ปีแห่งโอกาส “รถถัง” เผยความทรงจำและประสบการณ์ดีที่สุดในชีวิตปี 2565
ราชันจอมบู๊ขวัญใจชาวไทย “ดิ ไอรอนแมน” ย้อนเรื่องราวดี ๆ ใต้ชายคา ONE ที่ทำให้เขาได้ลองทำในสิ่งที่ไม่คาดฝันและได้บทเรียนอันมีค่าที่สุดในชีวิตนักสู้
“ดิ ไอรอนแมน” รถถัง จิตรเมืองนนท์ แชมป์โลก ONE มวยไทยรุ่น ฟลายเวต (135 ป.) มองย้อนถึงชีวิตตัวเองตลอดปี 2565 ทั้งในและนอกสังเวียนที่มีทั้งเรื่องราวความประทับใจและบทเรียนใหม่ที่เขาจะจำไม่ลืม
เรียกได้ว่าปี 2565 เป็นปีแห่งความท้าทายอีกขั้นของ “รถถัง” ผู้นั่งแท่นนักมวยไทยระดับซูเปอร์สตาร์ของ ONE และเป็นขวัญใจของแฟนกีฬาจากทั่วโลกในฐานะนักสู้ที่มีทั้งฝีมือ สไตล์การชกอันเป็นเอกลักษณ์ และบุคลิกส่วนตัวที่สะท้อนความเป็นสุภาพบุรุษนักกีฬาตัวจริง
“รถถัง” เริ่มต้นปี 2565 ด้วยความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ในศึกลูกผสมมวยไทย x การต่อสู้แบบผสมสาน (MMA) ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เพื่อฉลองครบรอบ 10 ปีขององค์กร ในศึก ONE X เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีโอกาสเผชิญหน้ากับแชมป์โลก MMA 12 สมัย “ไมตีเมาส์” ดิมิเทรียส จอหันสัน หรือ “ดีเจ” ที่ได้ชื่อว่าเก่งกาจที่สุดตลอดกาล
แม้ผลที่ออกมา “รถถัง” จะเป็นฝ่ายถูกซับมิชชันจนหลับคาเวที แต่เจ้าตัวก็ยกให้เป็นไฟต์สุดประทับใจที่จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป เนื่องจากเป็นไฟต์ที่เขากล้าที่จะก้าวผ่านความกลัวและออกจากกรอบเดิม ๆ มาลองสู้ในรูปแบบ MMA เป็นครั้งแรกในชีวิต หลังจากซุ่มฝึกซ้อมวิชาพื้นฐานอยู่ร่วมปี
แม้จะรู้ดีว่าตนเองเสียเปรียบในกติกา MMA แต่ “รถถัง” ก็ตอบรับลงแข่งในไฟต์ประวัติศาสตร์นี้ โดยมุ่งหวังที่จะสร้างความประทับใจให้แฟนกีฬาเป็นหลักมากกว่าโฟกัสที่ผลแพ้ชนะ
“ในปีนี้ถ้าเป็นเรื่องการต่อสู้ สิ่งที่ประทับใจผมมากที่สุดคือการที่ผมตอบรับลงแข่งกับตำนานอย่าง ดิมิเทรียส ในกติกาลูกผสม MMA และมวยไทยครับ มันคือประสบการณ์ที่ผมจะจดจำไปตลอด เพราะเป็นการที่ผมก้าวข้ามความกลัว ได้ออกนอกกรอบตัวเอง ถึงผมจะแพ้แบบหมดรูปแต่มันคือประสบการณ์ที่ดีที่ผมจะเอาไปปรับปรุงตัวเองในอนาคตครับ”
ต่อมาช่วงกลางปีในเดือน พ.ค. “รถถัง” อ้าแขนรับความท้าทายอีกครั้ง โดยตัดสินใจโดดจากบัลลังก์มาลงร่วมวงการแข่งขัน ONE มวยไทย เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวต (135 ป.) เพื่อพิสูจน์ตัวว่าเขาคือแชมป์โลกผู้ไร้เทียมทานของรุ่นนี้อย่างไม่ข้อสงสัย
แต่น่าเสียดายที่แม้ “รถถัง” จะผ่านรอบแรกฉลุยมาถึงรอบรองชนะเลิศ แต่ก็เกิดเหตุสุดวิสัย ทำน้ำหนักและระดับน้ำในร่างกายไม่ผ่านเกณฑ์ของ ONE เขาจึงต้องถอนตัวจากการแข่งขันไปตามระเบียบ
แม้จะผิดหวังเล็ก ๆ ที่ชวดเข้าชิงเข็มขัดเงิน แต่ “รถถัง” ก็สามารถปิดท้ายปีอย่างสวยงามด้วยการกลับมาป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกได้สำเร็จเป็นครั้งที่ 4 จาก “โจเซฟ ลาซิรี” ราชันมวยไทย รุ่นสตรอว์เวต (125 ป.) ที่อาจหาญขึ้นมาท้าชิงเข็มขัดในรุ่นใหญ่กว่า
ชัยชนะเหนือ “โจเซฟ” ส่งให้ “รถถัง” นั่งบัลลังก์แชมป์ต่อเป็นสมัยที่ 5 พร้อมสถิติ 11 ไฟต์ไร้พ่ายในกติกามวยไทย โดยยังไม่มีผู้ท้าชิงคนใดกระชากเขาลงจากบัลลังก์ได้แม้แต่คนเดียว
ผลงานอันยอดเยี่ยมของ “รถถัง” นำมาซึ่งข่าวดีส่งท้ายปีที่ทำให้เขารู้สึกหายเหนื่อยและมีกำลังใจทำหน้าที่นักกีฬาอย่างสุดความสามารถ นั่นคือการที่ บิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” ประกาศขึ้นค่าตัวให้กับนักมวยระดับแชมป์โลกซึ่งหมายรวมถึง “รถถัง” ด้วย
“แม้ผมจะแอบผิดหวังนิดหน่อยที่ไม่ได้ชิงเข็มขิดสีเงิน แต่ไม่เป็นไรครับ ผมป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกของผมต่อไปได้ และยิ่งมีข่าวขึ้นค่าตัวมันก็ดีมาก ๆ เลยครับ
จริง ๆ สำหรับผมทุกอย่างมันดีมาตั้งแต่แรกที่ผมเข้า ONE แล้วครับ จากที่ไม่รู้จักองค์กรนี้มาก่อน จนตอนนี้ผมได้เป็นแชมป์โลกในเวทีนี้ ONE ทำให้ผมมีทุกอย่างถ้าไม่ได้ชกที่นี่ ผมเองก็ไม่รู้ว่าผมจะมีเงินเลี้ยงดูครอบครัวได้ถึงเมื่อไหร่ ผมจะได้มีรถ มีบ้านของตัวเองตอนไหน แต่ตอนนี้ผมมีทุกอย่างแล้วครับ”
สรุปแล้วคือปีนี้เป็นปีที่ดีมากของผม เป็นปีแห่งโอกาสที่เปิดกว้าง ทำให้ผมได้ทำอะไรใหม่ ๆ มีโอกาสดี ๆ เข้ามา ทำให้ผมได้ดูแลครอบครัวเป็นอย่างดี และมีเวลาได้ใกล้ชิดกัน พูดคุยกันมากขึ้นด้วยครับสำหรับเป้าหมายต่อไป ผมก็อยากจะทำหน้าที่นักกีฬาให้เต็มที่ อยากลองให้ครบทุกกติกา ทั้งมวยไทย คิกบ็อกซิ่ง และ MMA และอยากจะครองแชมป์โลก ONE ให้ได้นานที่สุด นอกนั้น ผมก็ขอดูแลพ่อแม่และครอบครัวให้มีกินมีใช้และอยู่สบาย ชีวิตผมมีแค่นี้ ซึ่งปีหน้าผมก็เชื่อว่าจะเป็นปีที่ดีของผมอีกเช่นกันครับ”
ในปี 2566 “รถถัง” มีความท้าทายครั้งสำคัญรออยู่ เมื่อเขาตั้งเป้าลุยในเส้นทางคิกบ็อกซิ่ง เพื่อล่าเข็มขัดอีกเส้นมาครอบครองให้ได้ โดยด่านแรกที่เขาต้องผ่านคือการเจอกับนักชกคิกบ็อกซิ่ง “แดเนียล พูแอร์ตัส” ในศึก ONE FIGHT NIGHT 6: ซุปเปอร์บอน vs ชิงกิซ ที่จะถ่ายทอดสดจากอิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ในช่วงไพรม์ไทม์อเมริกา ซึ่งตรงกับช่วงเช้า 08.00 น. ของวันเสาร์ที่ 14 ม.ค.66
แฟน ๆ สามารถติดตามความคืบหน้าและโปรแกรมการแข่งขันเต็มของศึกนี้ได้ที่นี่ รวมทั้งโซเชียลมีเดียของ ONE ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และ อินสตาแกรม ONEChampTh โดยสามารถจองบัตรเข้าชมที่ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี วันนี้ในราคาเริ่มต้น 150 บาท รีบจองก่อน ได้ที่นั่งชัดถนัดตาก่อน คลิกที่ลิงก์นี้ bit.ly/OFN6BKK
อ่านเพิ่มเติม: