ซูมชีวิตรัก “พงษ์ศิริ” มวยบู๊สู้เพื่อครอบครัว
“แฝดอโยธยา” พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม มวยบู๊พันธุ์แท้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทุ่มเทเกินร้อยทุกครั้งที่ขึ้นสังเวียนซึ่งทำให้แฟนกีฬาชื่นชอบและเฝ้ารอติดตามผลงานมาตลอด การบู๊เดือดบนสังเวียน ของ พงษ์ศิริ มีความหมายมากกว่าการสู้เพื่อคว้าชัยชนะเพราะเป็นการสู้เพื่อภรรยาและลูกอันเป็นที่รักซึ่งเป็นพลังใจสำคัญของเขาตลอดมา
น้องทราย และ พงษ์ศิริ
วันนี้ พงษ์ศิริ ในวัย 31 ปี เขามีครอบครัวที่สมบูรณ์ ข้างกายมี ภรรยาสาว “น้องทราย” ประพัสราภรณ์ ตรีโภคา อายุ 29 ปี เป็นคู่ทุกข์คู่ยาก พร้อมด้วยพยานรัก “น้องใยไหม” ณัฐธิชา ชุมแสน วัย 10 ปีที่เข้ามาเต็มเต็มคำว่าครอบครัวให้อบอุ่นยิ่งขึ้น
ชีวิตรักของนักมวยจอมบู๊เริ่มต้นขึ้นเมื่อสมัยยังเป็นวัยรุ่นกำลังแตกเนื้อหนุ่ม อายุ 17 ปี เขาเจอ น้องทราย ครั้งแรกในห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางเมือง โดยสายตาไปปะทะเข้ากับความน่ารักสดใสของเธอเข้าอย่างจัง ตามสไตล์มวยบู๊สู้ไม่ถอย เจ้าตัวก็บุกเข้าไปขอเบอร์เธอทันทีชนิดไม่มีปี่มีขลุ่ย จะด้วยพรหมลิขิตหรือเพราะชีวิตลิขิตเองก็ตาม ทั้งคู่ต่างถูกชะตาและดูใจกันราว 4 เดือนก่อนที่จะตกลงคบหาเป็นแฟนกัน
พงษ์ศิริ แต่งงานกับ น้องทราย
แต่ด้วยความที่ทั้งคู่ต่างอายุยังน้อย และชีวิตก็ยังไม่มีหลักประกันอะไรที่มั่นคง พ่อแม่ฝ่ายหญิงจึงดูยังไม่มั่นใจและไม่ชอบใจสักเท่าไหร่ในช่วงแรกที่ทั้งคู่คบหากัน ต่อมา พงษ์ศิริ เริ่มเดินสายต่อยมวยสั่งสมประสบการณ์ พร้อมเก็บชัยชนะและชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อย ๆ บวกกับการวางตัวเป็นคนรักที่ดีต่อกันของทั้งคู่ ทำให้พ่อกับแม่ของฝ่ายหญิงค่อย ๆ เปิดใจยอมรับ พงษ์ศิริ มากขึ้นในที่สุด
ความสัมพันธ์ค่อย ๆ แน่นแฟ้น จนแทนที่สถานะแฟนด้วยภรรยา พงษ์ศิริ ตกลงใจแต่งงานกับ น้องทราย เมื่ออายุ 21 ปี ในวันที่ 7 ตุลาคม 2555 จนวันนี้ทั้งคู่ครองรักกันมาเกือบสิบปีและยังคงเป็นครอบครัวที่อบอุ่นไม่เสื่อมคลาย โดย พงษ์ศิริ มองว่ารากฐานสำคัญที่ทำให้ทั้งคู่มีวันนี้คือความจริงใจ
“น้องทราย ไม่เคยเถียงผมเลยครับ ทุกครั้งที่เรามีปากเสียงกันตามประสาคู่รักทั่วไป เขาจะเป็นฝ่ายยอมถอยให้ผมก่อนเสมอ ผมแต่งงานกับเขา เพราะผมรู้ว่าเขารักผมจากใจจริงครับ”
(จากซ้าย) น้องทราย, เด็กหญิงใยไหม และ พงษ์ศิริ
ในขณะที่ พงษ์ศิริ ต้องฝึกซ้อมมวยที่ค่ายต้นสังกัด ภรรยาซึ่งประกอบอาชีพสาวโรงงานจึงต้องทำหน้าที่ดูแลลูกสาวเป็นหลัก แม้ทั้งสองต้องห่างกันแต่ทั้งคู่กลับรู้สึกว่าหัวใจใกล้กันเพราะต่างคนต่างให้เกียรติและเชื่อใจซึ่งกันและกัน ทำให้สายใยรักของครอบครัวนี้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปอีก
“ผมจะแวะไปหาลูกกับภรรยาในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่หยุดพักจากการซ้อมมวยที่ค่ายสัปดาห์เว้นสัปดาห์ครับ แต่ถ้าเสาร์-อาทิตย์ไหนมีรายการ พอชกเสร็จก็จะรีบกลับไปหาพวกเขาทันที ซึ่งผมจะพักอยู่ที่บ้านยาว ๆ ประมาณหนึ่งสัปดาห์ แล้วค่อยกลับมาเก็บตัวฝึกที่ค่ายอีกครั้งครับ”
“หากมีเวลาว่าง ส่วนใหญ่ผมจะพาพวกเขาไปเที่ยวทะเล น้ำตก พาไปทานกุ้งเผาร้านเด็ดร้านประจำในจังหวัดครับ”
สำหรับ พงษ์ศิริ ครอบครัวคือเหตุผลที่ทำให้เขาสู้แม้จะรู้ว่าต้องผ่านความยากลำบากและต้องเจ็บตัวมากแค่ไหนก็ตาม เพียงได้ยินเสียงจากปลายสายทุกครั้งก่อนขึ้นสังเวียน พงษ์ศิริ ก็พร้อมบู๊แหลกและยอมแลกทุกอย่างแล้ว
“ทุกครั้งที่จะชก ผมก็จะโทรคุยกับลูกกับภรรยาครับ เขาก็จะบอกทุกครั้งว่าให้ชนะกลับมา”
น้องใยไหม ลูกสาวสุดที่รัก
อ่านเพิ่มเติม:
