คืนชีพเสือร้ายเมืองจันท์ ย้อนเส้นทาง “เสือคิม” นักสู้ชีวิตติดลบสู่การคว้าสัญญา ONE ฉบับที่ 26

พาไปย้อนเส้นทางชีวิตของนักสู้ที่ไม่เคยยอมแพ้ต่อโชคชะตา “เสือร้ายเมืองจันท์” เสือคิม สจ.โต้งปราจีน กำปั้นจอมดุจากจันทบุรี ผู้เคยผ่านช่วงชีวิตที่รุ่งเรืองและตกต่ำสุดขีดมาแล้ว จนมาถึงวันนี้ที่ได้รายการ ONE ลุมพินี ช่วยพลิกชีวิตติดลบให้กลับมาโลดแล่นบนสังเวียนผ้าใบได้อีกครั้ง กระทั่งสามารถพิชิตสัญญานักกีฬา ONE มูลค่า 1 แสนดอลลาร์ (ประมาณ 3.3 ล้านบาท) มาครองได้เป็นคนที่ 26 ของรายการ
ในศึก ONE ลุมพินี 100 เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา “เสือคิม สจ.โต้งปราจีน” ถูกประกบให้มาประชันเดือดกับ “คมอาวุธ เอฟเอ.กรุ๊ป” มวยร่างแกร่งจากหนองคาย เจ้าของสถิติชนะ 3 ไฟต์รวด
โดยเกมการชกในไฟต์นี้ดำเนินไปอย่างสุดมันตั้งแต่ยกแรก ก่อนที่ในยก 2 “เสือคิม” จะได้จังหวะสับศอกเข้าเต็มศีรษะ “คมอาวุธ” เรียกนับ 8 พร้อมเปิดแผลแตกได้สำเร็จ ซึ่งแม้ “คมอาวุธ” จะฝืนลุกขึ้นมาสู้ต่อได้ แต่ “เสือคิม” ก็ไม่ปล่อยโอกาสทองหลุดลอย รีบเข้าไปขย้ำเหยื่อปิดเกมชนะทีเคโอแบบสุดเด็ดขาด

ชัยชนะในไฟต์นี้ส่งให้ “เสือคิม” ทำสถิติคว้าชัยชนะ 4 ไฟต์รวด พร้อมคว้าโบนัส 3.5 แสนบาทมาครอง เป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่เคยคว้าดับเบิลโบนัส 7 แสนบาท มาครองแล้ว 2 ครั้ง อีกทั้งยังสร้างสถิติเผด็จศึกคู่ต่อสู้เพิ่มเป็นรายที่ 4 ให้กับตัวเอง
ด้วยผลงานเอกอุที่ผ่านมารวมถึงไฟต์นี้ จึงทำให้บิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการมอบสัญญานักกีฬา ONE ให้กับ “เสือคิม” เป็นคนที่ 26 ของรายการทันที ซึ่งนับเป็นคนที่ 3 ของรายการในค่ำคืนที่สามารถคว้ารางวัลที่นักสู้ทั่วโลกล้วนหมายปองมาครองได้สำเร็จ
“เสือคิม สจ.โต้งปราจีน” หรือชื่อจริง นายชานนท์ มีชัย เกิดที่จังหวัดจันทบุรี พ่อแม่เสียชีวิตไปทั้งคู่ตั้งแต่เขาอายุยังน้อยทำให้ต้องอาศัยอยู่กับยายมาตลอด โดยเริ่มชกมวยด้วยความสนุกตามประสาเด็กวัยมัน จนกระทั่งพัฒนาฝีมือขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนได้รับโอกาสจาก “เสี่ยแขก” สมชาย เทศรุ่งเรือง ให้มาเก็บตัวฟิตซ้อมอยู่ที่ค่ายมวยพีเค.แสนชัย ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ช่วยส่งให้ “เสือคิม” โด่งดังไปทั่วประเทศ จากการคว้าแชมป์มวยไทย 7 สี, แชมป์ประเทศไทย และ แชมป์ลุมพินี ถึง 3 รุ่น รวมถึงยังได้โอกาสไปชกสร้างชื่อถึงที่ประเทศญี่ปุ่น จนทำให้มีแฟนคลับที่นั่นมากมาย
ในช่วงกลางปี 2563 “เสือคิม” ช็อกวงการด้วยการประกาศเลิกมวยในขณะที่กำลังอยู่ในช่วงพีกสุด ๆ เนื่องจากทนกระแสวิจารณ์จากแฟนมวยที่ถาโถมเข้ามาไม่ไหวเมื่อชกมวยแพ้ ก่อนจะหันไปทำธุรกิจขายทุเรียน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนทำให้เงินทองที่เก็บหอมรอมริบมาจากสมัยค้ากำปั้นเริ่มหมดไป
แต่สุดท้ายฟ้ายังมีตา เมื่อ “บิ๊กบอสชาตรี” ทราบเรื่องว่ายอดฝีมืออย่าง “เสือคิม” กำลังตกอยู่ในสถานการณ์มืดแปดด้าน จึงอาสายื่นมือเข้ามาช่วยด้วยการประสานผ่านทาง “เสี่ยแขก” ให้ช่วยตาม “เสือคิม” กลับมาชกมวยไทยอีกครั้งบนเวที ONE ลุมพินี ด้วยความหวังว่าหาก “เสือคิม” สามารถสู้สุดใจจนกลับมายืนในจุดที่ประสบความสำเร็จได้อีกครั้ง ซึ่งจะกลายเป็นเรื่องราวที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนนับล้านทั่วโลกที่กำลังเจอกับสถานการณ์ยากลำบากในเวลานี้ได้
อย่างไรก็ตาม การกลับมาขึ้นชกไฟต์แรกในรอบ 4 ปี ของ “เสือคิม” กลับไม่สวยอย่างที่หวัง หลังแพ้น็อกต่อ “คิริลล์ โคมูทอฟ” นักชกจากรัสเซีย ในศึก ONE ลุมพินี 26 เมื่อเดือน ก.ค.66 แต่ 2 เดือนต่อมาในศึก ONE ลุมพินี 34 “เสือคิม” ก็กู้ศรัทธามหาชนกลับมาได้สำเร็จ ด้วยการฟันศอกน็อก “ซามาน อาสซูริ” คู่ชกจากอิหร่าน ตั้งแต่ยกแรก พร้อมพิชิตดับเบิลโบนัส 7 แสนบาท จากบิ๊กบอส “ชาตรี” เข้ากระเป๋าเป็นของรางวัลสุดพิเศษ
แม้ไฟต์ต่อมาในศึก ONE ลุมพินี 47 เมื่อเดือน ม.ค.67 “เสือคิม” จะสะดุดแพ้น็อกอีกครั้ง ด้วยพิษหมัดรัสเซียของ
“อเล็กเซย์ บาลีโก” แต่ “เสือคิม” ที่ไม่เคยแสดงอาการย่อท้อให้เห็น โดยกลับไปฝึกซ้อมอย่างหนัก จนกลับมาคืนร่างทอง และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมยิ่งกว่าที่เคย ด้วยการเก็บชัยชนะเหนือคู่ชกมือกระกาฬ 4 ไฟต์รวด จนสามารถคว้าสัญญานักกีฬา ONE มาครองได้สำเร็จ

โดย “เสือคิม” ได้กล่าวเปิดใจถึงความสำเร็จครั้งสำคัญในชีวิตของตัวเองในครั้งนี้ พร้อมเผยเป้าหมายต่อไปเอาไว้ว่า
“วันแรกที่มาเหยียบเวที ONE ลุมพินี ผมมาที่นี่ตัวเปล่า แต่รายการให้โอกาสผมเปลี่ยนชีวิต ทุกวันนี้ผมมีรถ เคลียร์หนี้สินทุกอย่างหมดเกลี้ยง วันนี้ผมคว้าสัญญาได้แล้ว เป้าหมายต่อไปผมอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเอง ผมจะไปล่าโบนัส 5 หมื่นดอลลาร์ (ราว 1.7 ล้านบาท) ใน ONE (ใหญ่) เพื่อสานฝันของตัวเองให้ได้ครับ”
แฟนกีฬาการต่อสู้สามารถติดตามข่าวสารอัปเดตของ ONE ได้ที่เว็บไซต์ ONEFC.com/th รวมถึงโซเชียลมีเดียของ ONE ประเทศไทย ได้แก่ Facebook ONE Championship Thailand Instagram ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH