ชื่อนี้ได้แต่ใดมา “ซุปเปอร์เกิร์ล” เผยที่มาของสมญา “เจ้าแม่เข่ายัดไส้”
เรื่องราวของสาวน้อยมากพรสวรรค์วัย 19 ปี และฉายา “เจ้าแม่เข่ายัดไส้” ที่ได้จากการเรียนรู้และซึมซับวิชามวยไทยมาตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น
“แอนนา ซุปเปอร์เกิร์ล จรูญศักดิ์” สาวน้อยอนาคตไกลวัย 19 ปี ถือเป็นอีกหนึ่งนักสู้สาวดาวรุ่งพุ่งแรงที่ได้รับการจับตามองหลังสร้างผลงานอันเป็นที่ประจักษ์สู่สายตาแฟนมวยทั่วโลกผ่านสังเวียน ONE ด้วยหน่วยก้านและชั้นเชิงการออกอาวุธโดยเฉพาะการจับคู่ต่อสู้แทงเข่าที่ทำได้รุนแรงและเนียนตาหาตัวจับยาก
เด็กหญิงตัวน้อยนามว่า “แอนนา” ซึ่งเป็นชื่อจริงของเธอ ลืมตาดูโลกในตระกูล “จันทาศรี” ครอบครัวที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณนักสู้ พ่อของเธอคือ “จรูญ จันทาศรี” หรือที่รู้จักกันในนาม “จรูญศักดิ์ ส.วรพิน” อดีตยอดมวยไทยชื่อดังที่หมายมั่นปั้นมือหวังให้ทายาททั้งสองเจริญรอยตามในเส้นทางสายนักสู้
ขณะที่พี่สาว “นัท วันเดอร์เกิร์ล จรูญศักดิ์” เป็นอีกหนึ่งนักสู้สาวจอมแกร่งที่มีประสบการณ์โชกโชนในศิลปะการต่อสู้มาแล้วหลายรูปแบบ จึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าแปลกใจที่ตัวของ “ซุปเปอร์เกิร์ล” จะได้รับการปลูกถ่ายจิตวิญญาณความเป็นนักสู้ผ่านพันธุกรรมของผู้เป็นพ่อและพี่สาวของเธอ
“ซุปเปอร์เกิร์ล” เริ่มก้าวเท้าสู่สังเวียนจริงตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ด้วยความที่มีสายเลือดนักสู้เต็มเปี่ยม ประกอบกับแรงผลักดันจากผู้เป็นพ่อและพี่สาวจึงทำให้เธอพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง และมีการออกอาวุธที่รุนแรงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หนึ่งในนั้นก็คืออาวุธเข่าที่เธอใช้เล่นงานคู่ต่อสู้มานักต่อนักจนได้รับสมญานามให้เป็น “เจ้าแม่เข่ายัดไส้” ซึ่งนี่ก็ได้มาจากการเทรนของผู้ที่เป็นพ่อผู้เปรียบเสมือนครูมวยคนแรกและคนเดียวของเธอ
“ฉายาเจ้าเเม่เข่ายัดไส้ มาจากที่พ่อซ้อมให้ หนูก็จำไม่ได้ว่าทำเป็นตั้งแต่ตอนไหน ตอนนั้นก็ยังเด็กอยู่เลยค่ะ อยู่ดี ๆ ก็ทำเป็น พอหนูเอาไปใช้ในหลายเวที คนดูเขาก็เห็นว่าการตีเข่าของเรามันเเปลก เพราะว่ามวยไทยส่วนใหญ่จะตีเข่าแบบแตะ ๆ หนูเลยรู้สึกว่าไม่เร้าใจ ไม่แรง จำได้ว่าพ่อเป็นคนสอนค่ะ”
“พอเอามาใช้จริงคนดูก็ถูกใจ รู้สึกได้ถึงความเจ็บ มีช่วงหนึ่งที่หนูฟิตมาก ๆ ใช้เข่านี้เยอะ ๆ น็อกคู่แข่งได้เรื่อย ๆ มีประสิทธิภาพที่แรงกว่าการตีเข่าธรรมดาค่ะ”
ปัจจุบัน “ซุปเปอร์เกิร์ล” สร้างผลงานไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมนับตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าสู่เวทีระดับโลก ONE เธอเปิดตัวอย่างปังในวัยเพียง 16 ปี ในกติกามวยไทยด้วยการไล่ทุบ “มิลากรอซ โลเปซ” นักสู้สาวจากแดนฟ้าขาวอาร์เจนไตน์ สิ้นลายเพียงยกแรกเท่านั้น ในศึก ONE: A NEW BREED ภาคแรก เมื่อ 11 ก.ย.63
“ซุปเปอร์เกิร์ล” ฟอร์มแรงต่อเนื่องด้วยการเอาชนะคะแนน “บาร์บี้” เอคาเทรินา วานดารีวา นักมวยสาวสวยจอมแกร่งแห่งเบลารุส ในศึก ONE: HEAVY HITTERS เมื่อ 14 ม.ค. 65 แต่กลับกลายเป็นกระแสดรามาจบแบบค้านสายตา นำมาซึ่งคำวิพากษ์วิจารณ์ถาโถมเข้าใส่เธอแบบไม่ทันตั้งตัวจนส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจอยู่พักใหญ่ แต่เธอเต็มใจน้อมรับคำติชมและก็ลุกขึ้นมาแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดเพื่อเดินต่อ
จนกระทั่งในศึก ONE Fight Night 6 เมื่อ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา “ซุปเปอร์เกิร์ล” ได้โอกาสล้างตากับคู่ปรับเก่า “เอคาเทรินา” เพื่อเคลียร์ใจ แต่ก็ต้องถูกสลับกะทันหันเป็นมวยขัดตาทัพจับคู่สู้กับรุ่นใหญ่ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง แม้ว่าจะตกเป็นฝ่ายพ่ายคะแนนไป แต่ฟอร์มของเธอในวันนั้นก็เป็นที่น่าประทับใจแฟนมวยทั่วโลก และแสดงให้เห็นฝีมือของเธอที่พัฒนาขึ้นอย่างชัดเจน
“ซุปเปอร์เกิร์ล” จะได้หวนกลับคืนสู่สังเวียนอีกครั้ง ในศึก ONE Fight Night 13 ที่กำลังจะมาถึงนี้ โดยเปิดรับความท้าทายใหม่ภายใต้กติกาคิกบ็อกซิ่งเต็มตัว ดวลเดือดกับ “คริสตินา โมราเลส” นักสู้สาวแดนกระทิงดุ ในพิกัดน้ำหนักรุ่นอะตอมเวต (105-115 ป.) ซึ่งจะมีถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์อเมริกา ตรงกับช่วงเช้าเวลา 07.00 น. ของวันเสาร์ที่ 5 ส.ค. 66
ตองรอดูว่า “ซุปเปอร์เกิร์ล” จะปรับใช้วิชา “เข่ายัดไส้” ของเธอให้เข้ากติกาคิกบ็อกซิ่งได้มากน้อยแค่ไหน แฟน ๆ สามารถจองบัตรเข้าชมศึก ONE Fight Night 13: ชิงกิซ vs มารัต ผ่านทาง THAI TICKET MAJOR และติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของศึกนี้ได้ที่นี่และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และอินสตาแกรม ONEChampTh