เส้นทางสุดท้าทายของ “นัท วันเดอร์เกิร์ล” ก่อนเปิดศึก “ซง จิง หนาน” ในกติกาพิเศษ
ย้อนดูเส้นทางชีวิตที่เต็มไปด้วยความท้าทายของนักสู้สาวมากความสามารถ “นัท วันเดอร์เกิร์ล” ตั้งแต่ก้าวแแรกที่โลดเล่นในวงการศิลปะการต่อสู้ ก่อนเผชิญความท้าทายครั้งล่าสุด เปิดศึกกับ “ซง จิง หนาน” ในกติกาพิเศษ
“นัท วันเดอร์เกิร์ล จรูญศักดิ์” ยอดฝีมือสาวชาวไทย มีคิวเผชิญหน้ากับ “The Panda” ซง จิง หนาน แชมป์โลก ONE สตรอว์เวต (115 – 125 ป.) กติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) โดยจะดวลพลังหมัดกันภายใต้กติกาพิเศษ ในศึกรวมพลหญิงแกร่ง ONE Fight Night 14: แสตมป์ vs ซอ ฮี ที่จะถ่ายทอดสดจากประเทศสิงคโปร์ ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้าเวลา 07.00 น. ของวันเสาร์ที่ 30 ก.ย.66
แต่ก่อนจะถึงวันประกาศศักดานักสู้หญิงไทย เราจะพาทุกคนย้อนดูเส้นทางนักสู้ของ “นัท วันเดอร์เกิร์ล” ที่ต้องพบเจอกับความท้าทายไม่สิ้นสุดที่คุณรู้แล้วต้องทึ่ง
“นัท วันเดอร์เกิร์ล” สาวน้อยมากความสามารถวัย 24 ปี เธอคือลูกสาวคนโตของอดีตนักมวยชื่อดัง “จรูญศักดิ์ ส.วรพิน” ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นเจ้าของค่ายมวยที่ชื่อ “จรูญศักดิ์มวยไทย” และมีน้องสาวที่คลานตามกันมาอย่าง “แอนนา ซุปเปอร์เกิร์ล จรูญศักดิ์” ที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงเช่นกัน
ทั้งสองคนถือเป็นความหวังของผู้เป็นพ่อที่หมายมั่นปั้นมืออยากให้ลูกเจริญรอยตามบนเส้นทางสายนักสู้ และการที่ติดสอยห้อยตามพ่อไปดูมวยข้างเวทีเป็นประจำก็ทำให้ทั้งคู่ชื่นชอบในเส้นทางสายนี้ โดยเฉพาะลูกสาวคนโตที่ผู้เป็นพ่อตั้งความหวังไว้มากที่สุด
“นัท วันเดอร์เกิร์ล” ประเดิมขึ้นสังเวียนครั้งแรกในรูปแบบมวยไทย แต่หากย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ยังเป็นยุคที่หลายคนยังไม่ค่อยให้ความสำคัญกับมวยหญิงเท่าใดนัก เธอจึงต้องเผชิญกับคำสบประมาทและสถานะเป็นรองของนักมวยหญิงที่ขาดพื้นที่ในการแสดงศักยภาพ
แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคสำหรับสาวน้อยศิษย์เอกแห่งค่ายจรูญศักดิ์มวยไทย เพราะด้วยฝีมือที่เก่งกาจเกินหญิงและเกินวัย ทำให้เธอดั้นด้นหาโอกาสให้ตัวเองภายใต้การสนับสนุนของคุณพ่อจนกระทั่งสามารถกวาดแชมป์ประเทศไทยมาครองได้สมใจ จนได้โอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของค่ายแฟร์เท็กซ์ ที่จะขัดเกลาให้เธอกลายเป็นนักสู้หญิงอนาคตไกลในเวลาต่อมา
และแล้วโอกาสครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตก็มาถึงเมื่อเธอกลายเป็นนักกีฬาในสังกัดของ ONE พร้อมทั้งแจ้งเกิดได้อย่างสวยหรูในกติกามวยไทย รุ่นสตรอว์เวต ด้วยการน็อก “บรูค ฟาร์เรลล์” คู่ชกสาวชาวออสเตรเลีย เพียงยกแรกเท่านั้น เมื่อ 21 ส.ค.63 เท่านั้นไม่พอเธอยังโชว์ความร้อนแรงอย่างต่อเนื่องด้วยการเอาชนะทีเคโอ “เคซี คาลอส” สาวจากฟิลิปปินส์ เมื่อ 28 ส.ค.63
อย่างไรก็ตาม เส้นทางสายมวยไทยมีอันต้องสะดุด เมื่อเธอพลาดท่าพ่ายคะแนนให้กับ “แจ็กกี บุนตัน” สาวแกร่งจากสหรัฐอเมริกา และนำมาซึ่งอาการบาดเจ็บจนทำให้เธอต้องห่างหายจากสังเวียนไปนานถึง 1 ปี ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอต้องตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตนักสู้
การบาดเจ็บจากครั้งนั้นส่งผลให้เธอต้องพักรักษาตัวอยู่พักใหญ่โดยไม่ได้ขึ้นชกอีกเลยเป็นเวลาร่วมปี ในระหว่างนั้น “นัท วันเดอร์เกิร์ล” จึงตัดสินใจเบนเข็มไปฝึกปรือวิชาบราซิลเลียนยิวยิตสู (BJJ) ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการลงแข่ง MMA ระดับอาชีพ โดยหวังว่าจะเป็นการจะสร้างโอกาสและความท้าทายใหม่ใน ONE หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็พิสูจน์ความสามารถในขั้นแรกด้วยการคว้าเหรียญการแข่งขันบราซิลเลียนยิวยิตสูระดับประเทศ 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงินมาครอง
หลังจากอัปสกิล MMA อยู่นาน 2 ปีจนฝีมือเข้าฝัก “นัท วันเดอร์เกิร์ล” ได้โอกาสเปิดตัวครั้งแรกในกติกา MMA กับ ONE และโชว์ผลงานได้อย่างน่าทึ่งจากการจัดซับมิชชันใส่ “เซบา บาโน” คู่ต่อกรจากอินเดียจบเห่เพียงยกแรก เมื่อ 20 พ.ค.65 โดยถือเป็นการซับมิชชันคู่ต่อสู้บนสังเวียนระดับโลกครั้งแรกในชีวิต
สาวน้อยที่กำลังอยู่ในความมั่นอกมั่นใจได้ฤกษ์หวนคืนสังเวียนอีกครั้งในรอบกว่า 1 ปี พร้อมความหวังที่จะได้ไปต่อในเส้นทางสาย MMA โดยเผชิญหน้ากับ “ลิซา คีเรียอาคู” สาวธาตุทรหดจากออสเตรเลีย แต่ด้วยความที่อ่อนประสบการณ์กว่า ทำให้นักสู้สาวจากแดนสยามพ่ายคะแนนไปอย่างน่าเสียดายในศึก ONE ลุมพินี 26 เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม “นัท วันเดอร์เกิร์ล” ไม่ติดอยู่กับความผิดหวังนานนัก โดยเธอพร้อมจะใช้ความสามารถในศาสตร์การต่อสู้กลับมากู้ชื่อบนสังเวียนแห่งนี้อีกครั้ง และไม่ปฏิเสธที่จะตอบรับอีกหนึ่งความท้าทายครั้งสำคัญ นั่นคือการชกมวยกติกาพิเศษที่จัดให้มีขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ONE
โดยได้โอกาสประจันหน้ากับ “ซง จิง หนาน” แชมป์โลก ONE สตรอว์เวต MMA ราชินีผู้ครองบัลลังก์มาอย่างยาวนานกว่า 5 ปี ในกติกาพิเศษนี้จะเป็นการชกกัน 3 ยก ๆ ละ 3 นาที ด้วยการใช้นวม MMA 4 ออนซ์ โดยสามารถใช้หมัดได้อย่างเดียว ห้ามใช้เท้า ห้ามเข่า และห้ามศอก ซึ่งจะมีการตัดสินด้วยระบบคะแนนเต็ม 10 เหมือนอย่างกติกามวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง
งานนี้ถือว่าไม่หมูสำหรับ “นัท วันเดอร์เกิร์ล” เพราะแม้เธอจะเจนจัดในทักษะการยืนสู้และถนัดเรื่องหมัดอยู่แล้ว แต่ “ซง จิง หนาน” ก็ถือว่าอยู่ในชั้นขั้นเทพของนักสู้สายยืนเช่นกัน และยังเป็นที่เลื่องลือว่ามีหมัดอันทรงพลังที่ใช้น็อกคู่ต่อสู้ไปแล้วหลายราย อีกทั้งยังเคยมีดีกรีเป็นนักกีฬามวยสากลทีมชาติจีนมาก่อนด้วย
แต่ถึงอย่างนั้น “วันเดอร์เกิร์ล” ก็ไม่หวั่นไหวและเลือกที่จะอ้าแขนรับความท้าทายครั้งสำคัญนี้เพื่อพิสูจน์ว่าเธอมีความสามารถรอบตัวไม่แพ้ใครสมกับดีกรีแชมป์มวยไทยและได้ชื่อว่าเป็นนักสู้แถวหน้าของรุ่นสตรอว์เวต
แฟนกีฬาสามารถจองบัตรเข้าชมศึก ONE Fight Night 14 ในสนามสิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ผ่านทาง TICKETMASTER พร้อมติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของศึกนี้ได้ที่นี่ รวมทั้งโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และอินสตาแกรม ONEChampTh