Saturday Song: “กุหลาบดำ” นักชกสุรินทร์ผู้หลงกลิ่นอายเพลงใต้ “มาลีฮวนน่า”
ยอดมวยเงินแสน “ซ้ายอุกกาบาต” กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย แม้ช่วงชีวิตสมัยเป็นวัยรุ่นหนุ่มจะมีมวยไทยเข้ามาเป็นส่วนสำคัญของชีวิต แต่เวลาที่เหลือเขาก็ใช้ไปกับการสรวลเสเฮฮากับมวลหมู่มิตร และนั่นทำให้นักชกแดนสุรินทร์ถิ่นอีสานอย่างเขาได้รู้จักกับตำนานเพลงเพื่อชีวิตจากแดนใต้ “มาลีฮวนน่า” ก่อนที่หลากหลายบทเพลงของวงนี้ จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขาจวบจนถึงทุกวันนี้
“มาลีฮวนน่า” มีจุดกำเนิดจากอะคูสติกโฟล์คปักษ์ใต้ จังหวัดสงขลา เป็นที่รู้จักของแฟนเพลงทั่วประเทศด้วยเพลง หัวใจพรือโฉ้ ลมเพลมพัด และเรือรักกระดาษ สามารถขายเทปได้ถึง 20,000 ตลับ ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงดนตรีไร้ค่าย หลังจากมีสังกัดเป็นที่เรียบร้อย ก็โด่งดังสุดขีดด้วยยอดจำหน่ายล้านตลับเพียงแค่ชุดที่สองในเวลาอันรวดเร็ว จนมาถึงหูของนักมวยหนุ่มแห่งจังหวัดสุรินทร์
“ผมได้ยินเพลงของวงนี้ครั้งแรกสมัยอยู่ชั้น ม.5 เพราะรุ่นพี่เปิดให้ฟังครับ เพลงแรกคือ หมาหยอกไก่ ฟังแค่ครั้งเดียวก็ชอบเลย เลยไปหาเพลงอื่นๆ มาฟังอีก ก็ชอบทุกเพลง ผมว่าเนื้อหามันกินใจ แล้วก็ดูติดดินดีครับ”
จากนักมวยหนุ่มที่ศึกษาอยู่โรงเรียนศรีรามประชาสรรค์ ต่อด้วยการศึกษานอกระบบ (กศน.) ก่อนผันตัวเป็นนักมวยไทยอาชีพ และโด่งดังไกลระดับโลกผ่านสังเวียนของ วัน แชมเปียนชิพ ระหว่างทางที่เต็มไปด้วยมิตรภาพและความรัก ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คือบทเพลงของ มาลีฮวนน่า ที่ยังคงวนเวียนผ่านหูซ้ำไปซ้ำมาทุกเมื่อเชื่อวัน
และนี่คือ 5 บทเพลงที่ประทับตรึงใจของ “ซ้ายอุกกาบาต” และกลายเป็นความผูกพันกับชีวิตในทุกมิติของเขา
#1 “สหายสุรา” จุดเริ่มต้นของมิตรภาพ
เพื่อนมีความสำคัญกับชีวิตมนุษย์ทุกคน เพราะเราเป็นสัตว์สังคม สำหรับ กุหลาบดำ นั้นคำว่าเพื่อนเหมือนจะยิ่งใหญ่กับเขา และมีภาพจำดีๆ เกี่ยวกับเพื่อนเสมอ
“ฟังเพลงนี้แล้วนึกถึงเพื่อนๆ สมัยเรียนครับ วันวานที่เคยร่วมวงสังสรรค์กัน มันย้อนกลับเข้ามาในหัวผมเลย”
#2 “กลับกลาย” ขอเลือกเก็บไว้แค่คนที่จริงใจ
กุหลาบดำ เริ่มค้นพบว่าการมีเพื่อนเยอะไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป สำคัญคือเพื่อนคนไหนบ้างที่จริงใจกับเขาจริงๆ มิตรแท้ไม่ได้พบเจอกันง่ายๆ จงรักษาพวกเขาเอาไว้ให้ดี
“ผมเริ่มเรียนรู้ว่า เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยนจริงๆ ครับ เริ่มเข้าใจว่าเพื่อนแบบไหนบ้างที่คบไม่ได้ ผมไม่ชอบคนที่ต่อหน้าเราพูดอีกอย่าง แต่พอลับหลังก็พูดอีกอย่างหนึ่งครับ”
#3 “จันเจ้าเหอ” ถึงตัวไกลแต่ใจใกล้กัน
อันมนุษย์มีพบพรากและจากลา ดั่งจันทราบ้างเต็มและแหว่งเสี้ยว เมื่อต่างคนต้องแยกย้ายไปตามเส้นทางของตัวเอง เจ้าเขียว เองก็ต้องเดินทางสู่ถนนนักสู้ในเมืองหลวง ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา
“ตลกดี ไม่มีใครคิดเลยว่า มวยเด็กบ้านนอกแบบผม จะกลายเป็นนักมวยที่พอจะมีชื่อเสียงบ้างอย่างเช่นทุกวันนี้ ปีหนึ่งผมจะมีโอกาสได้เจอเพื่อนๆ แค่ครั้งสองครั้งครับ ไม่ปีใหม่ก็สงกรานต์ เวลาผมต่อยมวยในกรุงเทพฯ บางทีก็อยากจะหันไปเจอพวกมันมานั่งเชียร์เหมือนกันนะ ผมคงจะตะโกนลงไปข้างล่างเวทีดังๆ ว่า เฮ้ย มาได้ไงวะ (หัวเราะ)”
#4 “สำนึก” เป็นผู้ใหญ่มันยากจัง
ซ้ายอุกกาบาต ในวันที่พ่ายแพ้คู่แข่งบนเวที หรือจะผิดหวังเรื่องใดก็ตามแต่ หนุ่มสุรินทร์ก็ยังคงต้องหากินกับสังเวียนผืนผ้าใบในเมืองใหญ่ เขาชอบหวนคิดย้อนกลับไปถึงวัยเด็กที่บ้านเกิด เพราะการเป็นผู้ใหญ่นั้นไม่ง่าย ชีวิตมันซับซ้อนกว่าที่เคยคิด
“มีช่วงหนึ่ง ผมเกเรมากครับ แล้วแม่ก็เอาเทปวงนี้ที่ผมสะสมไปทิ้งหมด ผมนี่ ‘สำนึก’ เลยครับ ล้อเล่นนะครับ แกไม่ได้ตั้งใจ (หัวเราะ)”
#5 “พร้าว” หน้าตาไม่ดีแต่มีรักจริง
ในที่สุด กุหลาบดำ พบเจอรักแท้กับภรรยาสาว “น้องวนิดา” ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาจนปัจจุบัน มีพยานรักคือ “น้องแชมป์” เบบี๋ตัวน้อยวัยกำลังเตาะแตะน่ารักน่าชัง ซึ่งทำให้ครอบครัวของเขาสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
“ถึงผมจะไม่ใช่คนหน้าตาดี แต่ผมก็รักเเฟนของผมหมดทั้งใจ รักเดียวใจเดียวครับ”
ทุกวันนี้ กุหลาบดำ อยู่ในสถานะคุณพ่อลูกหนึ่ง เจ้าของฟาร์มไก่ชน และแฟนเพลงตัวยงวง มาลีฮวนน่า “ถ้าผมรู้ว่าวง มาลีฮวนน่า มาดูผมต่อยมวยนะ ไฟต์นั้นผมสู้สุดใจเลย แพ้ชนะผมไม่รู้ แต่ทุกคนจะต้องสนุกไปกับการชกของผมครับ” กุหลาบดำ กล่าวทิ้งท้าย
อ่านเพิ่มเติม: