ขวบปีแห่งการเรียนรู้ “น้องโอ๋” ขอเดินหน้าอัปสกิลสร้างเซอร์ไพรส์ให้แฟนมวย ในปี 2566
“ราชันฆ่าไม่ตาย” น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว ยกให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการเรียนรู้สิ่งใหม่ เพื่อใช้เสริมแกร่งขึ้นอีกระดับในปีหน้า
ตำนานที่ยังมีลมหายใจของวงการมวยไทย “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (145 ป.) แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นนักมวยระดับตำนานและครองบัลลังก์นี้มานานกว่า 3 ปี โดยยังไม่มีใครโค่นลงได้ แต่เจ้าตัวก็ยังคงเปิดใจจะเรียนรู้และออกค้นหาประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อใช้เพิ่มทักษะให้แข็งแกร่งขึ้นอยู่ทุกวัน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “น้องโอ๋” คือหนึ่งในนักมวยไทยที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นในปี 2565 จากการป้องกันตำแหน่งถึงสองหนด้วยการน็อกเอาต์ “ฟิลิปเป โลโบ” ในเดือนมี.ค. และ “เลียม แฮร์ริสัน” ในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา
เส้นทางนักสู้ของ “น้องโอ๋” ในเวลานี้เปรียบเสมือนอยู่บนยอดพีระมิดที่เป็นจุดสูงสุดและเด่นเป็นสง่า แต่ถึงอย่างไร ชีวิตย่อมมีการเปลี่ยนแปลง เมื่อ “น้องโอ๋” วางมือการเป็นครูมวยที่ยิมอีโวลฟ์ สิงคโปร์ หลังร่วมงานกันมากว่า 7 ปี และเลือกที่จะกลับมาอยู่แผ่นดินเกิด โดยเจ้าตัวเผยว่า
“ในปีนี้เป็นปีที่ดีของผมเลยครับ ผมป้องกันตำแหน่งไปสองครั้ง ซึ่งชนะทั้งสองไฟต์ นอกจากนี้ผมยังได้โอกาสออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้วยการเดินทางไปสัมมนาทั่วโลก และหลังจากชนะ เลียม ได้ มันทำให้ผมกล้าที่จะออกจากเซฟโซนของตัวเอง และตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่ไทย หลังจากที่ผมอยู่ที่ยิมอีโวลฟ์ มา 7 ปี”
โดยเหตุผลหลักในการกลับมาอยู่ที่ประเทศไทยคือครอบครัว เนื่องจากเจ้าตัวต้องห่างบ้านไปอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน จึงอยากที่จะมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น ทำให้ “น้องโอ๋” ตัดสินใจสร้างค่ายมวยส่วนตัวภายในฟาร์มวัวของตัวเองที่จังหวัดอุดรธานี โดยใช้ชื่อว่า “ฮาม่า มวยไทย”
“เหตุผลที่ผมเลือกกลับมาอยู่บ้านข้อแรกเลยคืออยากกลับมาอยู่กับครอบครัว มาอยู่กับลูก มาดูแลพ่อแม่ อยากที่จะใช้เวลาร่วมกับพวกเขาให้มากขึ้น เพราะผมต้องห่างบ้านไปนาน ส่วนอีกข้อคือผมต้องการที่จะหาประสบการณ์ใหม่ ตอนนี้กำลังสร้างค่ายมวย “ฮาม่า มวยไทย” ขึ้นมาเพื่อเอาไว้เป็นที่ซ้อมเองด้วยครับ”
นอกจากจะมียิมส่วนตัวไว้ลับคมอาวุธในทุก ๆ วันแล้ว “น้องโอ๋” ยังได้ร่วมก๊วนซ้อมกับเพื่อนซี้ดีกรีแชมป์โลก ONE อย่าง “เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต ที่สนิทสนมกันมากกว่า 20 ปี และ “ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” เจ้าบัลลังก์คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต ที่รวมตัวกันเพื่อช่วยฝึกซ้อม ทวนเชิง และแชร์เทคนิคและประสบการณ์ให้แก่กันและกันเพื่อพัฒนาฝีมือไปพร้อมกัน
“ช่วงแรกที่กลับมาไทยแรก ๆ พี่เพชรทนง ก็ชวนผมให้มาซ้อมด้วยกัน พี่เพชรทนง จะช่วยผมในเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬามาเสริมร่างกายให้แข็งแกร่งขึ้น ส่วน ซุปเปอร์บอน จะช่วยทวนเชิง แบ่งปันเทคนิคซึ่งกันและกัน ผมคิดว่ามันจะช่วยให้ผมพัฒนาทั้งร่างกายและทักษะได้มากขึ้นแน่นอนครับ”
แม้ว่า “น้องโอ๋” จะครองบัลลังก์มวยไทยรุ่นแบนตัมเวตถึง 7 สมัย แต่ก็ไม่มีวันไหนที่ “น้องโอ๋” จะหยุดพัฒนาตัวเอง เพื่อให้สมกับฉายา “ราชันฆ่าไม่ตาย” ยิ่งทาง ONE ประกาศเพิ่มค่าตัวให้กับนักกีฬาระดับแชมป์โลก ทำให้ไฟในตัว “น้องโอ๋” ยิ่งไฟลุกโชน พร้อมป้องกันบัลลังก์มวยไทย รุ่นแบนตัมเวตต่อไปในปี 2566
“ผมต้องการเรียนรู้สิ่งใหม่ที่ผมยังไม่รู้ จากคนที่เขาเก่งกว่าผมไม่ว่าจะเรื่องไหนก็ตาม ยังมีหลายอย่างที่ผมยังไม่รู้ครับ ถึงแม้ผมจะเป็นแชมป์อยู่ก็ตาม ไฟในตัวผมมันไม่เคยลดลงไปเลยครับ มีแต่จะเพิ่มขึ้นทุกวัน ทุก ๆ อย่างที่ผมเจอในปีนี้ล้วนแต่เป็นบทเรียนให้ผมครับ ในไฟต์ต่อไป ผมจะมีเซอร์ไพรส์ให้แฟน ๆ แน่นอนครับ”
โดยในปี 2566 “น้องโอ๋” จะประเดิมศักราชใหม่ด้วยศึกป้องกันตำแหน่งกับ “อลาเวอร์ดี รามาซานอฟ” ผู้ท้าชิงชาวรัสเซีย ในนัดปฐมฤกษ์ ONE ลุมพินี วันศุกร์ที่ 20 ม.ค.66 โดยถือเป็นการพา “น้องโอ๋” กลับสู่ถิ่นเก่าที่เคยสร้างชื่อในฐานะแชมป์เวทีมวยลุมพินี 3 รุ่น และเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีที่ “น้องโอ๋” ได้กลับมาสู่สังเวียนมวยไทยในบ้านเราด้วย
แฟนกีฬาชาวไทยสามารถรับชมการถ่ายทอดสดศึก ONE ลุมพินี นัดแรกในวันศุกร์ที่ 20 ม.ค.66 เริ่มเวลา 19.30 น. ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) สามารถซื้อตั๋วล่วงหน้าในราคาพิเศษที่ลิงก์นี้ www.thaiticketmajor.com
อ่านเพิ่มเติม: