เจาะให้จบทั้ง 5 คู่! เพื่อดูศึก ONE: DANGAL อย่างมีอรรถรส
วัน แชมเปียนชิพ ยังคงเสิร์ฟความมันสะใจให้ชมกันต่อเนื่องรับเดือนพฤษภาคม ประเดิมด้วยศึก ONE: DANGAL ที่รวมเอานักสู้ฮีโรแดนภารตะและขวัญใจมหาชนจากทั่วเอเชียเข้าประลองฝีมือ เราจะพาไปเจาะลึกให้ครบทุกคู่ในข่าวเดียวเพื่อให้ทุกท่านเข้าใจและเข้าถึงความมันขั้นสุด
#1 ศึกยักษ์ชนยักษ์
คู่เอกของรายการเป็นศึกครั้งสำคัญของรุ่นเฮฟวีเวต โดยเจ้าของบัลลังก์แชมป์โลก “The Truth” แบรนดอน เวรา จะขึ้นสังเวียนป้องกันตำแหน่งจากผู้ท้าชิง “Singh” อาร์จาน บูลลาร์ นักปล้ำผู้ยิ่งใหญ่ขวัญใจแดนโรตี
แบรนดอน แชมป์โลกชาวฟิลิปปินส์-อเมริกัน ถือเป็นนักสู้รุ่นใหญ่ที่ทรงอำนาจที่สุดเท่าที่เคยมีมาในรุ่นนี้ โดยครองสถิติน่าสะพรึงน็อกคู่ต่อสู้ทุกรายเดี้ยงในยกแรกและยังยึดบัลลังก์ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น 3 สมัย ศึกนี้ แบรนดอน ไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการรักษาสถิติน็อกยกแรก และยื้อเข็มขัดแชมป์โลกไว้ให้ได้เป็นสมัยที่ 4
ขณะที่ อาร์จาน พกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋าด้วยสถิติชนะ 10 และแพ้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นตั้งแต่เริ่มเส้นทางนักสู้มืออาชีพ ในฐานะตัวแทนชาติอินเดีย เขามุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะสานฝันในการเป็นแชมป์โลกศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานคนแรกของอินเดียให้จงได้
#2 เปิดตัวยอดมวยไทย
คู่รองของรายการเป็นการแข่งขันมวยไทย 3 ยก รุ่นแบนตัมเวต แม้จะไม่มีเข็มขัดแชมป์โลกเป็นเดิมพัน แต่เป็นไฟต์สำคัญของยอดมวยไทยดาวดัง “ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” และเจ้าของแชมป์โลก WBC มวยไทยชาวไอริช “ฌอน แคลนซี”
สำหรับ ตะวันฉาย ในวัย 22 ปี ถือเป็นหนึ่งในดาวรุ่งพุ่งแรงแห่งยุค ซึ่งได้ฤกษ์เปิดตัวโชว์ฝีมือมวยไทยบนเวทีระดับโลกให้สมศักดิ์ศรียอดมวยปี 2561 ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเขาสามารถโชว์ผลงานแบบเข้าตากรรมการ ก็มีโอกาสทะลุเข้าไปอยู่ในแรงกิงของ ONE ได้ด้วย
ขณะที่ ฌอน ลงแข่งเป็นนัดที่สองและพร้อมขัดขาเจ้าของฉายา “ซ้ายดารา” เพื่อล้างอาถรรพ์ที่เคยพ่ายแพ้ให้แก่นักรบค่าย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิมมาตลอด ไม่ว่าจะเป็น แสนชัย, ก้องศักดิ์ และล่าสุด พงษ์ศิริ
#3 เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
ฮีโรตัวแม่แห่งแดนภารตะ “The Indian Tigress” ริตู โฟกาต ผู้เบนเข็มจากกีฬามวยปล้ำมาเอาดีทางศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน มีฝีมือน่าเกรงขามโดยคว้าชัยชนะต่อเนื่อง 4 ไฟต์จนได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมการแข่งขัน ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิง ในช่วงปลายเดือนนี้
ศึกนี้จึงเปรียบเสมือนไฟต์ชี้ชะตาว่าเธอสมควรที่จะได้ไปต่อ หรืออาจถูกถอดชื่อจาก เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ หากพ่ายแพ้ในไฟต์นี้ ดังนั้นทางเลือกเดียวที่มีคือการเอาชนะเพื่อนที่แสนดีอย่าง “บิ เหงียน” เท่านั้น
ด้าน บิ เหงียน กลับคืนสังเวียนอีกครัั้งด้วยความมุ่งมั่นที่จะคว้าชัยชนะให้ได้หลังต้องพักเลียแผลใจจากความปราชัย 3 ไฟต์หลังในการแข่งขันการต่อสู้แบบผสมผสาน เธอพร้อมประกาศศักดาความเป็นนักสู้พันธุ์อึดที่คู่ต่อสู้จะหยามไม่ได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ริตู ที่หวังใช้เธอเป็นบันได โดยเธอตั้งใจทำลายแผนการใหญ่ของนักสู้ขวัญใจชาวอินเดียให้พังแบบไม่เป็นท่าด้วยฟอร์มแกร่งกว่าที่ผ่านมา
#4 ศึกชิงแรงกิง
“Zombie” อายากะ มิอูระ ผู้สร้างชื่อด้วยท่าซับมิชชัน Scarf-hold Americana บันลือโลก คว้าชัยชนะติดต่อกันสามนัดรวด ส่งให้เธอขึ้นมาอยู่ในอันดับ 4 ของแรงกิงรุ่นสตรอว์เวต แต่ความแรงของเธอมีอันต้องสะดุดด้วยน้ำมือของ “No Chill” ทิฟฟานี เตียว จากแดนสิงโตผู้รั้งอันดับ 1 ไฟต์นี้เธอจึงกลับมาเรียกกำลังใจ พร้อมเดินหน้าสานฝันในการไต่อันดับต่อไป
โดยเธอจะลงแข่งในพิกัดแคตช์เวต 58.25 กิโลกรัมกับนักสู้สาวแดนแซมบา “ราเยน บาสโตส” ซึ่งตั้งใจที่จะสานต่อสถิติอันไร้รอยด่างพร้อย หลังจากเอาชนะ “The Sweet Savage” โสวันนารี เอม ในไฟต์เปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ซึ่งถ้าเธอสามารถจัดการนักสู้สาวแดนอาทิตย์อุทัยเจ้าของฉายา “ซอมบี้” ได้เธอจะเบียดเข้าไปอยู่ในแรงกิงทันที
#5 ศึกสายเลือด
คู่เปิดรายการจะเป็นศึกสายเลือดของสองนักสู้แดนภารตะในพิกัดแคตช์เวต 65 กก. ระหว่าง “Saint Lion” เกอร์ดาร์ชาน มานกัต และ โรชาน ไมนัม แม้ปกติทั้งคู่จะชกในรุ่นฟลายเวต การทำหนักขึ้นมาก็เหมือนเป็นการลองเชิงเพื่อเตรียมตัวขึ้นไปชกในรุ่นแบนตัมเวตที่ทั้งสองหมายตาอยู่
ทั้งคู่เคยรู้จักกันมาก่อนในฐานะพี่น้องร่วมค่ายและเคยฝึกมวยปล้ำด้วยกัน โดย เกอร์ดาร์ชาน เป็นผู้ให้คำแนะนำ โรชาน ด้วยตัวเอง แต่การประจันหน้าในครั้งนี้ ทั้งคู่คงต้องวางความเป็นพี่น้องก่อนเพื่อสร้างอนาคตให้ตนเองใน วัน แชมเปียนชิพ
นักสู้ชาวอินเดีย-แคนาดา เกอร์ดาร์ชาน ถูกจับตามองเป็นอย่างมากเมื่อก้าวเข้ามาอยู่ในชายคา วัน แชมเปียนชิพ และกำสถิติชนะสองไฟต์ต่อเนื่อง แต่ฝันของเขาก็ต้องพังทลายเมื่อ “Lighting” รีซ แม็คลาเรน จัดซับมิชชันให้เขาในไฟต์ล่าสุด ครั้งนี้เขาจึงตั้งใจกลับมาเรียกศรัทธาคืนอีกครั้ง
ส่วน โรชาน นับจากที่เปิดตัวใน วัน แชมเปียนชิพ ก็ไม่มีใครหยุดเขาได้ เขาใช้ทักษะปล้ำจับล็อกเอาชนะซับมิชชันได้ถึงสามครั้งติดต่อกัน และครั้งนี้เขาก็หมายมั่นปั้นมือว่าจะสานต่อชัยชนะครั้งที่ 4 ควบสถิติไร้พ่ายด้วยการเอาชนะชายที่เขานับถือในฐานะ “ลูกพี่”
อ่านเพิ่มเติม: