ชีวิตสุดอาภัพของ 3 นักสู้ไทยที่ถูกรังแกเมื่อวัยเด็ก

Stamp Fairtex DUX 2535

เชื่อว่าอาจมีหลายคนที่ช่วงวัยเด็กเคยมีประสบการณ์ถูกรังแกจากเพื่อนหรือรุ่นพี่ในโรงเรียน หรือเด็กที่อาศัยบ้านใกล้เรือนเคียงกัน เพียงเพราะความสนุกสนาน รู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือการอบรมเลี้ยงดูในทางที่ไม่ถูกไม่ควรก็ตาม

แม้แต่นักสู้ของ วัน แชมเปียนชิพ ทั้ง 3 คนนี้ ที่เก่งถึงระดับเป็นตัวแทนประเทศไปแข่งขันในเวทีระดับโลก สมัยละอ่อนพวกเขาก็เคยตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ และนั่นกลายเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาฝึกศิลปะการต่อสู้ ก่อนผันตัวเองมาเป็นนักกีฬาเต็มตัวอย่างทุกวันนี้

ริกะ อิชิเกะ
นักสู้สาวลูกครึ่งเลือดบูชิโด

IMGL7449.jpg

เห็นน่ารักแบบนี้ ใครเลยจะคิดว่าชีวิตในวัยเด็กของเธอนั้นโดนกลั่นแกล้งเป็นประจำ สำหรับ “Tiny Doll” ริกะ อิชิเกะ  ที่ความแตกต่างทางสายเลือด กับการเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น หน้าตาคิกขุ ทำให้เธอกลายเป็นจุดเด่น เป็นตัวแทนของนักเรียนในการทำกิจกรรมต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง กระทั่งตกเป็นเป้าหมายของรุ่นพี่ที่ไม่พอใจในความโดดเด่นเป็นพิเศษ ถึงขั้นลงไม้ลงมือกลั่นแกล้งเธอในรั้วโรงเรียน

“ช่วงวัยเด็กเป็นช่วงเวลาที่ ริกะ โดนกลั่นแกล้งบ่อยที่สุดแล้ว เพราะด้วยความที่เราเป็นลูกครึ่ง รุ่นพี่ก็จะชอบล้อเลียนชื่อเราบ้าง แรกๆ แค่พูดหยอกเรา ซึ่งมันก็ยังพอโอเค แต่หลังๆ เริ่มมีการถึงเนื้อถึงตัว หนักสุดจำได้ว่าเคยโดนผลักจากด้านหลัง ก่อนจะดึงผม”

rika young.png

เมื่อบ่อยครั้งเข้า ริกะ ก็เริ่มทนไม่ไหว จึงตัดสินใจฝึกฝนและเรียนรู้วิชาการต่อสู้ตั้งแต่วัย 9 ขวบ ทั้งเทควันโด, ไอคิโด และ คาราเต้

“แรกๆ ก็เรียนเพื่อหวังจะใช้ป้องกันตัวเท่านั้น แต่พอวันเวลาผ่านไป ริกะ เริ่มหลงใหลในศิลปะการต่อสู้ จึงหมั่นฝึกซ้อมและพัฒนาตนเอง ซึ่งผลพลอยได้คือมันช่วยยกระดับจิตใจของเรา ทำให้เรามีความอดทนอดกลั้นมากขึ้น และแทนที่เราจะใช้วิชาการต่อสู้ไปทำให้คนอื่นเจ็บ เราเลือกที่จะหลบหลีก และนำวิชาที่เรามีไปใช้บนสังเวียนแข่งขัน ซึ่งมีเกียรติและศักดิ์ศรีดีกว่าค่ะ”

ปัจจุบัน ริกะ เป็นนักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รุ่นอะตอมเวต โดยสร้างผลงานยอดเยี่ยมบนสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ หลายครั้ง ทั้งยังปลุกกระแสความน่าสนใจให้กีฬานี้ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้นอีกด้วย

แสตมป์ แฟร์เท็กซ์
ผู้สร้างประวัติศาสตร์มวยหญิง

Stamp Fairtex DUX 3262.jpg

วงการมวยหญิงที่ซบเซาในประเทศไทย กลายเป็นที่จับตามอง เมื่อ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง และตามด้วยมวยไทย สองประเภทกีฬาในเวลาใกล้เคียงกัน และปัจจุบันเธอยังคงครองเข็มขัดแชมป์โลกทั้งสองเส้นนี้อยู่  ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยมีนักมวยหญิงคนไหนในประวัติศาสตร์สร้างสถิตินี้มาก่อน

แต่กว่าที่เธอจะเดินทางมาไกลถึงปลายทางของคำว่าแชมป์โลก เธอต้องเผชิญหน้ากับศัตรูในวัยเด็กมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่อยู่ชั้นอนุบาล เพราะด้วยความที่เธอตัวเล็กกว่าคนอื่นๆ จึงทำให้เธอตกเป็นเป้าหมายของการถูกรังแก

stamp young.png

“ช่วงอนุบาลประมาณ 4-5 ขวบ แสตมป์ จะโดนแกล้งที่โรงเรียนบ่อยมาก เพราะด้วยความที่เราเป็นคนตัวเล็ก เพื่อนๆ จึงชอบมาแกล้ง ทั้งหยิก ทั้งผลัก เป็นประจำ เราทำอะไรเขาไม่ได้เลย เพราะเขาตัวใหญ่กว่าเราเยอะ นานๆ เข้า เราก็เริ่มรู้สึกทนไม่ไหว ประกอบกับที่บ้านพ่อมีค่ายมวย แสตมป์ จึงตัดสินใจฝึกมวยตั้งแต่ตอนนั้น”

“ทีแรกทางบ้านก็ไม่เห็นด้วย เพราะเห็นเป็นผู้หญิง เขากลัวเราเจ็บ แต่พอเขาเห็นความมุ่งมั่นในการซ้อม และตัวเราก็อยากต่อย พ่อแม่ก็เลยให้กำลังใจและสนับสนุนเราค่ะ

ปัจจุบัน แสตมป์ ครองแชมป์โลก ONE สองประเภทกีฬา และกำลังไล่ล่าเข็มขัดแชมป์โลกเส้นที่สามในกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) โดยเธอมีโปรแกรมขึ้นป้องกันแชมป์โลกในกติกาคิกบ็อกซิ่งกับอดีตคู่ปรับเก่า “เจเน็ต ทอดด์” ในศึก ONE: KING OF THE JUNGLE วันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ที่ประเทศสิงคโปร์

พงษ์ศิริ มิตรสาธิต
หนุ่มกะเหรี่ยงตัวเล็ก

Pongsiri Mitsatit at ONE MASTERS OF FATE DC IMGL9758.jpg

หนุ่มกะเหรี่ยงจากอมก๋อย เจ้าของฉายา “นักฆ่าหน้าเปื้อนยิ้ม” พงษ์ศิริ มิตรสาธิต ที่ช่วงชีวิตในวัยเด็กไม่ค่อยมีเรื่องให้น่าจดจำสักเท่าไหร่ เขาไม่ได้เรียนหนังสือเป็นเรื่องเป็นราว เพราะฐานะทางบ้านยากจน ต้องทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนจนจบ กศน.ชั้น ม.6 ทำให้เขาไม่ได้ใช้ชีวิตแบบเด็กผู้ชายทั่วไป แต่นั่นก็ยังทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มเด็กอันธพาลที่จ้องจะรังแกเพราะตัวเขาเล็ก เหมือนกับชื่อเล่นว่า “เจ้าเปี๊ยก”

“ตอนเด็กๆ ผมเป็นคนตัวเล็ก เล็กสุดในชั้นเรียนเลยก็ว่าได้ ทำให้ผมถูกรังแกอยู่บ่อยๆ บางคนก็เดินมาผลัก บางคนก็เดินมาตบหัวผม ทุบที่ไหล่ผมก็มี ผมรู้สึกโกรธพวกเขานะ แต่จะเอาแรงที่ไหนไปต่อสู้กับเขา”

pongsiri young.png

เปี๊ยก เริ่มฝึกมวยไทยเมื่อวัย 13 ปี โดยทีแรกก็หวังจะใช้ป้องกันตัวจากความรุนแรงที่ทวีขึ้นเรื่อยๆ แต่ภายหลังกีฬามวยไทยกลายเป็นช่องทางสร้างรายได้ช่วยเหลือครอบครัว แต่พ่อแม่กลับไม่สนับสนุนให้เขาชกมวย จนเขาต้องแอบไปซ้อมและขึ้นชกจนกระทั่งเริ่มมีชื่อเสียง เขาจึงตัดสินใจที่บอกความลับนี้กับพ่อแม่เพื่อเดินตามความฝันอย่างที่เขาต้องการ

ปัจจุบัน พงษ์ศิริ ผันตัวมาเป็นนักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) โดยใช้พื้นฐานมวยไทยที่สั่งสมมาเกือบ 90 ไฟต์ พัฒนาร่วมกับการต่อสู้แขนงอื่นๆ จนทำให้เขาก้าวสู่เวทีระดับโลก พร้อมเก็บชัยชนะในกีฬาประเภทนี้ได้ถึง 10 ครั้งจากการแข่งขันทั้งหมด 14 ไฟต์

โดยเขากำลังจะมีไฟต์ที่ 15 ในวันที่ 31 มกราคมนี้ ในศึก ONE: FIRE & FURY ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์

อ่านเพิ่มเติม:

ONE: FIRE & FURY | มะนิลา ฟิลิปปินส์ | 31 มกราคม 2563 | 17.30 น. ตามเวลาไทย | รับชมทาง ONE Super APP เวลา 16.30 น. | ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 22.40 น.

ดูเพิ่มเติมในหมวด ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน

2120
OL 88 Faceoffs (21)
241207 BKK OFN26 TH_Athlete_MU 1920x1278
11 Anatoly Malykhin VS Oumar Kane one 169 (27)
OL87 Kongchai vs Chokpreecha (11)
73127
73127
11 Anatoly Malykhin VS Oumar Kane one 169 (33)
Fabricio Andrade Kwon Won Il ONE170 16 9
Cover_OL87_Boutcard_4Box
Rodtang vs Jacob ONE169
OL86_12_Kompet _vs_Chartpayak (37)