให้กับกีฬานี้อย่างเต็มตัว และชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ไมกี หายใจเข้าออกเป็น BJJ โดยใช้เวลาหลังเลิกเรียนในโรงยิมกับพี่สาวที่คว้ามแชมป์ BJJ มาได้ ซึ่งสร้างแรงกระตุ้นให้เขามากยิ่งขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ทำให้เขาเริ่มห่างจากเพื่อน ๆ ในโรงเรียนไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งไม่คุยกับใครและไม่มีใครคบ
แต่เป้าหมายในการเป็นแชมป์ฉายชัดมากว่าอะไร ไมกี จึงตัดสินใจเสียสละชีวิตวัยเด็กทั่วไป ปฏิบัติตามกฎระเบียบวินัยของนักกีฬาอย่างเคร่งครัด กระทั่งไต่เต้าจนได้เข็มขัดและสร้างชื่อให้ตัวเองในวงการ BJJ ซึ่งเป็นการวางรากฐานสำหรับอาชีพในอนาคต โดยเขามองว่าผลลัพธ์ที่ได้มาคุ้มค่ากับช่วงเวลาวัยเด็กที่ต้องเสียไป
“มันต้องยอมเสียสละอย่างมาก มีหลายครั้ง ผมถามตัวเองว่า ‘ทำแบบนี้ถูกแล้วจริง หรือ? ทำไมฉันถึงไม่ควรใช้ชีวิตอย่างวัยรุ่นทั่วไป มีเพื่อน มีชีวิตตามปกติ
“แต่ตอนนี้เมื่อผมมองย้อนกลับไป มันคุ้มค่ากับการเสียสละเพราะมันทำให้ชีวิตผมมาอยู่ ณ จุดนี้ การอุทิศตนและการเสียสละของผมในวัยนั้นทำให้ผมเป็นผมในวันนี้ครับ”
#ไต่บันไดความสำเร็จ
ไมกี ชนะการแข่งขันรายการชิงแชมป์โลก IBJJF รุ่นเยาวชน ตามมาด้วยการได้เลื่อนขั้นเป็นสายสีม่วงและสีน้ำตาล จนกระทั่งคว้าสายดำสำเร็จตอนอายุ 18 ปี ในปี 2558
เขายังคงอาละวาดอย่างต่อเนื่องในลีกสูงสุดของกีฬานี้ และกลายเป็นผู้แข่งขัน IBJJF ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา ด้วยการคว้าแชมป์โลก 4 รายการในประเภท ‘gi’ และอีกหนึ่งรายการในประเภท ‘no-gi’
นอกจากจะเก่งในเรื่องกีฬาแล้ว ไมกี ยังเป็นเด็กเรียนดีระดับหัวกะทิ จนได้รับทุนการศึกษาเต็มจำนวนจากโรงเรียนกฎหมายในลาสเวกัส แต่ท้ายที่สุด ไมกี ก็เลือกเส้นทางนักกีฬาเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ใหญ่กว่าเดิม
#พิสูจน์ตัวในระดับโลก
ด้วยเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในกีฬา BJJ ไมกี เซ็นสัญญากับ ONE เมื่อต้นปีนี้และย้ายมาอฝึกซ้อมที่ยิมอีโวลฟ์ MMA ในสิงคโปร์ ซึ่งเขาได้ฝึกร่วมกับแชมป์โลกในกีฬาประเภทต่างๆ
จากนั้น เขาก็โชว์ความร้ายกาจด้วยการเอาชนะจอมรัดล็อกชั้นครูจากแดนซามูไร “มาซากาซึ อิมารานิ” แบบขาดลอยในศึกเปิดตัวเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา แถมทุบโบนัส 50,000 ดอลลาร์แตกกระจุยอีกด้วย
ตอนนี้ นักกีฬาวัย 25 ปีมีแรงจูงใจที่จะพิสูจน์ตัวเองต่อไปบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระดับโลก และตั้งใจที่จะใช้เวทีนี้แสดงออกถึงจิตวิญญาณแท้จริงของนักกีฬาและความงดงามของศิลปะการต่อสู้ซึ่งต่างจากที่เขาเคยประสบพบเจอในฝั่งอเมริกา
“สิ่งที่ผมชอบมากใน ONE ก็คือวัฒนธรรม ที่อเมริกา มีการพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามคู่ต่อสู้ มันแสดงออกถึงไม่ความเคารพและให้เกียรติต่อกันอย่างที่ศิลปะการต่อสู้ควรจะเป็น และปัญหาคือเรากำลังทำให้คนรุ่นต่อไปได้เห็น แล้วพวกเขาเห็นเราทำแบบนี้แล้วจะประพฤติตัวยังไง? คิดแล้วน่ากลัวนะครับ
ทุกการแข่งขันของผม ทุกตำแหน่งที่ผมได้รับ มันยอดเยี่ยม แต่ปีหน้าคนอื่นอาจชนะ แต่สิ่งที่ผมได้ทำไว้มันจะส่งผลต่อไปอย่างไร ถ้ามันส่งผลดีต่อคนอื่น ผมก็จะมีจุดมุ่งหมายที่จะสู้ต่อไป เพราะสิ่งที่ผมทำได้สร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน
สำหรับผมมันคือทุกอย่าง มันไม่ใช่เรื่องเงินทอง มันคือการสร้างผลกระทบทางบวกสู่คนรุ่นต่อไปครับ”
ติดตาม “ไมกี vs เคลเบอร์” ONE FIGHT NIGHT 2: ซง VS แองเจลา III ถ่ายทอดสด วันเสาร์ที่ 1 ต.ค.65 รับชมทาง
- watch.onefc.com เวลา 07.00 น.
- ยูทูบ ONE Championship เวลา 07.00 น.
- AIS Play (เฉพาะลูกค้า AIS) เวลา 07.00 น.
- ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ชมย้อนหลัง เวลา 22.30 น.
อ่านเพิ่มเติม: