เทพคิกบ็อกซิ่ง “ชิงกิซ” แกร่งจริง ครอง “นักชกยอดเยี่ยม ประจำปี 2566”
“ชิงกิซ” สร้างผลงานสุดประทับใจในการปราบตัวพ่อคิกบ็อกซิ่ง “ซุปเปอร์บอน – มารัต” ขึ้นมายืนเป็นเบอร์หนึ่งของโลกและถูกยกให้เป็น “นักชกยอดเยี่ยม ประจำปี 2566” อย่างสมศักดิ์ศรี
“Chinga” ชิงกิซ อัลลาซอฟ ยอดฝีมือจากเบลารุส วัย 30 ปี ทำผลงานสุดพีคในรอบปีนี้ แม้จะเป็นการขึ้นสังเวียนเพียงแค่ 2 ไฟต์ แต่การแข่งขันทั้งหมดเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ สร้างความประทับใจระดับสูงให้กับผู้ชมทั่วโลก ก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145 – 155 ป.) ด้วยผลงานระดับมาสเตอร์พีซจนได้รับการยกย่องให้เป็น “นักชกยอดเยี่ยม ประจำปี 2566” อย่างสง่างาม
ย้อนกลับไปเมื่อต้นปี “ชิงกิซ” พกดีกรีแชมป์ ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต และผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งของแรงกิงรุ่นนี้ ประเดิมไฟต์แรกของปี 2566 ในศึก ONE Fight Night 6: ซุปเปอร์บอน vs ชิงกิซ เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ณ อิมแพ็ค อารีนา เมืองทองธานี ประจันหน้ากับ “ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” เจ้าของแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต ในขณะนั้น ท่ามกลางความกดดันในฐานะผู้มาเยือนที่ได้รับแรงกดดันจากเสียงเชียร์เจ้าถิ่นแทบหูดับ
แต่สุดท้ายเกมนี้จบไวกว่าที่คิด เมื่อ “ชิงกิซ” ปล่อยหมัดขวาเต็มแรงและแม่นยำเข้าที่ใบหน้า ส่ง “ซุปเปอร์บอน” ล้มกองคาพื้นเวที ผู้ชี้ขาดจึงยุติการแข่งขันในนาทีที่ 1:03 ของยกสอง ส่งผลให้ “ชิงกิซ” ก้าวขึ้นนั่งบัลลังก์คิกบ็อกซิ่งรุ่นนี้แทนทันที แถมฟอร์มยังเข้าตาบิ๊กบอส “ชาตรี ศิษย์ยอดธง” รับโบนัส 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.7 ล้านบาท) กลับบ้านพร้อมเข็มขัดสีทองไปด้วย
ขณะที่ไฟต์ล่าสุดในศึก ONE Fight Night 13: ชิงกิซ vs มารัต ที่วนกลับมาจัดที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา “ชิงกิซ” ขึ้นป้องกันบัลลังก์ครั้งแรกพบกับผู้ท้าชิงเบอร์สองของแรงกิง “มารัต กริกอเรียน” วัย 32 ปี จากอาร์เมเนีย โดยทั้งคู่เคยเจอกันมาแล้ว 2 ครั้ง ในช่วงปี 2556 ก่อนจะเข้ามาอยู่ใน ONE ครั้งแรกจบที่ “ไม่มีผลการแข่งขัน” ส่วนครั้งที่สอง “ชิงกิซ” เป็นฝ่ายแพ้คะแนน
ผ่านมาหนึ่งทศวรรษ “ชิงกิซ” จัดการถอนแค้น “มารัต” ได้สำเร็จ เมื่ออาศัยความไวออกอาวุธเป็นชุดทั้งหมัด แข้ง เข่า เดินหน้าทำคะแนนจะแจ้งกว่า ครบ 5 ยก ผู้ชี้ขาดบนเวทีชูมือให้ “ชิงกิซ” ชนะคะแนนเอกฉันท์ รั้งเข็มขัดครั้งแรกได้สำเร็จ ทั้งยังสามารถสยบ “มารัต” ที่ได้ชื่อว่าเป็นเก่งกาจที่สุดเมื่อเทียบปอนด์ต่อปอนด์ และขึ้นแท่นเป็นนักชกคิกบ็อกซิ่งที่เก่งที่สุดในโลกอย่างไร้ข้อกังขา
อย่างไรก็ตาม กว่า “ชิงกิซ” จะก้าวมายืนในจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เขาต้องเผชิญกับความผิดหวังตั้งแต่ไฟต์แรกที่เปิดตัวบนสมรภูมิ ONE เมื่อปี 2564 ประเดิมบู๊ในศึก ONE on TNT l พ่ายคะแนนไปแบบไม่เป็นเอกฉันท์ให้กับ “เอ็นริโก เคห์ล” นักสู้จากเยอรมนี แต่นั่นสอนให้เขาไม่คิดยอมแพ้ ต้องมุมานะฝึกฝนให้ตัวเองแข็งแกร่งกว่าเดิม ถือเป็นต้นแบบแห่งความสำเร็จ ที่นักชกรุ่นหลังสามารถยึดเป็นแบบอย่างได้ดี
ส่วนแผนการต่อไป “ชิงกิซ” ยืนยันเสียงแข็งว่าพร้อมเผชิญหน้ากับนักชกที่เก่งที่สุดบนสังเวียนแห่งนี้ทุกคน อาจได้มีรีแมตช์กับ “ซุปเปอร์บอน” ให้หายข้องใจ หรือไม่ก็เปิดทางให้ “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ได้ข้ามสายมาชิงอำนาจในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ซึ่งสุดท้ายแล้วไม่ว่าคู่ต่อกรรายต่อไปของ “ชิงกิซ” จะเป็นใคร แต่รับประกันได้เลยว่าจะได้รับความสนใจอย่างมากแน่นอน
นอกจากนี้ ยังมีนักกีฬาอีก 5 คน ที่ติดอันดับท็อป 5 นักชกยอดเยี่ยมประจำปี 2566 ได้แก่
อันดับ 2 ซุปเปอร์เล็ก เกียรติหมู่ 9 – แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต
อันดับ 3 รีเกียน เออร์เซล (ซูรินาเม) – แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นไลต์เวต & คิกบ็อกซิ่ง รุ่นไลต์เวต
อันดับ 4 โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี (สหราชอาณาจักร) – แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต & คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต
อันดับ 5 ร่วม พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัย – แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นสตรอว์เวต
อันดับ 5 ร่วม เพชรจีจ้า ลูกเจ้าพ่อโรงต้ม – แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต เฉพาะกาล
ติดตามข่าวสารและความคืบหน้าได้ที่นี่และโซเชียลมีเดียของ ONE ทุกช่องทาง ได้แก่ เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand และอินสตาแกรม ONEChampTh