เจาะให้จบทั้ง 6 คู่เพื่อดูศึก ONE: UNBREAKABLE อย่างมีอรรถรส
วัน แชมเปียนชิพ เริ่มต้นปฏิทิน 2564 แบบจัดหนัก โดยวันศุกร์ที่ 22 มกราคมนี้ พร้อมเปิดศึกแรกแห่งปีในชื่อ ONE: UNBREAKABLE ที่ สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม พร้อมขนทัพนักกีฬาจากนานาประเทศรวม 12 ชีวิตขึ้นสังเวียนเผชิญหน้า โดยคู่เอกของรายการมีเข็มขัดแชมป์โลก ONE เป็นเดิมพัน
อลาเวอร์ดี & กัปปิตัน
สองยอดฝีมือจอมน็อกเอาต์ปะทะกันในฐานะคู่เอก มีเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต (61.3 – 65.8 กก.) เป็นเดิมพัน
ด้านแชมป์โลก “Babyface Killer” อลาเวอร์ดี รามาซานอฟ หลังจากนั่งบัลลังก์นี้เป็นคนแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2562 เขาก็หมายมั่นปั้นมือที่จะรักษาเข็มขัดสุดหวงแหนไว้อย่างเหนียวแน่น ในการลงแข่งขันครั้งที่ 7 ใน วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ (กติกามวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง) และสานต่อชัยชนะครั้งที่ 62 ในชีวิต
ส่วน “กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี” นี่คือโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตกับการอัปเกรดตัวเองเป็นระดับแชมป์โลกขององค์กรการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก หลังจากโชว์ฟอร์มสุดตะลึงน็อก “เพชรทนง เพชรเฟอร์กัส” ภายใน 6 วินาทีเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ซึ่งถือเป็นการทำลายสถิติน็อกเอาต์เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขัน วัน ซูเปอร์ ซีรีส์
พร้อมกันนี้ กัปปิตัน จะสานต่อสถิติไร้พ่ายต่อเนื่องเป็นไฟต์ที่ 14 จากชัยชนะที่เคยคว้ามาทั้งหมดในชีวิตรวม 144 ครั้ง และมั่นใจว่าจะนำเข็มขัดอันทรงเกียรติเส้นนี้กลับประเทศไทยได้แน่นอน
ชินยะ & เจมส์
นี่คือการเผชิญหน้าของสองนักสู้ผู้เชี่ยวชาญการจับล็อกคู่รองของศึกนี้ ระหว่างเจ้าตำนานชาวญี่ปุ่น อดีตแชมป์โลก ONE รุ่นไลต์เวต “Tobikan Judan” ชินยะ อาโอกิ เปิดศึกรับน้องอดีตผู้ท้าชิงแชมป์โลก ONE รุ่นเวลเตอร์เวต “เจมส์ นากาชิมา” ที่ย้ายลงมาแข่งในรุ่นไลต์เวต (70.4 – 77.1 กก.)
ชินยะ รั้งอันดับ 4 ในแรงกิง และถือเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่น่าจับตาของรุ่น เขาผ่านสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ มาแล้ว 13 ครั้ง ปัจจุบันครองสถิติปิดเกมไม่ครบยกสูงสุดถึง 8 ไฟต์โดยเป็นการซับมิชชัน 6 ครั้ง การันตีการเป็นยอดนักรัดสุดอันตราย
ศุกร์นี้ ชินยะ จะเปิดศึกครั้งที่ 47 ในชีวิตกับคู่แข่งชาวอเมริกันซึ่งเคยทำสถิติไร้พ่ายต่อเนื่อง 12 ไฟต์อย่าง เจมส์ นากาชิมา ซึ่งเกือบจะคว้าตำแหน่งแชมป์โลก ONE รุ่นเวลเตอร์เวต แต่พลาดไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย และนั่นคือรอยด่างพร้อยครั้งแรกในสถิติของเขา ทำให้เขาตัดสินใจย้ายลงมาแข่งในรุ่นไลต์เวตที่น่าจะเหมาะสมกับรูปร่างและน้ำหนักของตัวเองมากกว่า พร้อมกับตั้งใจเดินหน้าสร้างตำนานบทใหม่ในรุ่นนี้
ราเดอ & บรูโน
ศึกของพี่ใหญ่รุ่นเฮฟวีเวต (102.2 – 120.2 กก.) กติกาคิกบ็อกซิ่ง มาสั่นสะเทือนเวทีตั้งแต่ศึกแรกของปี หลังจากเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ชื่อของแชมป์มวยไทยชาวเซอร์เบีย “ราเดอ โอพาชิช” กลายเป็นที่รู้จักในระดับโลกอย่างรวดเร็ว จากท่าจระเข้ฟาดหางใช้ส้นเท้าเผด็จศึกคู่แข่งได้ในยกที่ 2 และคว้า 1 ใน 3 น็อกเอาต์ยอดเยี่ยมที่สุดในวัน ซูเปอร์ ซีรีส์ ปี 2563
ราเดอ กลับขึ้นสังเวียนอย่างรวดเร็วและตั้งใจลงจากเวทีด้วยการคว้าชัยชนะครั้งที่ 21 ในชีวิต โดยในวันศุกร์ที่ 22 มกราคมนี้เขามีนัดต้อนรับน้องใหม่ “บรูโน ซูซาโน” ซึ่งเดินทางมาไกลจากโปรตุเกสเพื่อเปิดตัวครั้งแรกใน วัน แชมเปียนชิพ
บรูโน มาในฐานะนักมวยขัดตาทัพที่รู้ตัวล่วงหน้าราวหนึ่งสัปดาห์ แต่ด้วยประสบการณ์บนเวทีคิกบ็อกซิ่ง 102 ไฟต์ แถมเป็นแชมป์โลก ISKA คงไม่มีอะไรจะน่าตื่นตระหนกตกใจสำหรับเขาในวัย 37 ปี ยกเว้นคู่แข่งหนุ่มวัย 23 จะใช้ความสดบดความเก๋าเข้าเส้นชัยไป
เซบาซเตียน & กัดซิมูราด
อดีตแชมป์โลก ONE รุ่นเวลเตอร์เวต “The Bandit” เซบาซเตียน คาเดสตัม กลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่ของตนเองตั้งแต่ต้นปี เขาผู้นี้คือราชาน็อกเอาต์ของรุ่นที่อาจจะคว้าชัยชนะครั้งที่ 13 ลงจากเวทีในศึก ONE: UNBREAKABLE นี้
ที่สำคัญไม่ว่า เซบาซเตียน จะจบไฟต์นี้ด้วยการน็อกเอาต์ หรือซับมิชชันก็ตาม เขาจะก้าวขึ้นเป็นยอดฝีมือที่ปิดเกมไม่ครบยกสูงสุดอีกคนหนึ่งของรุ่นเวลเตอร์เวต (77.2 – 83.9 กก.) เทียบเท่ากับ “เบน แอสเครน” ที่ 5 ครั้ง
ด้าน “กัดซิมูราด อับดุลลาเอฟ” แชมป์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานไร้พ่ายชาวรัสเซีย นอกจากความหนุ่มสดในวัย 24 ปี ซึ่งอ่อนกว่าอีกฝ่าย 6 ปีแล้ว เขายังกำสถิติปิดเกมไม่ครบยก 80% และแม้จะเป็นมวยรองนิด ๆ ด้วยประสบการณ์ที่น้อยกว่า แต่หากเขาหักปากกาเซียนได้ การวาร์ปขึ้นไปท้าชิงแชมป์โลกก็อยู่ไม่ไกล
เมง โบ & ซามารา
คู่หญิงเดียวของศึกนี้ เพชฌฆาตสาวจีน “เมง โบ” ซึ่งรั้งอันดับ 2 ของแรงกิงรุ่นอะตอมเวต (47.7 – 52.2 กก.) เตรียมกำปั้นอันลือชื่อไว้รับมือ “Marituba” ซามารา ซานโทส จากบราซิล
เมง โบ เพิ่งจะสร้างผลงานน็อกเอาต์ติดท็อป 5 ในประวัติศาสตร์ของรุ่นนี้ ด้วยการหักอกขวัญใจชาวอินโดนีเซีย “พริสซิลลา เฮอร์ตาติ ลุมบัน กาโอล์” ด้วยเวลา 1.26 นาที ควงสถิติปัจจุบัน ชนะ 15 แพ้ 5 และได้ชื่อว่านักสู้หญิงสุดอันตรายคนหนึ่งของรุ่นนี้
ด้าน ซามารา ก็กระดูกมวยแข็งไม่แพ้กัน นับตั้งแต่เข้าสู่ วัน แชมเปียนชิพ เธอก็ผ่านยอดฝีมือของรุ่นสตรอว์เวต (52.3 – 56.7 กก.) อย่างตัวแม่จากประเทศจีน “The Panda” ซง จิง หนาน และอันดับสี่ของแรงกิง “Zombie” อายากะ มิอูระ มาแล้ว โดยไฟต์นี้ทั้งคู่จะเจอกันในน้ำหนักแคตช์เวต 54.8 กิโลกรัม และเรามาดูสิว่าใครจะทำได้ดีกว่าในน้ำหนักนี้
นามิกิ & ลิโต
เดือดตั้งแต่คู่เปิดรายการ เมื่อดาวรุ่งฟิลิปปินส์เลือดร้อน “Thunder Kid” ลิโต อาดิวัง กลับขึ้นสังเวียนทันที หลังจากเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เขาลงจากเวทีอย่างขมขื่นเมื่อนักสู้หน้าใหม่ แชมป์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานชาวญี่ปุ่น “ฮิโรบา มิโนวา” เขี่ยให้เขาร่วงจากแรงกิงรุ่นสตรอว์เวต (52.3 – 56.7 กก.) ไปแบบช้ำใจ
เท่านั้นยังไม่พอเขายังต้องเผชิญหน้ากับการสูญเสียครั้งใหญ่ เมื่อแม่ของเขาป่วยหนักและเสียชีวิตในเดือนธันวาคม ความเจ็บปวดสองครั้งในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน อาจทำให้ ลิโต ชอกช้ำอยู่ในใจ แต่มันก็ไม่อาจลดทอนความมุ่งมั่นของเขาในฐานะนักกีฬาที่จะสานต่อความสำเร็จเพื่อเป็นเกียรติให้แก่ครอบครัวและมารดาที่ล่วงลับ
ด้าน “นามิกิ กาวาฮารา” แชมป์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานของญี่ปุ่น เป็นอีกคนที่หมายตาจะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกับ ฮิโรบา เพื่อนร่วมชาติที่เคยทำสำเร็จมาก่อน แม้จะเข้ามาเป็นนักสู้ขัดตาทัพโดยรู้ตัวล่วงหน้าราวหนึ่งสัปดาห์ แต่ถ้าไม่แน่ใจในความพร้อมและฝีมือตัวเองแล้วล่ะก็ นามิกิ คงไม่รับคำท้านี้อย่างรวดเร็วแน่นอน
ศึก ONE: UNBREAKABLE จะถ่ายทอดสดจากสิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ในวันศุกร์ที่ 22 มกราคมนี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 19.30 น.เป็นต้นไป รับชมได้ทาง
- ONE Super App เวลา 19.30 น.
- YouTube ของ ONE Championship เวลา 19.30 น.
- AIS Play เวลา 19.30 น.
- ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 21.30 น.
อ่านเพิ่มเติม: