Movie Monday: ดูหนังตามนักมวยนายแบบ “ลีโอ ปินโต” 5 เรื่องนี้ดูกี่ทีไม่มีเบื่อ
แม้ว่าการคลายล็อกดาวน์ให้โรงภาพยนตร์สามารถกลับมาเปิดบริการได้ แต่ด้วยกระบวนการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงทำให้การนั่งเก้าอี้ภายในโรงหนังต้องเว้นระยะห่างกัน ตลอดจนการเปิดให้ซื้อหรือจองตั๋วผ่านระบบออนไลน์ เหล่านี้คือ New Normal ที่คอหนังทั้งหลายต้องทำตัวให้คุ้นชิน เพราะเราอาจต้องใช้ชีวิตแบบนี้จนกว่าจะมีวัคซีนป้องกันไวรัสได้อย่างสมบูรณ์
หรืออาจจะลองหาทางเลือกอื่น อย่างเช่นการดูหนังที่บ้าน บนโซฟาตัวโปรด จิบเครื่องดื่มเย็นๆ กินขนมกรุบกรอบซองโปรด ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ ดูอย่าง “ลีโอ” วิกเตอร์ ปินโต นักมวยนายแบบสัญชาติฝรั่งเศส ควบเจ้าของทีมอีสปอร์ตส “PintoGaming” พอมีเวลาว่างปุ๊บเจ้าตัวก็หากิจกรรมผ่อนคลายทำทันที หนึ่งในนั้นคือการชมภาพยนตร์ เปิดโอกาสให้จินตนาการของตนเองได้โลดแล่นไปตามสถานการณ์ต่างๆ ของตัวละครที่เขาหลงรัก
และนี่คือภาพยนตร์ 5 เรื่องที่ ลีโอ คัดสรรและอยากแนะนำให้แฟนๆ ลองไปรับชมกัน เพราะสำหรับเขา 5 เรื่องนี้ดูซ้ำอีกกี่ทีก็ไม่เคยเบื่อเลยจริงๆ
#1 The Lord of the Rings (2544 – 2546)
มหากาพย์ไตรภาค The Lord of the Rings เดิมทีต้นฉบับคือนิยายแฟนตาซีขนาดยาว ประพันธ์โดยศาสตราจารย์ชาวอังกฤษ “เจ. อาร์. อาร์.โทลคีน” เรื่องราวเกิดขึ้นบนดินแดนในจินตนาการที่มีชื่อว่า มิดเดิลเอิร์ธ ตัวละครมีหลายเผ่าพันธุ์ เช่น มนุษย์ เอลฟ์ ฮอบบิท คนแคระ พ่อมด และออร์ค หัวใจของเรื่องเกี่ยวข้องกับแหวนเอกธำมรงค์ ซึ่งสร้างโดยจอมมารเซารอน ดำเนินเรื่องด้วยตัวละครฮอบบิทที่ชื่อ “โฟรโด แบ็กกินส์”
ภายหลังถูกดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ โดยฝีมือการกำกับของ “ปีเตอร์ แจ็กสัน” ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ชุดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและมีอิทธิพลมากที่สุดที่เคยสร้างมา และยังประสบความสำเร็จในด้านรายได้ โดยเป็นภาพยนตร์ชุดที่ทำเงินสูงสุดอันดับที่ 9 ด้วยจำนวนเงิน 2.981 พันล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก ได้รับรางวัลออสการ์ 17 รางวัลจากการเข้าชิงทั้งหมด 30 รางวัล
The Lord of the Rings มีทั้งหมด 3 ภาคด้วยกันคือ อภินิหารแหวนครองพิภพ, ศึกหอคอยคู่กู้พิภพ และ มหาสงครามชิงพิภพ
“จริงๆ แล้วผมเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบดูหนังแนวแฟนตาซีสักเท่าไหร่ครับ แต่กับเรื่องนี้เป็นข้อยกเว้น ผมชอบเรื่องราวการผจญภัยของตัวละครกลุ่มนี้มากๆ ทุกอย่างมันมีเสน่ห์น่าติดตามตลอด ขนาดว่ามีถึง 3 ภาค แต่เนื้อเรื่องก็ยังสนุกอยู่ตั้งแต่ต้นจนจบ ที่สำคัญคือกราฟฟิกอลังการงานสร้างมาก 10 ปีให้หลังกลับมาดูอีกที ผมก็ยังว้าวอยู่เลย”
#2 Rocky (2519)
Rocky เป็นภาพยนตร์แอ็กชันเกี่ยวกับกีฬา กล่าวถึงชีวิตของนักมวยชื่อดังนามว่า “ร็อคกี บาบัว” ที่รับบทโดย “ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน” ซึ่งเขียนบทเองด้วย และกำกับโดย “จอห์น จี เอวิลด์เซน”
“หนังเรื่องนี้อาจจะดูเก่าไปหน่อย และมีฉากการต่อสู้ที่ชวนให้อึดอัดอยู่บ้าง แต่เพราะว่ามันคือเรื่องราวของทั้งสุดยอดตำนานมวยในจออย่าง ร็อคกี บาบัว และนักสู้ในชีวิตจริงของ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรพลาดความคลาสสิกขึ้นหิ้งด้วยประการทั้งปวงครับ”
#3 Catch Me if You Can (2545)
ผลงานการกำกับโดย “สตีเวน สปิลเบิร์ก” ที่ส่งให้นักแสดงนำชาย “ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ” ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำเป็นครั้งที่ 3 จากบทบาทตัวเอกของเรื่อง “แฟรงค์ อบาเนล” เรื่องราวของนักต้มตุ๋นในตำนานบนโลกแห่งความจริง
“สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ให้แง่คิดว่า ต่อให้คุณฉลาดแค่ไหน แต่ถ้าเอาไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง สุดท้ายมันก็กลายเป็นกับดักที่จะจับตัวคุณเองในที่สุด”
#4 Shutter Island (2553)
ผลงานการกำกับของ “มาร์ติน สกอร์เซซี” จัดอยู่ในหมวดภาพยนตร์แนวกระตุกขวัญ/ลึกลับ ว่าด้วยเรื่องราวของนายตำรวจ “เท็ดดี แดเนียล” ซึ่งแสดงโดย “ลีโอนาร์โด ดิแคพรีโอ” กับคู่หูร่วมงาน “ชัค” ที่เดินทางมายังเกาะลึกลับ ซึ่งเป็นสถานบำบัดและคุมขังนักโทษที่มีปัญหาทางจิตรุนแรง เพื่อสืบค้นคดีบางอย่างเกี่ยวกับนักโทษปริศนาที่หายตัวไป
“ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แต่ผมดูหนังเรื่องนี้ทีไร ผมจะป่วยไม่สบายทุกทีเลย แล้วก็ยังจะชอบดูซ้ำอยู่เรื่อยๆ ครับ (หัวเราะ)”
#5 Marco Polo (2557)
“มาร์โก โปโล” เป็นชาวอิตาลีที่มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์ และออกตัวว่าเขาเคยเดินทางไปถึงทวีปเอเชียเมื่อประมาณ 1,000 กว่าปีที่แล้ว แต่ก็มีผู้คนอยู่จำนวนหนึ่งที่ไม่เชื่อใจเขา คิดว่าโกหกและเอาเรื่องของคนอื่นมาเล่าอีกที เพียงเพื่อต้องการให้โลกจดจำ จนปัจจุบันก็ยังไม่มีใครสามารถยืนยันข้อมูลได้เลยว่าเขาเคยไปที่นั่นในช่วงเวลานั้นจริงๆ หรือไม่
“เรื่องนี้ทำให้ผมได้เกิดจินตนาการต่อว่า มาร์โก โปโล เขาผ่านอะไรมาบ้างในยุคนั้น จริงไม่จริงผมก็ไม่รู้ แต่อย่างน้อยก็ได้ใช้ความคิดครับ”
อ่านเพิ่มเติม:
