The Show Must Go On!! นักกีฬา ONE คิดอย่างไรกับการแข่งขันแบบสนามปิด
จากวิกฤตโคโรนาไวรัสที่กำลังระบาดและเป็นกระแสตื่นตัวไปทั่วโลก วัน แชมเปียนชิพ เองก็ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักกีฬา ผู้ชม และเจ้าหน้าที่ มาเป็นอันดับหนึ่ง
ดังนั้น สำหรับการแข่งขันในศึก ONE: KING OF THE JUNGLE ที่จะจัดขึ้นที่ สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ จึงมีมาตรฐานป้องกันความเสี่ยง ด้วยการจัดการแข่งขันแบบสนามปิด คือ จะไม่มีผู้ชมในสนาม แต่จะยังมีการถ่ายทอดสดสู่ 150 ประเทศทั่วโลกเหมือนทุกครั้ง
แน่นอนว่า นี่จะเป็นประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดาสำหรับนักกีฬา ไม่มีเสียงเชียร์ เสียงโห่ เสียงปรบมือ ฮือฮา จากผู้ชมในสนามแม้แต่คนเดียว แต่ด้วยจิตวิญญาณนักสู้ ไม่มีอะไรหยุดพวกเขาได้ เมื่อก้าวเท้าขึ้นไปเผชิญหน้าคู่แข่งบนสังเวียนแล้ว สิ่งที่เขาโฟกัสก็คือการทำอย่างไรที่จะลงจากเวทีด้วยชัยชนะ และนำความภาคภูมิใจสู่กองเชียร์ที่ดูอยู่ทางโซเชียลมีเดีย ทีวี และที่บ้าน
และนี่คือความคิดเห็น ความรู้สึกของนักกีฬาที่จะลงสนามในครั้งนี้เพียงบางส่วน พวกเราพูดถึงสถานการณ์นี้อย่างไร เราไปติดตามกัน
แสตมป์ แฟร์เท็กซ์
แชมป์โลก ONE สองประเภทกีฬา
“ตั้งแต่รู้ว่าจะมีการแข่งขัน เชื่อว่านักกีฬาทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อม เพื่อโชว์ฟอร์มที่ดีที่สุด หากศึกนี้ถูกยกเลิก สิ่งที่พวกเราทำมาก็เหมือนกับสูญเปล่า”
“สถานการณ์ทั่วโลกตอนนี้น่าเป็นห่วง แต่สิ่งที่ วัน แชมเปียนชิพ ได้วางแผนและเตรียมการณ์นั้น ทำให้เรามั่นใจในการบริหารจัดการ โดยเฉพาะการแข่งในสนามปิด ซึ่งเป็นการป้องกันความเสี่ยงกับทุกคน”
“สำหรับตัว แสตมป์ เองไม่ว่าจะมีผู้ชมหรือไม่ หน้าที่ของเราคือการขึ้นสู้ เราต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ทำทุกอย่างที่เราเตรียมมาเหมือนปกติ เคยใส่เต็มร้อยยังไง ครั้งนี้มันก็จะเป็นแบบนั้นค่ะ”
เจเน็ต ท็อดด์
ผู้ท้าชิงแชมป์โลกของ แสตมป์ แฟร์เท็กซ์
“ฉันเห็นใจทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ แต่ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจจริงๆ ที่พวกเรายังจัดการแข่งขันต่อไป”
“ถึงมันจะเป็นการแข่งในสนามปิด แต่ฉันรู้สึกอยากขอบคุณที่ ชาตรี ศิษย์ยอดธง (ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ ของวัน แชมเปียนชิพ) ตัดสินใจจะเดินหน้าต่อ เพราะในฐานะนักกีฬา เราฝึกฝนมาอย่างหนักก็เพื่อช่วงเวลานี้”
“ฉันไม่คิดว่ามันจะส่งผลกระทบต่อฉันเท่าไหร่ สมัยฉันเป็นมือสมัครเล่น ฉันเคยสู้ในสนามแข่งขันที่ว่างเปล่า ไม่มีใครสักคนตะโกนเรียกชื่อฉัน (หัวเราะ) ไม่ว่าจะผู้ชมหรือไม่ ฉันก็จะโฟกัสสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเสมอ ฉันชอบสัมผัสพลังจากคนดู ฉันชอบมักมากๆ แต่เราต้องโฟกัสกับการแข่งขัน เพราะนั่นคือเหตุผลที่เราอยู่ที่นี่ เพื่อแสดงฟอร์มการต่อสู้ที่ดีที่สุด และนั่นคือสิ่งที่ฉันรอคอย”
สามเอ ไก่ย่างห้าดาว
แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต
“สำหรับผมแล้ว ผมอยู่ในฐานะนักมวย หน้าที่ของผมคือการต่อสู้บนสังเวียน”
“ตลอดเวลาที่ผ่านมากว่า 28 ปี ผมเคยผ่านเวทีมามากมาย ทั้งในบรรยากาศที่ผู้ชมน้อย ผู้ชมมาก แต่กับการที่ไม่มีผู้ชมเลย นี่อาจจะเป็นครั้งแรก แต่ผมยังคงจะทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่เหมือนเดิม”
“ทุกครั้ง วัน แชมเปียนชิพ จะมีการเผยแพร่ไปสู่ผู้ชมกว่า 150 ประเทศ ถึงไม่มีผู้ชมในสนาม แต่ผมก็ยังรู้ว่ามีคนคอยดู และให้กำลังใจผมอยู่ จึงไม่ค่อยมีผลกระทบกับผมเท่าไหร่ครับ”
ร็อกกี อ็อกเดน
คู่ชิงแชมป์โลกของ สามเอ ไก่ย่างห้าดาว
“มันเป็นความโชคร้าย แต่เป้าหมายก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง การท้าชิงแชมป์โลก และทุกสิ่งยังเหมือนเดิม”
“ถ้าพวกเรายังคิดบวกได้ ทุกคนก็สามารถคิดบวกได้เหมือนกัน นักสู้ทุกคนจะยังคงเต็มที่กับการแข่งครั้งนี้ พวกเราจะขึ้นสังเวียนเพื่อต่อสู้กันอย่างดุเดือดโดยไม่ต้องสงสัย”
“เพราะฉะนั้น ขอให้ติดตามดูพวกเรา ห้ามพลาดการแข่งขันครั้งนี้เด็ดขาด พวกเราทุกคนจะจัดเต็มให้ผู้ชมเหมือนเดิม”
“ครูตอง” ชนนภัทร วิรัชชัย
นักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน
“ตอนแรกที่รู้ว่าต้องแข่งในสนามปิด ผมก็แอบเซ็งเล็กๆ ใครก็ชอบแข่งในที่ๆ มีคนใช่ไหม แต่คิดดูดีๆ สถานการณ์ตอนนี้ไม่ใช่แค่สิงคโปร์หรือจีนที่กำลังลำบาก แต่เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายทั่วโลก”
“ถ้าการมาขึ้นชกครั้งนี้และมีการถ่ายทอดสดไป 150 ประเทศทั่วโลก แล้วมันจะเป็นความสุข สร้างแรงบันดาลใจ หรือให้ความบันเทิงกับคนที่ต้องเก็บตัวอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน อย่างบางเมืองในประเทศจีนที่มีคนกว่า 10 ล้านคนออกไปไหนไม่ได้เป็นเดือนๆ เขาคงอยากได้ความบันเทิงมาช่วยผ่อนคลายบ้าง ดังนั้นในฐานะนักกีฬาไฟต์เตอร์และเอ็นเตอร์เทนเนอร์ ผมก็ยินดีทำ”
เดนิส แซมโบอันกา
นักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน
“ฉันดีใจที่ วัน แชมเปียนชิพ ตัดสินใจที่จะลุยต่อไป โดยไม่ยกเลิกรายการแข่งขัน”
“มันแสดงให้เห็นว่า พวกเขาเอาใจใส่และเตรียมการณ์เพื่อนักกีฬา ฉันเข้าใจว่าความปลอดภัยควรมาก่อนเสมอ โดยเฉพาะกับผู้ชม”
“ฉันว่าต่อให้สนามปิด รายการนี้ก็ยังสนุก และน่าประทับใจอยู่ดี เพราะนักสู้เก่งๆ ยังคงพร้อมใจกันลงสนามค่ะ”
ทรอย เวิร์ทเธน
นักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน
“ต่อให้ไม่มีใครเลย พวกเราก็ยังคงสู้อยู่ในวัน แชมเปียนชิพ พวกเรายังคงสู้กับคนที่ได้ชื่อว่าเก่งที่สุดในโลก และยังมีคนอีกหลายล้านคนที่เฝ้าดูการแข่งขัน ยังมีนักสู้คนอื่นๆ ที่จับตามองเราอยู่ และเราเองก็ยังคงแข่งขันในระดับสูงสุด”
“พวกเขาอาจจะไม่ได้อยู่ในสถานที่เดียวกับเรา และมันคงยากที่จะไม่สนใจเรื่องนั้น แต่ผมตื่นเต้นที่ได้รู้ว่า เรายังสามารถออกไปยืนสู้บนสังเวียนระดับโลกได้”
เจฟ จัน
นักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน
“ครั้งแรกที่ผมได้ยิน ผมก็รู้สึกว่ามันออกจะแปลกๆ หน่อย แต่ยิ่งคิด ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองน่าจะได้เปรียบ เพราะมันจะสร้างแรงกดดันน้อยลง สำหรับผมที่เพิ่งมาเปิดตัวเป็นครั้งแรก”
คิมิฮิโร เอโตะ
นักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน
“ผมเคยแข่งขันในรายการ ONE Warrior Series (เวทีค้นหาดาวรุ่งของ วัน แชมเปียนชิพ) มาถึง 4 ครั้ง ซึ่งรายการนั้นแทบจะไม่มีผู้ชมในสนาม ดังนั้น ผมจึงคุ้นเคยกับสถานกาณ์แบบนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วกลับเป็นข้อดีสำหรับผมนะ”
อ่านเพิ่มเติม:“ครูตอง” ชนนภัทร เตรียมออกศึกในสนามปิดที่สิงคโปร์ หวังสร้างความสุขสู่ผู้คนที่โดนผลกระทบจากไวรัสโคโรนา
