“ริกะ-ครูตอง” คู่รักนักสู้หนุ่มไทย-สาวลูกครึ่ง คู่บุกเบิกของวงการ MMA ไทย
ต้อนรับเทศกาลวาเลนไทน์ ด้วยเรื่องราวของคู่รักแห่งวงการศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ซึ่งทั้งสองต่างเป็นนักกีฬารุ่นบุกเบิกของวงการ และปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับแถวหน้าของประเทศ
“ริกะ อิชิเกะ” และ “ครูตอง” ชนนภัทร วิรัชชัย เส้นทางความรักของทั้งคู่จะว่าไปก็เหมือนนวนิยาย กว่าพระเอกกับนางเอกจะมาลงเอยกันได้ ก็มีฉากพลัดพรากให้คนดูต้องแอบลุ้น
ย้อนไปวันแรกที่โชคชะตาขีดเส้นทางทั้งคู่ให้มาเจอกันเมื่อราว 7-8 ปีก่อน “ครูตอง” ได้เห็น ริกะ เป็นพริตตี้ในงานแสดงศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่น ที่สนามไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ขณะที่ฝ่ายชายเริ่มชอบฝ่ายหญิงตั้งแต่ตอนนั้น แต่ฝ่ายหญิงกลับไม่สนใจ
หลังจากวันนั้นก็ต่างแยกย้ายกันไป ครูตอง ไล่ตามหา ริกะ ทางเฟซบุ๊กจนเจอ แต่เมื่อแอดเพื่อนไปแล้วไม่ได้คุยกัน เธอก็ลบเขาออกจากการเป็นเพื่อน แต่ก็ยังมีการคอมเมนต์ผ่านทางกลุ่มศิลปะการต่อสู้อยู่บ้าง เป็นอย่างนี้อยู่ราวสองปี
จู่ๆ พรหมลิขิตก็บันดาลให้ ริกะ ซึ่งขณะนั้นทำงานเป็นพนักงานออฟฟิส เกิดสนใจอยากเรียนศาสตร์การต่อสู้แบบผสมผสาน โดยต่อยอดจากสิ่งที่เคยเรียนมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ ทั้ง มวยไทย คาราเต้ ไอกิโด ยูโด จึงตัดสินใจเข้าไปสมัครเรียนกับ ครูตอง ซึ่งเปิดชมรมสอนอยู่ที่จุฬาฯ
“ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะได้มาเจอกันอีก ตั้งแต่วันนั้นที่สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง ที่ยูโดจุฬาฯ เป็นการโคจรมาเจอกันจริงๆ”
ทีแรก ครูตอง ปฏิเสธที่จะรับ ริกะ เป็นลูกศิษย์ ด้วยเหตุผลที่ไม่แน่ใจว่าเธอจะจริงจังกับกีฬาประเภทนี้ เพราะดูท่าทีแล้วไม่น่าจะเหมาะ แต่เมื่อเขาให้โอกาส เธอจึงได้พิสูจน์ให้เห็นว่าภายนอกที่ดูตัวเล็กน่าทะนุถนอม แต่เธอไม่กลัวเจ็บและไม่ห่วงสวยเลยสักนิดเดียว
หลังจากได้ทำความรู้จัก ใกล้ชิดสนิทสนม จนพัฒนากลายเป็นความรัก ทั้งคู่จึงเปิดตัวคบหากันอย่างจริงจังเป็นเวลากว่า 7 ปี ต้นรักของทั้งคู่เติบโตขึ้นอย่างสวยงาม
“ริกะ เข้ามาในชีวิตผม และเธอก็ไม่เหมือนแฟนคนอื่นๆ ที่ผมเคยคบมา เธอไม่ห่วงสวย ชอบการต่อสู้เหมือนกัน มีเวลาให้กัน เธออุทิศตนให้กับศิลปะการต่อสู้ ไม่ใช่แค่เพื่อความสนุก แต่เอาจริงเอาจังมาก”
ในขณะที่ ริกะ พูดถึงฝ่ายชายว่า
“ริกะ คิดว่าเขาเป็นคนจริงจัง ตั้งใจทำอะไรแล้วก็จะทุ่มเทสุดๆ และก็มุ่งมั่นมาก แถมเป็นคนตลกด้วย แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ เขาไม่ใช่คนเจ้าชู้เลย นี่คือข้อดีที่ ริกะ ประทับใจเขามากๆ”
“สำหรับ 7 ปี มุมมองความรักของเราเปลี่ยนแปลงตลอดค่ะ เวลาเราคบกันใหม่ๆ ก็อีกแบบหนึ่ง พอคบกันมาถึงวันนี้ มันทำให้เราเข้าใจกันมากขึ้น ทำให้เราไม่ได้มองแค่จุดไม่ดีหรือข้อเสีย แต่ทำให้เราค่อยๆ ปรับตัวและยอมรับในทุกๆ เรื่องของกันและกัน ถือว่ายาวนานเหมือนกันนะสำหรับการคบกันจนถึงวันนี้”
“การที่เรามีความรักในศิลปะการต่อสู้แบบเดียวกัน ก็ทำให้เราเข้าใจว่ามันมีความยากลำบากยังไง ต้องซ้อมหนักขนาดไหน เพราะเราทำอาชีพเดียวกัน เวลาเหนื่อย เวลาเจ็บ เราก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายรู้สึกยังไง ทำให้เราเป็นกำลังใจซึ่งกันและกันตลอด เราพยายามทำในจุดที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และเติมเต็มในเรื่องของศิลปะการต่อสู้ให้กันและกันด้วยค่ะ”
และนี่คือเรื่องราวความรักของทั้งคู่ “ริกะ-ครูตอง” ที่หลายคนอาจไม่เคยเห็นมุมมองนอกสังเวียนของพวกเรา แม้จะเป็นนักสู้แต่เขาก็มีชีวิตจิตใจเหมือนอย่างเราๆ และเรื่องความรักก็เป็นสิ่งที่จรรโลงโลกใบนี้ให้น่าอยู่ได้เสมอ
อ่านเพิ่มเติม: “ริกะ อิชิเกะ” วอน “เลิกบูลลี่” หากใครโดนแล้วต้องปล่อยวางและมีสติ