ส่องวิธีบริหารเงินล้านแรกของ “สินสมุทร” หลังทุบโบนัส ONE แตกกระจุย
ส่องแนวคิดและวิธีจัดการเงินล้านแรกในชีวิตของ “สินสมุทร” นักมวยฟอร์มแรง หลังสร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นนักสู้ไทยคนแรก ที่ประเดิมคว้าโบนัสก้อนโตมานอนกอดได้สำเร็จ
ถ้าจะพูดถึงนักมวยไทยที่แฟน ๆ กำลังจับตา และอยากเห็นฝีมือบนสังเวียนอีกครั้ง หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “สินสมุทร กลิ่นมี” เจ้าของฉายา “อควาแมนเมืองไทย” อยู่อย่างแน่นอน เพราะด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมในไฟต์แรกที่เปิดตัวกับ ONE ยังคงเป็นที่พูดถึงของหลายคนอยู่ในขณะนี้
กำปั้นวัย 26 ปีจากพัทยา ประเดิมไฟต์แรกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ด้วยการพบกับ “นิกี โฮลสเกน” เจ้าตำรับดัตช์คิกบ็อกซิ่ง ที่ผันตัวมาชกในกติกามวยไทย ปรากฎว่า สินสมุทร โชว์เพลงหมัดและอาวุธมวยไทยได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน ก่อนจะเอาชนะน็อกไปได้ในยกที่ 2 เท่านั้น
นอกชัยชนะอันสวยหรูแล้ว เจ้าของฉายา “อควาแมน” ยังจารึกชื่อเป็นนักสู้สัญชาติไทยคนแรก ที่สามารถคว้าโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.7 ล้านบาท) มาครองได้สำเร็จ โดยไม่รวมกับค่าตัวในการชก
โดยหลังจากกลับถึงเมืองไทย สินสมุทร ก็ตัดสินใจแบ่งรายส่วนหนึ่งตอบแทนสังคมทันที ด้วยการบริจาคเงินให้กับวัดหนองอ้อและโรงเรียนวัดสุทธาวาส ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เคยประสิทธิ์ประสาทวิชาในวัยเด็ก เพื่อสานต่อความฝันให้กับรุ่นน้องต่อไป
นอกจากนี้ นักมวยไทยมาดเซอร์ยังแบ่งเงินส่วนหนึ่งจากรายได้ ไปลงทุนในธุรกิจแนวใหม่ที่กำลังมาแรงอย่าง สกุลเงินดิจิตอล โดยมีแฟนสาวชาวอังกฤษและว่าที่คู่ชีวิตในอนาคต คอยเป็นที่ปรึกษาอยู่ไม่ห่าง
“ตอนนี้ชีวิตผมก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไหร่นะครับ รายได้จากการชกส่วนหนึ่ง ผมก็มีการแบ่งมาลงทุนบ้างครับ ส่วนที่เหลือก็ฝากธนาคาร ถึงแม้ทุกวันนี้ผมมีรายได้ที่มากขึ้นกว่าเดิม หลังจากเข้ามาชกใน ONE แต่ผมก็พยายามทำตัวปกติเหมือนเดิมครับ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”
“ส่วนใหญ่ผมจะยกเงินทั้งหมดให้แฟนเป็นคนเก็บมากกว่า เพราะเขาเป็นคนที่ไม่ใช้ของหรู ไม่ใช้ของฟุ่มเฟือยครับ แล้วก็รู้จักวิธีเก็บเงินมากกว่า และอย่างที่บอกไปว่าผมแบ่งเงินไปลงทุนนิดหน่อยกับ คริปโต หรือ บิทคอยน์ อะไรพวกนี้”
ขณะที่ชีวิตการเป็นนักกีฬาอาชีพ ก็เปรียบเหมือนกับหมาล่าเนื้อ ที่มีช่วงเวลาค่อนข้างจำกัดในการเก็บหอมรอมริบ ดังนั้น สินสมุทร จึงพยายามต่อยอดอาชีพนอกสังเวียน ด้วยการรับจ๊อบเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกี่ยวกับมวยไทย เพื่อเป็นรายได้เสริมเพิ่มอีกทางหนึ่งด้วย
“นอกเหนือจากชกมวยแล้ว ผมก็มียังมีรายได้เสริมอีกอย่าง คือการสอนมวยให้คนที่สนใจด้วยครับ รายได้ก็อยู่ที่ประมาณ 4-5 ร้อยบาทต่อวัน รวมถึงยังเป็นเหมือนครูพละ สอนพิเศษที่โรงเรียนนานาชาติซึ่งแฟนผมสอนอยู่ด้วยเป็นครั้งคราวครับ ทำให้มีรายได้เพิ่มเข้ามาอีกนิดหน่อย”
นอกจากนี้ สินสมุทร ก็วางแผนที่จะนำเงินล้านก้อนแรกที่ได้จากการชกใน ONE มาเป็นเงินทุนต่อยอดเพื่ออนาคตที่มั่นคงอีกด้วย โดยมีแผนซื้อที่สักแปลงในละแวกพัทยา เพื่อสานฝันสู่การเปิดค่ายมวยเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม นักสู้วัย 26 ปีก็ไม่ปฏิเสธถึงโอกาส ในการออกไปเป็นครูมวยที่ต่างแดนเช่นกัน หลังมีการทาบทามและข้อเสนอจากหลาย ๆ ที่ยื่นเข้ามา ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับโอกาสและการตัดสินใจร่วมกันกับแฟนสาวอีกครั้ง
“ส่วนตัวแล้วผมอยากจะซื้อที่สักแปลงใกล้ ๆ กับบ้านแม่ครับ ซึ่งอาจจะเอาไว้สร้างบ้าน หรือทำค่ายมวยเล็ก ๆ ของตัวเองในอนาคต เพราะผมมีเพื่อนและลูกศิษย์อยู่เยอะเหมือนกันในแถวพัทยา แต่ก็ต้องรอดูสถานการณ์อีกทีครับ”
“ตอนนี้ผมยังไม่รู้ครับว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ก็มีคนติดต่อเข้ามาอยู่ตลอด ว่าอยากให้ผมไปสอนมวยที่ต่างประเทศ คงต้องปรึกษากับแฟนอีกที ถ้ามีข้อเสนอที่น่าสนใจเข้ามา และต้องดูสภาพร่างกายของตัวเองด้วยว่า ตอนนั้นผมยังชกมวยไหวอยู่หรือเปล่า แล้วค่อยมาตัดสินใจอีกทีครับ”
สำหรับ สินสมุทร มีคิวเตรียมคัมแบ็กสังเวียนอีกครั้งให้แฟน ๆ ได้หายคิดถึง ด้วยการพบกับ นักชกชาวรัสเซีย “อิสลาม มูร์ตาซาเอฟ” ในศึก ONE 159: ไรเนียร์ vs วิตาลี ซึ่งจะถ่ายทอดสดในวันศุกร์ที่ 22 ก.ค.นี้โดยแฟน ๆ สามารถติดตามรับชมทาง
- watch.onefc.com
- ONE Super App เวลา 17.00 น.
- YouTube ONE Championship เวลา 17.00 น.
- AIS Play เวลา 17.00 น.
- ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 21.30 น.
อ่านเพิ่มเติม: