เปิดปูมชีวิตนักมวยทรงอย่างแบด “ทองพูน” อดีตเด็กเกเรที่ได้ดีเพราะมวยไทย
ย้อนเส้นทางชีวิตดาวรุ่งดวงใหม่ “ทองพูน” จากอดีตเด็กเกเรที่ดูเหมือนไร้คุณค่าในสายตาคนทั่วไปจนได้มวยไทยพลิกชีวิต และคว้าโอกาสสำคัญได้เป็นนักกีฬา ONE ระดับโลก
กำปั้นจอมระห่ำ “ทองพูน พีเค.แสนชัยมวยไทยยิม” เจ้าของฉายา “โล้นทองคำ” สร้างชื่อเป็นที่จดจำในฐานะนักมวยไทยดาวรุ่งฟอร์มจัดจากศึก ONE ลุมพินีที่เพิ่งคว้าสัญญานักกีฬา ONE มูลค่า 3.5 ล้านบาทเป็นคนที่ 3 ต่อจาก “แรมโบ้เล็ก ฉ.อจลบุญ” และ “เพชรจีจ้า ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม”
แต่กว่าที่ “ทองพูน” นักชกวัย 25 ปี จะกลายเป็นดาวจรัสแสงดวงใหม่ได้เช่นนี้ ใครจะรู้ว่าเขาเคยเป็นเพียงเด็กอันธพาลที่ใช้กำลังในทางที่ผิด ก่อนที่จะได้มารู้จักมวยไทยที่เขามาเปลี่ยนชีวิตเขาจากหน้ามือเป็นหลังมือ เราจึงขออาสาพาย้อนเรื่องราวชีวิตที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจของ “ทองพูน” ก่อนที่จะได้เห็นเขาโลดแล่นในสังเวียนระดับโลกต่อไป
#เด็กบ้าพลัง
“ทองพูน” หรือชื่อจริง “กฤษดา ดาลาส” ชื่อเล่นว่าเจ้า “เจี๊ยบ” อายุ 25 ปี พื้นเพเป็นคนจังหวัดมหาสารคาม เติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะยากจน ใช้ชีวิตค่อนข้างลำบาก โดยในวัยเด็กนั้น “ทองพูน” เรียกได้ว่าเป็นเด็กนักเลงหัวไม้ที่ชอบใช้กำลังแก้ปัญหาทำให้มีเรื่องชกต่อยอยู่บ่อยครั้ง
อยู่มาวันหนึ่ง “ทองพูน” ได้รู้จักเพื่อนรุ่นเดียวกันฝึกซ้อมมวยไทย ด้วยความที่ชอบต่อสู้อยู่แล้วจึงขอเพื่อนลองฝึกมวยไทยดูบ้าง และพบว่านี่คือทางของคนบ้าพลังอย่างเขาอย่างแท้จริง ซึ่งเขาสามารถปลดปล่อยพลังแบบไม่ต้องเดือดร้อนชาวบ้าน แถมยังสามารถหาเงินเลี้ยงตัวเองโดยไม่ต้องรบกวนพ่อแม่อีกด้วย “ทองพูน” จึงตัดสินใจก้าวสู่เส้นทางนักมวยอาชีพตั้งแต่นั้นมา
#ถูกเมินเพราะชกไม่ถูกตลาด
ในอดีตเจ้าตัวต้องเผชิญกับอุปสรรคอย่างหนัก โดยในสมัยที่ยังค้ากำปั้นชกมวยไทยห้ายก ชีวิตในช่วงนั้นแทบจะเอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะสไตล์การชกของ “ทองพูน” ที่เป็นมวยหมัดสายบู๊ดูจะไม่ติดตลาดเท่าใดนักจึงถูกปฏิเสธจากกลุ่มผู้จัดจากหลายรายการ
“ชีวิตการชกมวยไทยห้ายกของผม ลุ่ม ๆ ดอน ๆ ครับ เพราะด้วยที่ผมเป็นมวยไฟเตอร์ ทำให้ไม่ถูกตลาดเท่าไหร่ครับ ไปอยู่ที่ไหน พูดได้เลยว่าแทบจะไม่มีใครสนับสนุน เพราะในช่วงปลายยกสี่ ผมจะเริ่มหมดแรง จนทำให้มักจะโดนวิจารณ์เสมอ ว่าทำไมหมดแรง ล้มมวยหรือเปล่า ซึ่งผมไม่โทษใครนะครับ ผมโทษแต่ตัวเองที่ฟิตซ้อมมาไม่ถึงเอง”
#นักมวยบุคลิกสองขั้ว
สไตล์การชกที่ดุดันของ “ทองพูน” ในสองไฟต์ที่ผ่านมาใน ONE ลุมพินี ประกอบกับการเปิดตัวด้วยคาแรกเตอร์แบดบอยตามฉบับ “เม็กซิกัน แกงสเตอร์” (การวมตัวของกลุ่มคนที่ชอบแฟชันสไตล์นี้) ที่ตนชื่นชอบ ทำให้อาจคิดไปว่าตัวตนจริงของเขาคงเป็นตามนั้น แต่ตรงกันข้าม “ทองพูน” เป็นคนอ่อนน้อม พูดจาสุภาพเรียบร้อย ซึ่งแตกต่างจากสไตล์การต่อสู้บนสังเวียนอย่างสิ้นเชิง
“จริง ๆ แล้ว ผมเป็นคนประเภทอินโทรเวิร์ต (บุคคลที่มีบุคลิกแบบเก็บตัว) จะนิ่ง ๆ ไม่ค่อยพูด และชอบการใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมากกว่า จนวันหนึ่งผมอยากหาเพื่อน อยากมีสังคม จนมาเจอกลุ่มที่ชอบแต่งตัวสไตล์แกงสเตอร์เหมือนกัน ก็รู้สึกชอบและเป็นที่มาของบุคลิกออกแนวแบดบอยของผมบนสังเวียนครับ“
#ที่มาของฉายา “โล้นทองคำ”
“ทองพูน” เผยว่ามีหลายคนตั้งฉายาให้เขามากมายจากทรงผมอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็น “วิน ดีเซล มหาสารคาม” (ดาวบู๊ภาพยนตร์ฮอลลีวูด) หรือ “ไซตามะเมืองไทย” (ตัวการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่ญี่ปุ่นยอดฮิตจากเรื่อง “วันพันช์แมน”) แต่เขากลับเลือกใช้ฉายา “โล้นทองคำ” ที่ตั้งให้โดยอาจารย์ “เด็ดดวง ป.พงษ์สว่าง” อดีตมวยดังซึ่งปัจจุบันเป็นเทรนเนอร์คู่กายที่ค่ายพีเค.แสนชัยฯ โดย “ทองพูน” ให้ความเคารพนับถืออย่างสูงถึงขั้นเรียกว่า “พ่อ”
“ผมชอบชื่อนี้มากครับ คือพ่อเด็ดดวงคงเห็นคุณค่าในตัวผมตามฉายา ทองพูน ที่หมายถึง ทองคำเพิ่มพูนขึ้น แล้วผมหัวโล้นด้วย ท่านก็เลยตั้งให้ว่า โล้นทองคำ ผมว่ามันเจ๋งดีครับ ผมก็เลยใช้ชื่อนี้มาตลอด”
#พบแสงสว่างบนเส้นทางนักมวย
หลังจากที่ไม่รุ่งในการชกมวย 5 ยก “ทองพูน” เริ่มมองหาลู่ทางที่จะพาเขาไปได้ไกลกว่าที่เป็น โดยเริ่มที่การเปลี่ยนทัศคติของตนเองว่าต้องพัฒนาฝีมือและต้องอยู่ให้ถูกที่ถูกทาง เขาจึงทำทุกอย่างเพื่อหาโอกาสเข้าสู่ชายคาค่ายใหญ่อย่างพีเค.แสนชัยฯ จนกระทั่งเขาทำสำเร็จสมใจและมีโอกาสเปิดประตูสู่โลกใบใหม่ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม นั่นคือการได้เป็นส่วนหนึ่งของ ONE ลุมพินี
“ผมก็ทำทุกอย่างเพื่อพยายามผลักดันตัวเองเข้ามาอยู่ในค่ายพีเค.แสนชัยฯ ให้ได้ ผมรู้สึกเป็นเกียรติและมีความสุขมากครับที่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ ลูกพี่เสี่ยแขกดูแลดีมากครับ เขาไม่สนใจว่าคุณจะเป็นใครมาจากไหน ขอแค่คุณตั้งใจซ้อม รู้จักหน้าที่ เขาพร้อมดูแลหมดครับ ผมอยากขอบคุณตัวเองมาก ๆ ที่ผลักดันให้ตัวเองมาถึงจุดนี้ได้ครับ
“ยิ่งตอนที่รู้ว่าตัวเองมีชื่อจะได้สู้ในศึก ONE ลุมพินี จากเดิมที่ผมบ้าซ้อมอยู่แล้ว ยิ่งกลายเป็นบ้าซ้อมหนักเข้าไปใหญ่ เพราะนี่คือโอกาสทองของผม ผมจะต้องสู้ ตอนนี้ผมมีความสุขมากครับ”
#คว้าสัญญานักกีฬา ONE
“ทองพูน” ทำผลงานในศึก ONE ลุมพินีได้อย่างยอดเยี่ยม นับตั้งแต่ไฟต์แรกที่มาปรากฏตัว เริ่มด้วยรัวหมัดดับซ่า “ทูมอโร่ เกียรติทรงฤทธิ์” คู่ชก โดยใช้เวลาเพียง 24 วินาที ในศึก ONE ลุมพินี 10 เมื่อเดือน มี.ค. และเดือนต่อมาในศึก ONE ลุมพินี 13 และใช้เวลาอีกเพียง 20 วินาที ไล่อัด “เพชรมงคล ศูนย์กีฬาห้วยต้ม” ลงไปกองชนิดไม่ต้องนับให้เสียเวลา
โดยในไฟต์ล่าสุดในศึกใหญ่ ONE ลุมพินี 22 “ทองพูน” ได้กลับมาโชว์ความระห่ำเต็ม 3 ยก ใส่ “ยางดํา สท.เหี่ยวบางแสน” และเบียดเอาชนะไปด้วยคะแนนไม่เอกฉันท์ พิชิตโบนัสจากบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ไปทั้ง 3 ไฟต์รวด รวมเป็นเงิน 1,050,000 บาท ไม่รวมค่าตัว
นอกจากนี้ เขายังได้รับสัญญานักกีฬา ONE มูลค่า 3.5 ล้านบาท อย่างสุดเซอร์ไพรส์กลางสังเวียน และนับว่าเป็นนักชกรายที่ 3 จากรายการ ONE ลุมพินีต่อจาก “แรมโบ้เล็ก” และ “เพชรจีจ้า” ที่ได้รับไปก่อนหน้านี้
“ความรู้สึกเมื่อผมรู้ว่าได้เซ็นสัญญาไปลุยศึก ONE รายการใหญ่ ผมรู้สึกดีใจแทนคุณพ่อ คุณแม่ มากครับ เพราะท่านทั้งสองยากจนมาก ผมอยากดูแลท่านมาก ๆ ครับ อยากสร้างบ้าน อยากให้ท่านทำงานน้อยลง อยากมีเงินเดือนให้ท่าน ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเอง และภูมิใจแทนคุณพ่อ คุณแม่มากครับ”
แฟนกีฬาสามารถติดตามอัปเดตโปรแกรมการแข่งขันของ “ทองพูน” ได้ที่นี่ และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand, อินสตาแกรม ONEChampTh