“ซุปเปอร์บอน” ประกาศลั่นจะทำให้โลกรู้ว่าเหนือ “เปโตรเซียน” ยังมี “ซุปเปอร์บอน”
“ซุปเปอร์บอน” ยอดนักชกคิกบ็อกซิ่งขวัญใจชาวไทยกำลังจะหวนคืนสังเวียนเพื่อคว้าโอกาสผงาดเหนือบัลลังก์คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต โดยจะเปิดศึกในฝันกับคิกบ็อกเซอร์เบอร์หนึ่งของโลก “The Doctor” จอร์จิโอ เปโตรเซียน ในศึก “ONE: FIRST STRIKE” ที่จะถ่ายทอดสดในวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 2564
ยอดฝีมือคิกบ็อกซิ่งจากพัทลุง วัย 31 ปี เปิดตัวบนสังเวียน ONE อย่างงดงามด้วยการย้ำแค้นเอาชนะคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์เหนือคู่ปรับตลอดกาลอย่าง “สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง” ในการเจอกันในศึกไตรภาคของทั้งคู่ เมื่อ 31 ก.ค.63
นับจากนั้นก็เป็นเวลา 1 ปีเศษ ที่เขายังไม่มีโอกาสโชว์ฝีมือบนเวที ONE เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่ทำให้นักกีฬาจากต่างประเทศส่วนใหญ่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมการแข่งขันได้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ยังไม่รายการชก ซุปเปอร์บอน ก็ไม่ได้ว่างเว้นจากการฝึกซ้อม โดยได้ลี้ภัยโควิดจากกรุงเทพฯ ไปซุ่มฝึกซ้อมที่ค่ายขุนศึกมวยไทยยิม ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งดูเหมือนเจ้าตัวจะชื่นชอบเป็นพิเศษเพราะได้ฝึกซ้อมท่ามกลางธรรมชาติ โดยเผยว่าเป็นการชาร์จพลังทั้งกายใจได้เป็นอย่างดี
วันนี้ ซุปเปอร์บอน รู้สึกตื่นเต้นดีใจที่ได้คืนสังเวียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะได้ประจันหน้ากับแชมป์ ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต และมือวางอันดับหนึ่งของแรงกิงรุ่นนี้อย่าง “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเฝ้ารอคอยมานาน และจะเป็นบันไดขั้นสุดท้ายก่อนขึ้นนั่งบัลลังก์ราชันย์ ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต อย่างที่ตั้งใจไว้ซะที
ซุปเปอร์บอน เตรียมตัวอย่างเข้มข้นเพื่อการนี้ โดยมี “เทรนเนอร์เก” สุทัศน์ ม่วงมัน เทรนเนอร์คู่ใจคนเดิมที่คอยควบคุมการฝึกซ้อมอย่างใกล้ชิด เสริมด้วย 2 อดีตแชมป์มวยไทย “สราวุธ ลูกบ้านใหญ่” และ “เพชรเอก ส.สุวรรณภักดี” ที่เข้ามาช่วยทวนเชิง
นอกจากนี้ ซุปเปอร์บอน ยังศึกษาคู่ต่อสู้ตัวฉกาจมาอย่างละเอียด โดยยอมรับว่า คิกบ็อกเซอร์ชาวอาร์เมเนียน-อิตาลี วัย 35 ปี เป็นนักชกที่ฝีมือครบเครื่อง แต่ก็ยังมองว่าไม่ได้เหนือชั้นไปกว่าเขาเท่าไหร่นัก แถมยังมีจุดอ่อนที่สามารถเล่นงานให้อยู่หมัดได้อีกด้วย
“ผมศึกษาหลาย ๆ ไฟต์ของ เปโตรเซียน ก่อนหน้านี้ ผมเห็นว่าจุดแข็งของเขาคือหมัดหนัก ออกอาวุธได้รวดเร็ว จุดที่อันตรายที่สุดเห็นจะเป็นเทคนิคการออกหมัดและการเตะที่ดี แม่นยำและหนักหน่วง ร่างกายก็ดีและแข็งแกร่งมาก แต่ผมก็จะพยายามชิงจังหวะออกอาวุธก่อนเพื่อแก้เกม”
“ส่วนจุดอ่อนก็มีครับ เห็นชัดเจนจากไฟต์ที่เขาเคยเจอกับ เพชรมรกต ผมดูแล้วว่าเขาไม่สู้เข่า เพราะฉะนั้น ผมก็จะอาศัยพื้นฐานการใช้อาวุธมวยไทยมาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ในไฟต์นี้ครับ”
หากกล่าวถึงทิศทางของรูปเกมในไฟต์นี้ ซุปเปอร์บอน มองว่าไฟต์นี้จะเป็นการเชือดเฉือนและชิงไหวชิงพริบกันอย่างน่าตื่นเต้น และมีแนวโน้มว่าจะจบลงด้วยการใช้คะแนนการตัดสินเป็นตั้วชี้ขาดมากกว่าการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะถูกน็อกต์
แม้จะไม่หวังถึงขั้นน็อก แต่ ซุเปอร์บอน ก็ตั้งใจจะชนะแบบขาดลอยโดยไม่มีข้อกังขา เพื่อพิสูจน์ว่าเขาเหนือกว่าผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเบอร์หนึ่งของโลกและสมควรเป็นผู้ครองบัลลังก์รุ่นนี้ที่สุด
“มวยระดับนี้ ผมว่าชนะน็อกคงยาก เพราะต่างฝ่ายต่างป้องกันจุดอ่อนของตนไว้แล้ว ผมว่ารูปเกมจะค่อย ๆ เบียดกันไปเองในแต่ละยก และคะแนนจะเป็นตัวชี้ขาด”
“แต่สิ่งหนึ่งผมตั้งใจจะทำให้ได้ คือชนะคะแนนแบบใสสะอาดและขาดลอย เพราะผมได้เรียนรู้จากไฟต์ที่ เพชรมรกต เจอกับ เปโตรเซียน มันทำให้ผมรู้ว่า ถ้าจะชนะคะแนนต้องชนะให้ขาด อย่าให้มีประเด็นโต้แย้งได้ในภายหลัง”
“ผมจะพยายามเอาชนะให้ได้เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า เปโตรเซียน ไม่ใช่นักชกคิกบ็อกซิ่งที่เก่งที่สุดเมื่อต้องมาเจอผม”
อ่านเพิ่มเติม: