กว่าจะมีวันนี้ไม่ง่าย! ย้อนดูที่มานักสู้ยอดกตัญญู “ชาโด้” ผู้คว้าสัญญา ONE คนที่ 24

“ผู้ใดกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ ผู้นั้นจะตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ ชีวิตมีแต่ความเจริญ” คำกล่าวนี้ไม่เกินจริงสำหรับ “ชาโด้ สิงห์มาวิน” กำปั้นพลังแกร่ง วัย 25 ปี จากเมืองตาก ที่เสียสละทั้งแรงกายและแรงใจเพื่อทำให้ชีวิตของครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จนมาถึงวันนี้ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพไปอีกขั้น ด้วยการกลายเป็นนักกีฬาคนที่ 24 จากเวที ONE ลุมพินี ที่คว้าสัญญานักกีฬา ONE มูลค่า 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.3 ล้านบาท) มาครองได้
ในศึก ONE ลุมพินี 100 เมื่อวันที่ 14 มี.ค.ที่ผ่านมา “ชาโด้” ขึ้นชกไฟต์เปิดหัวศักราช 2568 ทำหน้าที่รับน้องใหม่ป้ายแดงอย่าง “ฮัสซัน วาห์ดานิราด” นักสู้จอมแกร่ง วัย 28 ปี จากอิหร่าน
โดยเกมการชกในไฟต์นี้เป็นทาง “ชาโด้” ที่กำลังมั่นใจบุกรัวอาวุธหนักใส่ “ฮัสซัน” ได้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมาปิดเกมน็อกได้สำเร็จในยก 2 ด้วยหมัดตัดลำตัวแถมด้วยศอกขวาสุดคม เพิ่มสถิติคว้าชัยชนะ 5 ไฟต์รวด พร้อมคว้าโบนัส 3.5 แสนบาทมาครองเป็นครั้งแรก หลังจากที่เคยคว้าดับเบิลโบนัส 7 แสนบาท มาได้แล้วหนึ่งครั้งในศึก ONE ลุมพินี 58 เมื่อเดือนเม.ย.67
ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมใน ONE ลุมพินี ที่เก็บชัยชนะสวยงามได้ถึง 5 ครั้งจาก 6 ไฟต์ที่ลงแข่งขัน จึงทำให้ บิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ไม่รอช้าจัดการมอบสัญญานักกีฬา ONE ให้กับ “ชาโด้” เป็นคนที่ 24 ของรายการทันที
“ชาโด้” หรือ “นายวีรภัทร ปรีชา” มีชื่อเล่นว่า “เอ็ม” เติบโตมากับแม่และพ่อเลี้ยง โดยใช้ชีวิตอย่างยากลำบากตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งอายุ 12 ปี เขาเริ่มเข้าสู่เส้นทางมวยครั้งแรก หลังจากนั้นก็ตระเวนเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชกตามเวทีในเขตภูธรเพื่อหาเงินมาช่วยเหลือแม่และส่งน้องชายอีกสองคนได้เรียนหนังสือ
เมื่ออายุ 15 ปี “ชาโด้” ได้ย้ายมาอยู่กับค่าย อ.วันเชิด ที่จังหวัดสิงห์บุรี และได้โอกาสขึ้นมาชกที่เมืองหลวงเป็นครั้งแรก ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่ค่ายมวยสวนอาหารปีกไม้ ที่จังหวัดสระบุรี นานกว่า 4 ปี ซึ่งขณะที่ชีวิตอาชีพนักมวยกำลังไปได้สวย แต่เมื่อเจอวิกฤติโควิด-19 ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นคนว่างงานทันที
ด้วยสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจทำให้ “ชาโด้” ต้องกลับไปตั้งหลักที่บ้านเกิด พร้อมยึดอาชีพเสริมเป็นช่างแอร์เพื่อประคองชีวิตนานเกือบ 2 ปี แต่เขาไม่เคยคิดทิ้งฝันและหมั่นฝึกซ้อมทำร่างกายให้ดีอยู่เสมอ สุดท้ายเมื่ออายุได้ 22 ปี จึงถูกชักชวนให้มาอยู่ที่ค่ายสิงห์มาวิน โดยได้พัฒนาฝีมือขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
ความสำเร็จที่เวทีราชดำเนินในฐานะแชมป์ ทำให้ “ชาโด้” ได้รับการยอมรับในเรื่องฝีมืออย่างมาก นอกจากนั้น ชื่อเสียงเรื่องความเป็นลูกกตัญญูของเขาก็ขจรขจายไปไกลเช่นกัน โดยทุกไฟต์ที่ขึ้นชก “ชาโด้” จะมี “แม่แป้ง” นางสมยง สีด้วง คอยเป็นกำลังใจอยู่ไม่ห่าง ทำให้เขาสู้ไม่ถอยไม่เคยยอมแพ้
อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวในสังเวียน ONE ลุมพินี ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อ “ชาโด้” ต้องประเดิมด้วยการแพ้คะแนนเอกฉันท์ให้กับ “มามูกา อูซูบายัน” จากรัสเซีย ในศึก ONE ลุมพินี 52 เมื่อวันที่ 16 ก.พ.67
แต่หลังจากนั้น นักสู้ที่ถูกแฟนมวยเรียกขานนามว่า “เงามืดมรณะ” ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น โดยกลับไปฝึกซ้อมอย่างหนักและปรับสไตล์การชกให้เข้ากับรายการได้อย่างเนียนตา ก่อนกลับมาโชว์ฝีมือที่ยอดเยี่ยมขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการเอาชนะคู่ชกฝีมือแกร่ง 5 ไฟต์รวด จนกระทั่งพิชิตสัญญา ONE มาครองได้สมใจ
โดย “ชาโด้” ได้บรรยายถึงความสำเร็จครั้งสำคัญในอาชีพนักสู้ของตัวเอง พร้อมเผยถึงเป้าหมายต่อไปในเส้นทางข้างหน้าต่อไป
“ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้ได้ สัญญา ONE คือสิ่งที่ไกลเกินฝันมาก วันนี้ทำสำเร็จแล้ว ต่อไปผมต้องเจอกับนักชกเก่ง ๆ บนเวทีใหญ่ระดับโลกอีกมากมาย ผมจะพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดยั้งเพื่อทำให้ครอบครัวของผมสบายที่สุดครับ”
แฟนกีฬาการต่อสู้สามารถติดตามข่าวสารอัปเดตของ ONE ได้ที่เว็บไซต์ ONEFC.com/th รวมถึงโซเชียลมีเดียของ ONE ประเทศไทย ได้แก่ Facebook ONE Championship Thailand Instagram ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH