Spotlight Sunday: “วิกตอเรีย ลิเพียนสกา” สาวนักสเกตลีลาสู่เวทีมวยไทย
หลังจากอาการบาดเจ็บจบชีวิตนักยิมนาสติกและนักสเกตลีลาของเธอ “วิกตอเรีย ลิเพียนสกา” ก็มองหากีฬาใหม่เข้ามาแทนที่ ซึ่งเธอไม่เคยคาดฝันมาก่อนว่าจะมาลงเอยกับศิลปะการต่อสู้
ด้วยวัยเพียง 23 ปีในวันนี้ วิกตอเรีย มีดีกรีเป็นถึงแชมป์ยูโรเปียน และ แชมป์โลกมวยไทย กึ่งอาชีพกึ่งสมัครเล่น (pro-am) ซึ่งหลังจากการเปิดตัวอย่างน่าประทับใจในฐานะนักกีฬาชุด วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ ของ วัน แชมเปียนชิพ เมื่อเดือนกันยายน 2562 เธอก็ตั้งเป้าสู่การเป็นแชมป์โลกใน “บ้านแห่งศิลปะการต่อสู้” แห่งนี้ อีกทั้งยังเผยเรื่องราวชีวิตของเธอในแง่มุมที่น่าสนใจให้ฟังอีกด้วย
ชีวิตที่ไม่อยู่กับที่
วิกตอเรีย เกิดในเมืองบราติสลาวา เมืองหลวงของสโลวาเกีย ในปี 2539 ครอบครัวซึ่งมีพ่อ (แจน) แม่ (อเล็กซานดรา) และ น้องชาย (ลูคัส) มักต้องย้ายถิ่นฐานไปทั่วยุโรปอยู่บ่อยครั้ง เธอยอมรับว่าการใช้ชีวิตแบบอยู่ไม่เป็นที่มีความท้าทายอยู่บ้าง และอาจมองว่าเป็นรางวัลชีวิตอย่างหนึ่ง
“ฉันเกิดที่ บราติสลาวา พ่อของฉันเป็นนักฮ็อกกีน้ำแข็งอาชีพ ดังนั้นวัยเด็กของฉันจึงย้ายจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งจนกระทั่งพ่อเกษียณ ซึ่งตอนนั้นฉันอายุ 12 ปี”
“พ่อเล่นให้กับทีมในสาธารณรัฐเช็ก, สวีเดน, ฟินแลนด์ และเขาเคยอยู่ในอเมริกาและเยอรมนีมาก่อน นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับฉันตอนเด็กๆ เลย การย้ายบ้านและโรงเรียนบ่อยๆ ทำให้ฉันไม่ค่อยมีเพื่อน”
“ทุกวันนี้ฉันกลับคิดว่ามันคือความสุขที่ได้ทำสิ่งนี้กับครอบครัว ฉันได้รู้จักคนมากมายที่สอนอะไรหลายๆ อย่าง และการที่ฉันต้องเดินทางไปหลายๆ ที่ก็ทำให้มีโอกาสได้เห็นสถานที่ต่างๆ มากมาย”
ทิศทางใหม่
“กีฬาเป็นชีวิตของฉันมาตลอดตั้งแต่เกิด ฉันเล่นกีฬาที่เด็กผู้หญิงส่วนใหญ่เล่นกัน เช่น พวกยิมนาสติก สเกตน้ำแข็ง และสเกตลีลา แต่ช่วงที่ฉันเป็นวัยรุ่น ฉันได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า จนไม่สามารถเล่นกีฬาใดๆ ได้เป็นปี ร่างกายไม่ได้แอ็กทีฟเลย และเมื่อหายดีฉันก็อยากกลับมาเล่นกีฬาอีกค่ะ”
หลังหายจากอาการบาดเจ็บ วิกตอเรีย ตัดสินใจทดลองกีฬาใหม่ ซึ่งทำให้เธอได้รู้จักกับสถานที่ฝึกสอนศิลปะการต่อสู้ในละแวกที่เธออาศัย
“พ่อพาฉันไปที่ยิมมวยไทย พ่อชอบดูการแข่งขันมวยไทยทางทีวี อ่านข่าว และซ้อมเพื่อให้ร่างกายได้แอ็กทีฟในช่วงที่ไม่มีโปรแกรมแข่งขัน”
เธอเองก็ติดอกติดใจมวยไทยเข้าอย่างจัง แม้ช่วงเริ่มต้นจะรู้สึกติดๆ ขัดๆ อยู่บ้าง แต่เธอก็ไม่ย่อท้อ และใช้จุดอ่อนเป็นเชื้อเพลิงในการปรับปรุงและพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น
“ฉันรักกีฬานี้ตั้งแต่ได้ซ้อมครั้งแรก มันให้อารมณ์ที่แตกต่าง และฉันก็อยากที่จะซ้อมมันอีก”
“ฉันจำได้ว่าตอนที่ฉันเตะกระสอบทรายครั้งแรก ฉันเจ็บขามาก ฉันไม่เข้าใจเลยว่าผู้หญิงคนอื่นเขาไม่เจ็บบ้างหรือไง การฝึกมวยไทยนั้นยากมาก มันเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับฉัน และฉันอยากจะเต็มที่กับมัน อยากฝึกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อที่จะได้เก่งขึ้นเรื่อยๆ”
เอาชนะใจแม่
แม้ว่าพ่อของ วิกตอเรีย จะสนับสนุนการเริ่มต้นในโลกมวยไทยของลูกสาวอย่างเต็มที่ แต่แม่ของเธอกลับเป็นฝ่ายค้าน
“ตอนที่ฉันบอกแม่ว่าฉันจะขึ้นชกครั้งแรกแล้วนะ แม่กลัวและโวยวาย แม่จะไม่ยอมให้ฉันขึ้นชก เราทะเลาะกันยกใหญ่ แต่ฉันก็บอกแม่ว่าไม่ต้องห่วง ฉันจะซ้อมให้พร้อม 100% แต่แม่ก็คือแม่ ยังไงก็ห่วงลูกอยู่วันยังค่ำ”
“หนึ่งปีกับสี่เดือนที่ฉันฝึกมวยไทย ฉันได้ลงแข่งระดับสมัครเล่นครั้งแรก ฉันตื่นเต้นมากจนรู้สึกว่าทุกอย่างมันผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนฉันเองก็จำอะไรไม่ได้ แต่เมื่อฉันก้าวลงจากเวที ฉันมีความสุขมากและอยากจะกลับขึ้นไปชกอีก”
อย่างไรก็ตามการได้เห็นลูกสาวคนโตทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมอย่างจริงจัง และมีทักษะฝีมือที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ อเล็กซานดรา เริ่มเปิดใจและให้การสนับสนุนลูกของเธอ แม้จะยังไม่พร้อมที่จะดูการแข่งขันของ วิกตอเรีย ก็ตาม
มุ่งหน้าสู่จุดสูงสุด
ด้วยแรงเชียร์และการสนับสนุนจากครอบครัว ผลักดันให้ วิกตอเรีย กลายเป็นแชมป์ EMF ยูโรเปียน และคว้าตำแหน่งแชมป์โลก WMF มวยไทย กึ่งอาชีพกึ่งสมัครเล่น (Pro-Am)
รวมแล้วเธอผ่านสังเวียนมาทั้งสิ้น 23 ไฟต์จากการแข่งขันทั่วโลก รวมถึงเคยเล่นงาน “อแมนดา ยูนิคู” พี่สาวของ “อัลมา ยูนิคู” อีกหนึ่งนักชกสาวสวยที่อยู่ภายใต้สังกัดของ วัน แชมเปียนชิพ ที่ออสเตรเลียอีกด้วย
ผลงานที่ผ่านมาเป็นใบเบิกทางให้ วิกตอเรีย ได้ก้าวสู่องค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก วัน แชมเปียนชิพ โดยได้เปิดตัวไฟต์แรกในศึก ONE: IMMORTAL TRIUMPH เมื่อ 6 กันยายน 2562 โดยคว้าชัยเหนือคู่แข่งสาวชาวอังกฤษ“AK47” แอมเบอร์ คิตเชน ไปได้
กีฬาช่วยสอนอะไรหลายอย่างให้กับ วิกตอเรีย แต่เธอยอมรับว่าเส้นทางนี้ยังอีกยาวไกลโดยเฉพาะในเวทีระดับโลก
เธอยังมีเป้าหมายที่จะคว้าแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต ที่ยังว่าง และเธอจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองคู่ควรกับบัลลังก์อันทรงเกียรตินี้
“ฉันรักการเดินทาง ฉันรักการแข่งขันของฉันทั้งหมด ไม่ว่าจะแพ้ หรือ ชนะ รวมถึงคู่ต่อสู้ทุกคนที่ฉันเผชิญ”
“ฉันได้พัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิมในทุกๆ วัน ผ่านการเดินทาง การเรียนรู้สิ่งต่างๆ พบปะผู้คนใหม่ๆ ฉันรักทุกอย่างในกีฬามวยไทย แรงบันดาลใจของฉัน คือการทุ่มเทหยาดเหงื่อและน้ำตาแลกกับชัยชนะใน ONE”
อ่านเพิ่มเติม: