รักนะถึงบอก “ซุปเปอร์บอน” ชี้ชกคิกบ็อกซิ่งต้องศึกษากติกาให้ถ่องแท้
นาทีนี้คงไม่มีใครกล้าเถียงว่า “ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” คือ “เบอร์หนึ่งตัวจริง” ในวงการคิกบ็อกซิ่งระดับโลก การันตีได้จากครองแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต เป็นสมัยที่สองโดยปราบอดีตเบอร์หนึ่ง “มารัต กริกอเรียน” อย่างขาดลอยในศึก ONE X เมื่อวันเสาร์ที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา
ในฐานะที่เป็นผ่านศึกคิกบ็อกซิ่งระดับโลกมาอย่างโชกโชน ซุปเปอร์บอน ตั้งข้อสังเกตว่ายังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในกติกาคิกบ็อกซิ่งอยู่หลายประเด็นทั้งจากตัวนักกีฬาและแฟนมวยชาวไทย
วันนี้ ซุปเปอร์บอน จึงอาสาออกมาชี้แจ้งแถลงไขในฐานะกูรูคิกบ็อกซิ่งที่จะช่วยแฟน ๆ ที่ติดตาม ONE เข้าใจกติกาคิกบ็อกซิ่งอย่างถ่องแท้และชมการแข่งขันครั้งต่อไปอย่างมีอรรถรสมากขึ้น
หลายบางคนอาจเข้าใจว่ากีฬาคิกบ็อกซิ่งไม่ได้ต่างจากมวยไทยมากนัก เพียงแค่ตัดการใช้อาวุธศอกออกไปเท่านั้น
แต่ที่จริง แล้วหากมองลึกลงไปในรายละเอียด จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้คะแนนของกรรมการที่หลายคนยังคงสับสนแม้กระทั่งตัวนักกีฬาที่ลงแข่งขันเอง
“ผมมองว่ายังมีอีกหลายคนรวมทั้งนักกีฬาใน ONE ที่ยังไม่เข้าใจกติกาคิกบ็อกซิ่ง ผมว่าตอนนี้ในประเทศ มีแค่ผม สิทธิชัย และ เพชรทนง เท่านั้นที่เข้าใจกติกาคิกบ็อกซิ่งจริง ๆ”
“ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง กรรมการจะให้คะแนนตามอาวุธที่เข้าเป้า ขอเน้นย้ำว่าต้องเข้าเป้านะครับ อาวุธจะรุนแรงหรือไม่ ไม่สำคัญ ถ้าเข้าเป้าถือว่าเป็นคะแนน”
“ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเตะไปโดนแขน ถือว่าไม่เป็นคะแนน แต่ถ้าโดนขา ต่อให้ไม่ได้รุนแรงก็ได้คะแนน เพราะไม่มีการป้องกัน อย่างการถีบ ทุกครั้งที่ผมถีบคือคะแนน เพราะไม่มีการป้องกัน มันอาจจะดูไม่รุนแรง แต่เมื่อเข้าเป้า คุณได้คะแนน”
“ในทางกลับกัน ถ้าคู่ต่อสู้เขาต่อยคุณเป็นชุดแล้วเข้าเป้าแค่สองหมัด ขณะที่คุณเตะคืนเขาครั้งเดียว คุณเตะแรงมากจนเขากระเด็นไป แต่เตะไปติดแขนเขา คุณก็ไม่ได้คะแนนนะครับ ในกรณีนี้ ฝ่ายตรงข้ามชนะไปเพราะเขาต่อยเข้าเป้า 2 หมัด นี่คือหลักการให้คะแนนของคิกบ็อกซิ่ง”
“สิ่งที่คิกบ็อกซิ่งแตกต่างจากมวยไทยคือต้องออกอาวุธให้มากกว่าคู่ต่อสู้และเข้าเป้าชัดเจนกว่าถึงจะชนะ ส่วนกติกามวยไทยจะดูว่าถ้าออกอาวุธได้รุนแรง ทรงมวยสวยงาม มีความแข็งแกร่งกว่าถึงจะชนะ ระบบการให้คะแนนมันต่างกันครับ”
ยิ่งไปกว่านั้น ซุปเปอร์บอน ยังมองลึกไปถึงต้นตอของปัญหาที่ทำให้นักกีฬามวยไทยที่หันมาชกในกติกาคิกบ็อกซิ่งทำผิดกติกาบ่อย ๆ ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อตัวนักกีฬาเลย โดยเขาแสดงความเป็นห่วงในประเด็นนี้ว่า
“ผมเห็นว่าทุกวันนี้ นักมวยรุ่นน้องยังฝึกซ้อมแบบเดิม ๆ คือซ้อมแบบมวยไทย แต่ไปชกในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ซึ่งทำให้สู้เขาไม่ได้ แล้วก็ไปต่อว่าฝ่ายตรงข้ามว่าโกงหรือเปล่า ซึ่งไม่ใช่นะครับ ประเด็นอยู่ที่คุณไม่เข้าใจกติกาจริง ๆ”
“ผมคิดว่าเราต้องไปแก้ไขตั้งแต่การฝึกซ้อมเลย เพราะที่ผมเห็นนักมวยไทยที่มาชกคิกบ็อกซิ่งทำผิดกติกาบ่อย ๆ เพราะเขาไม่รู้ว่าจะต้องป้องกันตัวเองยังไงเพราะไม่ได้เตรียมตัวมา เรื่องนี้มาแก้บนเวทีไม่ได้ครับ”
“จะเห็นได้ว่าเมื่อถึงเวลาจวนตัว นักกีฬาก็จะติดการกอดและคว้าล็อกคอแบบมวยไทยที่เขาคุ้นเคยเพราะซ้อมมาแบบนั้น ซึ่งมันผิดกติกาคิกบ็อกซิ่งครับ”
“วิธีป้องกันตัวที่ถูกต้องของคิกบ็อกซิ่ง คือ การจับแล้วผลักออก ถ้าได้ดูผมหรือ สิทธิชัย ชก จะเห็นว่าพวกผมจะไม่ใช้การกอด และถ้าจวนตัวจริง ๆ ก็จะป้องกันตัวแล้วใช้ศีรษะแนบกับคู่ต่อสู้ไม่ให้เขาต่อยได้เราได้ จากนั้นค่อยผลักเขาออกไป”
“การล็อกแขนไม่ให้เขาต่อยก็ไม่ผิดกติกานะครับ หรือจะจับแขนเขาไว้นิดหนึ่งและรีบผลักออกก็ได้เหมือนกัน”
นอกจากจะแนะนำเทคนิคดีแบบไม่กั๊กแล้ว ซุปเปอร์บอน ยังทิ้งท้ายกุญแจดอกสำคัญของการประสบความสำเร็จในกติกาคิกบ็อกซิ่งให้แก่รุ่นน้องด้วย
“จริง ๆ ผมก็ไม่ได้ต่างกับนักกีฬามวยไทยคนอื่นที่ไปชกคิกบ็อกซิ่งนะครับ เพียงแต่ผมปรับเปลี่ยนวิธีการซ้อมเพื่อไปชกคิกบ็อกซิ่งโดยเฉพาะเท่านั้น”
“ผมว่าถ้าน้อง ๆ อยากประสบความสำเร็จในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ให้ลองปรับเปลี่ยนการฝึกซ้อมดูครับ ต้องเป็นการฝึกซ้อมสำหรับการชกคิกบ็อกซิ่งจริง ๆ อย่าไปยึดติดกับอะไรแบบเดิม ๆ ที่ทำมาตลอดชีวิตครับ”
อ่านเพิ่มเติม: