มวยไทยคือทางที่เลือกเดิน ส่องชีวิต “นักรบ แฟร์เท็กซ์” ผู้คว้าสัญญา ONE รายที่ 16
ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จก้าวสำคัญของ “นักรบ แฟร์เท็กซ์” มวยบู๊ดุเดือดวัย 25 ปี จาก สุรินทร์ ที่สามารถคว้าสัญญา ONE มาครองได้สำเร็จ หลังจากที่ระเบิดฟอร์มโหดสับศอกเอาชนะน็อก “ทาเกียร์ คาลิลอฟ” นักสู้จากรัสเซีย ไปได้ในกติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ในฐานะคู่เอกของศึก ONE ลุมพินี 67 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา
โดยในไฟต์นี้ “นักรบ” โชว์ความบู๊ดุเดือดสมกับเป็นตัวเองออกมาให้แฟน ๆ ทั่วโลกได้เห็น พร้อมทีเด็ดศอกขวาที่สับเข้าเต็มหน้าของ “ทาเกียร์” หล่นลงไปกองกับพื้นไม่สามารถลุกขึ้นมาสู้ต่อได้เพิ่มสถิติชัยชนะเป็นไฟต์ที่ 8 พร้อมคว้าโบนัส 3.5 แสนบาท ได้เป็นครั้งที่ 5
นอกจากนี้ ด้วยผลงานการเอาชนะ 8 จาก 9 ไฟต์ที่มาชกใน ONE ลุมพินี จึงเป็นเหตุให้บิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” มอบของขวัญชิ้นงามที่ทุกคนหมายปองคือสัญญานักกีฬา ONE มูลค่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.6 ล้านบาท) ให้แก่ “นักรบ” ทันที โดยเป็นนักกีฬา ONE ลุมพินี คนที่ 16 ที่คว้าสัญญาเข้าสู่ วัน แชมเปียนชิพ ได้สำเร็จ
สำหรับ “นักรบ แฟร์เท็กซ์” เป็นชาวจังหวัดสุรินทร์ เริ่มต้นฝึกฝนมวยไทยมาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เนื่องจากในครอบครัวมีเครือญาติเป็นนักมวยหลายคน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “น้องอั๋น ศิษย์หมอลำบัติ” และ “รุ่งราวี ศศิประภายิม”
ต่อมา “นักรบ” ที่ติดสอยห้อยตามพ่อไปดูมวยที่งานวัดแถบละแวกบ้าน และด้วยความบังเอิญว่ามีมวยขาด เขาจึงอยากจะลองขึ้นไปชก และได้ค่าตัว 350 บาท แม้จะประเดิมไฟต์แรกด้วยความพ่ายแพ้เพราะความไม่เป็นมวย แต่ด้วยหัวใจรักการต่อสู้ทำให้ “นักรบ” จึงมุ่งมั่นอยากจะขึ้นสังเวียนอีก
จากนั้น “นักรบ” ฝึกซ้อมมวยอย่างจริงจังตามคำแนะนำของพ่อ และตระเวนเดินสายชกตามภูธรสั่งสมกระดูกมวยจนแทบไม่มีคู่ชก กระทั่งมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยได้รับการติดต่อจากค่ายมวยศศิประภายิม ให้ลงแข่งมวยรอบปูนเสือ จึงได้โอกาสเข้าสู่มหานครเมืองกรุง ครั้งแรกเมื่ออายุ 15 ปี และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เริ่มโด่งดังไปทั่วประเทศในชื่อ “แก่นสวน ศศิประภายิม”
“นักรบ” หรือ “แก่นสวน” ในเวลานั้นได้รับโอกาสขึ้นชกหลายเวที เคยถูกดันขึ้นชิงแชมป์เวทีมวยช่อง 7 ถึง 2 ครั้ง แต่ยังไปไม่ถึงฝั่งฝัน ในเวลาเดียวกัน พ่อและแม่ของเขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้เพราะเห็นลูกชายเจ็บตัวบ่อย ๆ ถึงขั้นเคยบอกอยากให้เลิกชกมวย แต่เจ้าตัวไม่คงยอมถอดใจลาวงการไปง่าย ๆ
กระทั่งในช่วงวิกฤตโควิดระบาดที่ไร้โปรแกรมชก “นักรบ” ถึงกับคิดอยากเลิกชกมวย เพราะไม่ได้ขึ้นเวทีมานานร่วมปี จนต้องหนีไปทำงานเป็นลูกจ้างการไฟฟ้า เพื่อหารายได้ประทังชีวิต
แต่จากการคลุกคลีในวงการมวยมาตั้งแต่เด็ก “นักรบ” อดใจคิดถึงมวยไม่ไหว ก่อนจะเจอจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่อีกครั้ง หลังมีเทรนเนอร์ที่รู้จักชักชวนให้มาอยู่ที่ค่ายแฟร์เท็กซ์ ซึ่งเจ้าตัวใช้เวลาคิดไตร่ตรองนานเป็นเดือน สุดท้ายหัวใจบอกว่ามันยังไม่สายเกินไปที่จะกลับมาสู้ใหม่ จึงตัดสินใจลุยเดี่ยวมาอยู่ในค่ายแบบไม่รู้จักใคร และเปลี่ยนมาใช้ชื่อเป็น “นักรบ แฟร์เท็กซ์” จนถึงปัจจุบัน
การย้ายมาอยู่ค่ายแฟร์เท็กซ์ ทำให้ “นักรบ” ฝีไม้ลายมือพัฒนาขึ้นทันตาเห็น และทำผลงานได้อย่างโดดเด่น จนได้รับโอกาสให้เข้ามาพิสูจน์ตัวเองบนเวที ONE ลุมพินี และโชว์ฟอร์มร้อนแรงจากการเก็บชัยชนะมากถึง 8 ครั้งจากทั้งหมด 9 ไฟต์ โดยเป็นชัยชนะแบบไม่ครบยกถึง 4 ครั้ง ส่งให้เขาได้รับสัญญานักกีฬา ONE หลังเสร็จสิ้นการแข่งขันครั้งล่าสุด
แฟนกีฬาสามารถติดตามข่าวสารอัปเดตได้ที่นี่และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และอินสตาแกรม ONEChampTh