เผยโฉม “ครูประถม” เห็นตั้งแต่ รถถัง ยังรับจ้างล้างจาน จนเป็นนักชกเงินล้าน
“พ่อแม่หวังพึ่งพาเจ้า ครูเล่าหวังเจ้าสร้างชื่อ ชาติหวังกำลังฝีมือ เจ้าคือความหวังของทั้งมวล” ขอเริ่มต้นความพิเศษของ “วันครูแห่งชาติ” 16 มกราคม ด้วยกลอนของ “หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล” ซึ่งถือเป็นบุคลสำคัญด้านการศึกษาของโลกและศิลปินแห่งชาติ
โอกาสที่ “วันครู” เวียนมาบรรจบอีกครั้ง ทำให้บรรดาลูกศิษย์ได้ระลึกถึงความสำคัญของครูบาอาจารย์ซึ่งเป็นแม่พิมพ์ของชาติ ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา อบรมบ่มนิสัยให้เป็นคนดีของสังคม และรอคอยชื่นชมความสำเร็จของลูกศิษย์หลังจากส่งพวกเขาไปถึงฝั่ง ดังที่มีการเปรียบเปรยว่า “ครู” เสมือน “เรือจ้าง” ที่รับผู้โดยสารไปส่งยังจุดหมายปลายทาง
วันนี้จะพาไปรู้จัก “ครู” ท่านหนึ่งซึ่งเคยสอน “รถถัง จิตรเมืองนนท์” แชมป์โลกมวยไทย รุ่นฟลายเวต ของ วัน แชมเปียนชิพ ตั้งแต่สมัยประถมต้น และท่านได้เล่าถึงความทรงจำที่มีต่อแชมป์โลกชาวไทยในวันนั้น กับสิ่งที่เขาเปลี่ยนไปในวันนี้
“ครูโสพิศ แสงเกิด” วัย 48 ปี อดีตครูสอนภาษาไทยสมัย รถถัง ยังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนบ้านลานข่อย ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง
ครูเล่าว่า เธอจำ รถถัง ได้แม่นยำเพราะเขามีจุดสังเกตมากกว่าเด็กคนอื่น ตรงที่ครอบครัวมีฐานะยากจนมาก มีพี่น้องถึง 10 คน อาศัยอยู่ในบ้านที่ทรุดโทรม อยู่กันตามมีตามเกิด
“สมัยก่อนโรงเรียนก็เสมือนศูนย์กลางของชุมชน พ่อ แม่ ครูอาจารย์ คนในหมู่บ้านรู้จักกันหมด พ่อแม่ของรถถังมีลูก 10 คน มาโรงเรียนเหมือนเอาลูกมาฝากเลี้ยง พี่ๆ ของ รถถัง ครูเองก็เคยสอนพวกเขามา”
“สิ่งหนึ่งที่จำได้ดีคือ รถถัง เป็นเด็กไม่ค่อยชอบเรียนหนังสือ แต่เขามีความขยัน มุมานะ ทำงานช่วยเหลือครอบครัวตั้งแต่เด็ก ทั้งรับจ้างล้างจาน เก็บเศษเหล็ก สู้ชีวิตมาตั้งแต่อายุยังน้อย และต่อยมวยหาเงินไปโรงเรียน สามีของครูที่เป็นตำรวจอยู่ในชุมชนก็ยังเคยไปดูเขาต่อยมวยด้วย”
หลายปีผ่านไป รถถัง เติบใหญ่และเข้าไปชกมวยในกรุงเทพฯ ช่วงเวลาที่ห่างหายไปจากชีวิตในโรงเรียน และวนเวียนอยู่ในเวทีมวย รถถัง สั่งสมชื่อเสียง และดังเป็นพลุแตกเมื่อได้ขึ้นชกที่สนามมวยเวทีช่อง 7 สี ซึ่งถ่ายทอดสดผ่านทีวีเข้าถึงชุมชนทุกตรอกซอกซอย ตั้งแต่สมัยที่อินเตอร์เน็ตยังไม่มี
ชื่อของ รถถัง เป็นที่สะดุดหู ครูโสพิศ มาตลอด ประกอบกับได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของครอบครัว หลังจากที่ รถถัง มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ทำให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น บ้านหลังใหม่ที่ รถถัง ปลูกให้พ่อแม่อยู่อาศัย จะว่าไปก็คือบ้านของคนมีอันจะกินในชุมชน
โดยเฉพาะช่วงปีหลังที่ รถถัง ชกในรายการ วัน แชมเปียนชิพ ยิ่งทำให้ครูภาคภูมิใจที่ได้เห็นลูกศิษย์เป็นที่เชิดหน้าชูตาในฐานะนักกีฬาตัวแทนประเทศไทยบนเวทีระดับโลก
แต่นั่นยังไม่สำคัญเท่าที่ รถถัง ไม่เคยลืมถิ่นกำเนิดและบ้านเกิดของตนเอง นำเงินส่วนหนึ่งจากน้ำพักน้ำแรงมาช่วยเหลือชุมชนในโอกาสสำคัญๆ เป็นประจำ
“ถึงเวลานี้ ครูยอมรับว่าปลาบปลื้มใจมากที่ รถถัง ทำสิ่งที่เขารักอย่างจริงจังจนประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียง และมีรายได้เลี้ยงครอบครัว รวมถึงยังแบ่งปันมาสู่ชุมชนบ้านเกิดของตัวเอง และยังเป็นตัวอย่างให้กับเด็กและเยาวชนอีกด้วย”
อ่านเพิ่มเติม: