ฝึก “มวยไทย” ในดินแดนต้นกำเนิดอย่างไรให้ได้ผลมากที่สุด
การฝึกมวยไทยในบ้านเราอาจเป็นประสบการณ์ที่สามารถเปลี่ยนชีวิตได้ เพราะภายใต้อากาศที่ร้อนอบอ้าว แต่มีความชื้น การซ้อม และอาหาร ล้วนมีความแตกต่าง แม้แต่วิธีการสอนก็ยังไม่เหมือนกัน
บทความนี้จะให้คุณได้รับความกระจ่างเกี่ยวกับแง่มุมของการฝึกมวยไทยที่อาจถูกมองข้าม แม้ดูเล็กน้อย แต่ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้รู้เคล็ดลับที่นำมาปรับใช้ได้
# เตรียมพร้อมเพื่อเปิดประสบการณ์
ก่อนที่จะเริ่มต้น คุณต้องมั่นใจว่าคุณพร้อมเต็มที่ ไม่เช่นนั้นการฝึกมวยไทยของคุณอาจล้มไม่เป็นท่า
เตรียมร่างกายให้พร้อม
หากคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จในการฝึกมวยไทยอย่างแท้จริง คุณต้องเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมและออกกำลังกายก่อนเสมอ
คุณจะได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการวิ่งบนถนน นักมวยไทยจะวิ่งวันละสองรอบ ระยะทางมากกว่า 12 กิโลเมตร โดยปกติการวิ่งในตอนเช้าจะใช้เวลานานกว่าการวิ่งในช่วงบ่าย ดังนั้น คุณต้องเตรียมร่างกายให้ดีก่อนเริ่มวิ่ง
ปรับตัวเพื่อรับการฝึกซ้อม
นักมวยไทยมักกระโดดเชือกในช่วงบ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนฝนตก อาจใช้เวลานานถึง 30 นาที หากคุณไม่เคยกระโดดเชือกด้วยเท้าเปล่านานขนาดนั้น เท้าคุณอาจเป็นแผลได้
ฝึกกระโดดเชือกเป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที เพื่อทำให้ผิวหนังบริเวณฝ่าเท้าของคุณด้านขึ้น แต่ถ้าหากเกิดแผลแล้ว ให้ปิดด้วยผ้าพันแผล ถ้าทางค่ายอนุญาตให้ใส่รองเท้าซ้อมกระโดดเชือกได้ ก็ใส่มันดีกว่า
นอกจากนี้คุณจะต้องซิตอัพเยอะมาก ผิวหนังที่เต็มไปด้วยเหงื่อ จะไปสัมผัสกับพื้นผิวอันขรุขระและหยางของพื้นผ้าใบ หรือเสื่อออกกำลังกาย ซึ่งจะสามารถทำให้ผิวบริเวณหลังด้านล่างหลุดลอกออกมา ถ้าผิวหนังแห้ง ให้ใช้วาสลีนทาเพื่อลดแรงเสียดทาน
ผิวไหม้จากอากาศร้อนและแผลพุพองอาจะดูไม่ใช่ปัญหาหลัก แต่ถ้าคุณไม่รักษาหรือดูแลตัวเอง มันอาจสร้างปัญหาให้กับคุณตอนซ้อมได้ และยังมีสิทธิ์ติดเชื้ออีกด้วย
# เลือกค่ายมวยที่เหมาะสม
ขณะที่คุณเตรียมตัวและปรับสภาพร่างกาย ให้เริ่มหาค่ายมวยที่เหมาะกับความต้องการของตัวเอง ขั้นตอนนี้จะทำให้คุณได้รู้จักค่ายมวยไทยที่ดีที่สุดในประเทศไทยหลายๆ ค่าย
ไม่ว่าคุณมีจุดประสงค์ในการเรียนมวยไทยเพื่ออะไรก็ตาม คุณต้องหาค่ายที่สามารถช่วยคุณในเรื่องนั้นได้
นี่คือเคล็ดลับที่ทำให้สามารถจำกัดตัวเลือกของคุณให้แคบลง
หาทักษะมวยไทยที่คุณชื่นชอบ
ค่ายมวยทุกค่ายในประเทศไทยล้วนมีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันไป บางค่ายมีชื่อเสียงในการปล้ำ บางค่ายเก่งเรื่องการเตะ และบางค่ายขึ้นชื่อในการฝึกนักกีฬาอย่างรอบด้าน
มันไม่จำเป็นว่าต้องเป็นค่ายมวยระดับท็อปของเมืองไทย แต่หนึ่งวิธีที่ใช้ในการเลือกค่าย ให้ลองดูว่าแชมป์โลกมวยไทยที่คุณชื่นชอบสังกัดอยู่ค่ายไหน
ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการออกอาวุธหนักๆ เหมือน “รถถัง จิตรเมืองนนท์” คุณต้องไปฝึกที่ค่ายจิตรเมืองนนท์ หากต้องการปล้ำเก่งๆ เหมือน “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” ก็ต้องไปฝึกที่ค่ายเพชรยินดีอะคาเดมี
เปรียบเทียบจุดเด่นของแต่ละค่าย และตัดสินใจจากสิ่งที่คุณอยากซ้อมมากที่สุด และดูว่าค่ายนั้นตอบโจทย์คุณได้หรือไม่
เตรียมสิ่งของที่จำเป็น
การฝึกมวยไทยคุณต้องมีของใช้ที่จำเป็น เช่น นวม กางเกงมวย ฟันยาง และสนับแข้ง
บ่อยครั้งที่ค่ายจะมีสิ่งของเหล่านี้ให้คุณใช้ แต่คงไม่ดีแน่หากต้องใช้แก้วน้ำและฟันยางร่วมกับคนอื่น
คุณสามารถหาซื้ออุปกรณ์เหล่านี้ได้ในค่าย หรือร้านจำหน่ายอุปกรณ์กีฬา หรือแม้แต่ที่สนามมวยเวทีลุมพินีและราชดำเนิน
# ซ้อมอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด
อย่าหักโหมเกินไป
คุณอาจรู้สึกว่าซ้อมได้เต็ม 100 ในวันแรกของการฝึกฝน แต่ในวันที่สองและสาม ความเมื่อยล้าและความเจ็บปวดจะมาเยือน คุณก็จะเริ่มเอื่อยเฉื่อยหรือขี้เกียจ
แต่หากคุณเป็นกรณีที่ตรงกันข้าม ก็อย่าหักโหม ขอให้ฝึกอย่างค่อยเป็นค่อยไป ถ้าคุณฝืนตัวเอง คุณอาจได้รับบาดเจ็บและไม่ได้ซ้อมอย่างต่อเนื่อง
ดื่มน้ำให้เพียงพอ
หนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อร่างกาย คือการดื่มน้ำอย่างเพียงพอ อย่ารอจนกว่าคุณรู้สึกว่ากระหายน้ำ หรือรอจนซ้อมเสร็จ ให้ดื่มน้ำตลอดทั้งวัน รวมถึงตอนกลางคืนด้วย
นำเครื่องดื่มเกลือแร่ติดตัวไปที่ค่ายด้วย มันช่วยไม่ให้กล้ามเนื้อขาดน้ำ และเป็นผลดีกับการฝึกซ้อม
บทสรุป
ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ หรือนักกีฬาอาชีพที่ต้องการฝึกฝนมวยไทย จงตัดสินใจเลือกอย่างฉลาด และคุณจะเดินออกมาด้วยประสบการณ์และมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับมวยไทย