เจาะให้ครบทั้ง 5 คู่เพื่อดูศึก ONE: FULL BLAST อย่างมีอรรถรส
วัน แชมเปียนชิพ พร้อมปิดฉากเดือนพฤษภาคมให้สะเทือนเลือนลั่น ด้วยความมันขั้นสุดเอาใจแฟนมวยไทยในศึก ONE: FULL BLAST ซึ่งจะเป็นการออกอากาศเทปการแข่งขันในวันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม 2564 เวลา 19.30 น.
แม้ว่าศึกครั้งนี้จะไม่มีรายการชิงตำแหน่งแชมป์โลก แต่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนักกีฬาแต่ละคนล้วนถูกประกบคู่ได้น่าตื่นตาตื่นใจ โดยเฉพาะคู่เอกเป็นการเผชิญหน้าของสองมวยซ้าย ซึ่งหากแฟน ๆ อยากจะเจาะให้ครบทุกคู่ อ่านข่าวนี้ข่าวเดียวรู้หมด!
เสมาเพชร & กุหลาบดำ
คู่นี้ควรจะต้องได้ฟาดปากกันไปตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต รอบชิงชนะเลิศ “เสมาเพชร แฟร์เท็กซ์” ได้รับบาดเจ็บจากไฟต์ที่เจอกับ “รถเหล็ก พี.เค. แสนชัยมวยไทยยิม” ในรอบแรก รถเหล็ก จึงเสียบแทนเพื่อไปเจอกับ “ซ้ายอุกกาบาต” กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย ที่น็อก “ทารกเงินล้าน” แสงมณี คลองสวนพลูรีสอร์ต (ส.กาแฟมวยไทย) แต่สุดท้าย รถเหล็ก ก็ชนะทัวร์นาเมนต์และได้ไปท้าทายเจ้าบัลลังก์ที่ฆ่าไม่ตายอย่าง “น้องโอ๋ ไก่ย่างห้าดาว”
อย่างไรก็ตามโชคชะตาทำให้ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกัน โดย เสมาเพชร ในฐานะที่รั้งอันดับ 1 ของแรงกิง หมายมั่นปั้นมือว่าจะรักษาตำแหน่งของเขาไว้เพราะอาจส่งให้เขาได้ก้าวขึ้นชิงแชมป์โลกกับ น้องโอ๋ อีกครั้ง ขณะที่ กุหลาบดำ ที่ยังไม่เคยได้ชิงแชมป์โลก หากเขาชนะไฟต์นี้ก็มีโอกาสที่จะขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงเบอร์หนึ่งได้
คันธราช & เซียะ
“Kannadiga” คันธราช อากาซา นักศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานฝีมือฉมังจากแดนภารตะลงศึกเปิดตัวครั้งแรกใน วัน แชมเปียนชิพ โดยต้องเผชิญหน้ากับนักสู้ดาวรุ่งแดนมังกร “The Hunter” เซียะ เหวย แม้ทั้งสองจะยังไม่มีรายชื่อในแรงกิง ONE แต่ด้วยฝีมือและผลงานที่ผ่านมา ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าพวกเขามาแรง
คันธราช ขึ้นชื่อว่าชำนาญในศาสตร์การคว้าจับล็อก เป็นเจ้าของสถิติชนะ11 แพ้ 2 แม้เขายังไม่เคยลงแข่งในเวทีระดับโลก แต่เขาเคยเอาชนะเพื่อนร่วมชาติอย่าง “โรชาน ไมนัม” ซึ่งนักกีฬาดาวรุ่งของ วัน แชมเปียนชิพ ถึงสองครั้ง หนึ่งนั้นคือการซับมิชชันภายในเวลาเพียง 81 วินาที
ขณะที่ “The Hunter” เซียะ เหวย เจ้าของสถิติชนะ 12 แพ้ 3 กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงจากแดนมังกร โดยสร้างชื่อจากการแข่งขันรายการ ONE Warrior Series และ ONE Hero Series ซึ่งเป็นเวทีค้นหาดาวรุ่งของ วัน แชมเปียนชิพ หลังจากเป็นผู้ชนะเขาก็ก้าวเข้ามาเซ็นสัญญากับ ONE โดยโชว์ผลงานเข้าตากรรมการด้วยการสกัดดาวรุ่ง “จัน โรธนะ” เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และชัยชนะในศึกนี้จะผลักดันให้เขาเติบโตต่อไปบนเวทีระดับโลก
ซานติโน & ไมลส์
หากคู่เอกคือศึกสายเลือดยอดมวยไทย คู่นี้ก็เป็นการประลองยุทธ์ระหว่างพี่น้องสายเลือดดัตช์ในกติกาคิกบอกซิ่ง รุ่นเวลเตอร์เวต
“ซานติโน เวอร์บีค” นักสู้วัย 26 ปี เปิดตัวกับ วัน แชมเปียนชิพ อย่างน่าประทับใจในเดือนกันยายน 2562 ด้วยการแลกบู๊สะบั้นหั่นแหลกกับ “ควน เซอร์วานเตส” คิกบ็อกเซอร์จากแดนผู้ดี โดยเขาเอาชนะคะแนนเสียงข้างมากไปได้แบบสุดมัน ทำให้ไฟต์นั้นขึ้นทำเนียบ 10 อันดับสุดยอดการแข่งขัน วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ (กติกามวยไทย/คิกบ็อกซิ่ง) ประจำปี 2562 และเขาตั้งใจจะสร้างความประทับใจอีกครั้งเมื่อมีโอกาสต้อนรับเพื่อนร่วมชาติ “The Punisher” ไมลส์ ซิมสัน ในฐานะน้องใหม่บนเวที วัน แชมเปียนชิพ
แม้จะเป็นน้องใหม่ใน ONE แต่ ไมลส์ ไม่ได้ใหม่บนเส้นทางนักสู้ เขาเจนจัดและคลุกคลีอยู่ในวงการนี้มามากกว่า ซานติโน ถึงเกือบสองเท่า ไมลส์ จึงไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าชัยชนะที่จะส่งให้เขาก้าวต่อไปอย่างสง่าผ่าเผยบนเวทีระดับโลก
อาห์เหม็ด & เอ็ดเวิร์ด
“The Prince” อาห์เหม็ด ฟาเรสส์ คือหนึ่งในนักกีฬาต่อสู้แบบผสมผสานที่กำลังมาแรงที่สุดของอียิปต์ ด้วยสถิติระดับอาชีพชนะ 16 แพ้ 3 และอัตราการปิดเกมไวทุกไฟต์ ฝีมือของเขาเป็นที่ประจักษ์เมื่อเขาซับมิชชันนักรบชาวไอริชหนังเหนียว “The Apprentice” อลัน ฟิลพอตต์ ในยกแรกเมื่อเปิดตัวในการแข่งขัน ONE Warrior Series ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563
อาห์เหม็ด ตั้งใจเขย่าแรงกิงรุ่นเฟเธอร์เวตซึ่งอัดแน่นไปด้วยนักสู้ตัวฉกาจ โดยเขาจะเป็นชาวอียิปต์คนที่สองในประวัติศาสตร์ของ ONE ที่สามารถคว้าชัยในเวทีระดับโลก ตามรอย “ฮิชาม ฮิบา” ที่เอาชนะ “โมฮัมมัด โซตูนซาเดห์” เมื่อเดือนตุลาคม 2557
ขณะที่ “The Ferocious” เอ็ดเวิร์ด เคลลี นักสู้ตัวเก๋าจากค่ายกางเกงแดง “ทีมลาไคย์” จากแดนตากาล็อก จะขึ้นสังเวียนเป็นครั้งที่ 15 และหากเขาใช้ความเก๋าสยบความสดของนักสู้อียิปต์ได้ เขาจะคว้าชัยชนะรวม 9 ครั้ง ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในรุ่นนี้ เทียบเท่ากับราชันต์รุ่นไลต์เวต “The Warrior” คริสเตียน ลี และอดีตราชารุ่นเฟเธอร์เวต “The Situ-Asian” มาร์ติน เหงียน
แอนโทนี & เหลียง
คู่เปิดรายการเป็นการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน แคตช์เวต 57.7 กิโลกรัม ระหว่างตัวแทนแดนพญาอินทรีย์และแดนมังกร
“The Antidote” แอนโทนี โด นักสู้ชาวอเมริกัน หวังเดินตามรอย “Singh” อาร์จาน บูลลาร์ เพื่อนร่วมค่ายและมองไกลถึงการก้าวขึ้นเป็นแชมป์โลก ONE อีกคน โดยเขาหวังจะฝากรอยเท้าแรกในฐานะนักกีฬา วันแชมเปียนชิพ ด้วยชัยชนะไฟต์นี้
ด้าน “The Little Monster” เหลียง เหวย แม้เปิดตัวไฟต์แรกไม่สวย แต่เขายังมีโอกาสแจ้งเกิดหากชนะไฟต์นี้ และเดินลงจากเวทีพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง เซียะ เหวย ซึ่งคงต้องดูว่าเดิมพันของใครจะสร้างแรงผลักดันอย่างมั่นคงบนเวทีระดับโลกได้เหนือกว่ากว่ากัน
อ่านเพิ่มเติม: