บุคคลสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ “สามเอ ไก่ย่างห้าดาว” ในวันนี้

ทุกความสำเร็จ ล้วนมีองค์ประกอบ การที่นักมวยคนหนึ่งจะประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียวนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ ทุกคนต้องมีคนคอยสนับสนุน และช่วยเหลือผลักดันกว่าจะถึงฝั่งฝัน
“สามเอ ไก่ย่างห้าดาว” เจ้าตำนานมวยไทย วัย 36 ปี ที่กวาดแชมป์และรางวัลต่างๆ มามากมายตลอดชีวิตที่สวมนวมขึ้นเวทีล้มคู่ต่อสู้ และยังคงยืนหยัดบนเวที วัน แชมเปียนชิพ ในปัจจุบัน
กว่าจะมีวันนี้ เจ้าตัวยอมรับว่ามีหลายองค์ประกอบ รวมถึงผู้คนมากมายที่ยื่นมือเข้ามาให้การสนับสนุน ซึ่งจะมีใครอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของยอดมวยผู้นี้ เราไปดูกัน
# 1 พ่อแม่ผู้ให้กำเนิด
“แน่นอนว่าพ่อกับแม่ คือผู้มีพระคุณสูงสุดของผม นอกจากเป็นผู้ให้กำเนิดผมแล้ว เมื่อตอนที่ผมเริ่มหัดชกมวยใหม่ๆ ทีแรกพ่อกับแม่ไม่ค่อยอยากให้ผมเดินทางสายนี้ เพราะว่าไม่อยากเห็นผมเจ็บ แต่เมื่อท่านเห็นความมุ่งมั่นและตั้งใจ สุดท้ายท่านก็ยอมรับและสนับสนุนผมอย่างเต็มที่ ทั้งคอยแนะนำ และหาครูมวยมาสอนให้ หากไม่มีพ่อกับแม่ คงไม่มีผมอย่างทุกวันนี้”
#2 ภรรยาและลูกๆ
“ทั้งภรรยาและลูก คือแรงผลักดันและกำลังใจให้ผมมีกำลังสู้ในทุกๆ วัน หากผมไม่มีใคร ผมยังมีพวกเขาคอยอยู่ข้างๆ ในคราวที่ผมแพ้ แม้พวกเขาจะไม่พูดออกมา แต่ผมก็รับรู้ได้จากสายตาและความรู้สึกว่าทุกคนกำลังเสียใจที่เห็นผมเจ็บ”
“บางครั้งเขาก็ชอบทำเซอร์ไพรส์ อย่างเช่น ซื้อแหวน เสื้อผ้า นาฬิกา ฯลฯ มาให้ มันทำให้ผมรู้สึกดีใจและหายเหนื่อยที่มีคนเอาใจใส่ และให้ความสนใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ชีวิตนี้ผมขอทำเพื่อครอบครัว ทำเพื่อลูกและภรรยา ผมยอมทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้พวกเขาลำบาก เพื่อให้ทุกคนอยู่อย่างสบาย ผมรักพวกเขามากๆ ครับ”
#3 พ่อตา-แม่ยาย

(ขวา) พ่อตา-แม่ยายของ สามเอ และ ซุปเปอร์เล็ก ลูกเขยบ้านเดียวกัน
“หากไม่ได้ท่านทั้งสองคน ผมคงแย่เหมือนกัน สำหรับพ่อตา (ปืนไทย ปิ่นสินชัย อดีตนักมวยชื่อดัง) ช่วยดูแลผมดีทุกอย่าง ช่วงที่ผมซ้อมมวยก็ยังมาช่วยจับเป้า เป็นคู่ซ้อมให้ ขณะที่แม่ยายก็ช่วยดูแลภรรยากับลูกของผมเป็นอย่างดี ยิ่งตอนนี้ผมมาเป็นครูสอนมวยอยู่ที่สิงคโปร์ด้วยแล้ว ท่านทั้งสองถือเป็นส่วนสำคัญที่เข้ามาช่วยเหลือครอบครัวของผมไม่ให้มีอะไรขาดตกบกพร่อง”
#4 เสี่ยเน้า – เสี่ยโบ๊ท – ดร.พงษ์
(ซ้าย) โบ๊ท ณัฐเดช (ขวา) เสี่ยเน้า วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์
“สามผู้มีพระคุณที่สร้างผมมา สำหรับ เสี่ยเน้า และ เสี่ยโบ๊ท (วิรัตน์-ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ ) เป็นผู้ปลุกปั้น เลี้ยงดูตั้งแต่ผมมาอยู่กับเพชรยินดีฯ เป็นเวลากว่า 10 ปี เมื่อก่อนร่างกายผมไม่ค่อยแข็งแรง แรงชกไม่ค่อยมี แต่หลังจากได้รับการดูแลและฝึกซ้อมอย่างดีทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้น”
(ซ้าย) ดร.พงษ์ (ขวา) โบ๊ท ณัฐเดช
“ช่วงปี 2554-2555 ร่างกายผมดีมาก ไม่พลาดท่าแพ้ให้ใครเลย ขณะที่ ดร.พงษ์ วิเศษไพฑูรย์ (ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด) ก็ให้การสนับสนุนผมมาตลอดในนาม ไก่ย่าง 5 ดาว ซึ่งเป็นการให้โอกาสมวยบ้านนอกคนหนึ่งได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น บอกได้เลยว่าบุญคุณของทั้งสามท่านชดใช้ชาตินี้ก็ไม่มีวันหมด”
#5 ชาตรี ศิษย์ยอดธง
“จะขาดไปไม่ได้เลยสำหรับบุคคลนี้ พี่ชาตรี ผู้ก่อตั้ง วัน แชมเปียนชิพ และยิม Evolve ท่านเป็นผู้ที่ให้โอกาสนักมวยที่เลิกชกไปแล้วอย่างผมได้มีงาน มีอาชีพ และไว้ใจให้ผมขึ้นชก ซึ่งหากย้อนไปเมื่อปี 2559 ช่วงนั้นเป็นช่วงที่สภาพจิตใจผมแย่มาก เพราะมีอาการเจ็บเรื้อรัง ชกแพ้บ่อย ทำให้ท้อจนต้องตัดสินใจแขวนนวม”
“พี่ชาตรี ได้หยิบยื่นโอกาสให้ผมไปเป็นผู้ฝึกสอนที่ Evolve สิงคโปร์ จากนั้นก็ยังหยิบยื่นโอกาสที่สอง ด้วยการให้ผมกลับมาคืนสังเวียนอีกครั้ง ทั้งยังได้ขึ้นชิงแชมป์โลกด้วย ถือว่าเป็นอีกบุคคลที่มีบุญคุณกับผมมาก เรียกว่าเป็นผู้ชุบชีวิตของผมเลยก็ว่าได้”
อ่านเพิ่มเติม: