“พันธ์พยัคฆ์” ปลื้มปริ่มกู้ศรัทธาแฟนกีฬาสำเร็จแม้เป็นแค่มวยแทน
“ยอดมวย 3 พ.ศ.” พันธ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ หลังโชว์ผลงานยอดเยี่ยมด้วยการชนะคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์เหนือคู่แข่งน้องใหม่จากแดนกระทิงดุ “แดเนียล พูร์แอร์ตัส” ในศึก ONE:NEXTGEN III เมื่อ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ก็ออกอาการดี๊ด๊าเป็นพิเศษที่คว้าชัยเป็นครั้งที่สองในกติกาคิกบ็อกซิ่ง กู้ศรัทธาจากบรรดาแฟนกีฬาแม้จะมาในฐานะมวยแทน พร้อมวางแผนเดินหน้าภารกิจทวงคืนแรงกิงหัวแถวทั้งในสายคิกบ็อกซิ่งและมวยไทย
เป็นที่รู้กันว่า พันธ์พยัคฆ์ รับหน้าที่มาเสียบแทนเพื่อนร่วมค่ายอย่าง “ดิ ไอรอน แมน” รถถัง จิตรเมืองนนท์ แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ซึ่งต้องถอนชกกะทันหันเพราะมีผลตรวจเชื้อโควิดเป็นบวก พันธ์พยัคฆ์ จึงมีเวลาจำกัดในการฟิตซ้อมก่อนลงแข่งขัน แต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นทำให้เขาเป็นปลื้มสุดขีดซึ่งช่วยกู้ความมั่นใจกลับมาได้อีกมากโข
หลังจากได้รับการติวเข้มจาก “อาจารย์สุบิน สนตอน” เทรนเนอร์ประจำตัวของ รถถัง ทำให้ พันธ์พยัคฆ์ มั่นใจในทักษะคิกบ็อกซิ่งมากขึ้น เห็นได้ชัดว่า พันธ์ยัคฆ์ ที่เคยมีผู้ตั้งชื่อเล่นให้ว่า “นักมวยเกียร์อาร์” กลับออกอาวุธได้รวดเร็วแม่นยำและสามารถกระแทกหมัดใส่หน้าคู่ต่อสู้อย่าง แดเนียล ล้มลงจนเสียนับไปในยกแรก ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่คาดคิดว่าสิ่งที่เขาฝึกปรือมานั้นไช้ได้ผลชะงัดขนาดนี้
“จังหวะนั้น เป็นตอนที่ผมปล่อยหมัดซ้ายตรงไปพอดีครับ ซึ่งผมยังรู้สึกงงอยู่เลยว่าเขาลงไปได้ยังไง มันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมสามารถชกจนคู่ต่อสู้ลงไปนับได้ ก็รู้สึกดีใจที่ทำได้ตามที่ซ้อมมาครับ”
“แต่ผมคิดว่าผมยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงอีกในเรื่องการออกอาวุธให้ต่อเนื่องมากขึ้นกว่านี้ รวมทั้งเรื่องพละกำลังด้วย แต่โดยรวมแล้ว ผมพอใจกับผลงานครั้งนี้มากครับ”
ยอดมวย วัย 25 ปี ยอมรับว่าชัยชนะในครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกมั่นใจในการชกคิกบ็อกซิ่งมากกว่าเดิม เพราะเป็นชัยชนะครั้งที่สองในกติกาใหม่ที่เขาเพิ่งจะเริ่มมาไม่นาน และหากเขายังคงสามารถรักษาฟอร์มแบบนี้ไปได้อย่างต่อเนื่อง การกลับขึ้นมาเป็นจ่าฝูงของแรงกิง ONE คิกบ็อกซิ่ง ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
ก่อนหน้านี้ ยอดมวย เคยรั้งตำแหน่งอันดับ 1 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต และอันดับ 2 ของแรงกิง ONE คิกบ็อกซิ่งรุ่นเดียวกัน เขาจึงต้องการคืนสู่ฟอร์มแกร่งในฐานะกีฬาชั้นหัวกะทิอีกครั้ง โดยมุ่งเป้าไปที่คิกบ็อกซิ่งเป็นหลัก เพราะในสายมวยไทย มี รถถัง เพื่อนร่วมค่ายครองแชมป์อยู่และคงไม่มีโอกาสได้ท้าชิงกันอยู่แล้ว
ทั้งนี้ พันธ์พยัคฆ์ เชื่อว่าผลงานที่เขาตั้งใจทำในไฟต์ที่ผ่านมาคงเข้าตากรรมการและทำให้แฟน ๆ ที่ติดตาม วัน แชมเปียนชิพ ประทับใจได้บ้างไม่มากก็น้อย
“ผมก็รู้สึกดีใจที่ทำผลงานได้ดี แม้ครั้งนี้ผมจะมาเป็นแค่มวยแทน และก็ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจจากทุกคนทั้งที่ค่าย (จิตรเมืองนนท์) และทางบ้านที่ส่งแรงใจให้ผมตลอดมาครับ”
อ่านเพิ่มเติม: