5 ประโยชน์ของศิลปะการต่อสู้ที่ช่วยพัฒนาชีวิตทำงานให้ดีขึ้น
เราเชื่อว่าหลายคนใช้เวลาในที่ทำงานเกินกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน หรือมากกว่า 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จนคุ้นหน้ากับเพื่อนร่วมงานมากกว่าคนในครอบครัวเสียอีก
ด้วยเหตุผลนี้คุณจึงควรรักษาความสัมพันธ์อันดีกับพวกเขาเอาไว้ เพราะการที่คุณต้องเจอหน้ากันทุกวัน มิตรภาพดีๆ ที่มีต่อกันจะช่วยให้งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี รวมถึงบรรยากาศในการทำงานก็ดีตามไปด้วย
และศิลปะการต่อสู้นี่แหละจะมีส่วนช่วยให้คุณพัฒนาไปสู่การเป็นเพื่อนร่วมที่ดี และการทำงานที่ราบรื่น ซึ่งเราได้รวบรวม 5 คุณประโยชน์จากศิลปะการต่อสู้ที่จะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์และชีวิตในการทำงานของคุณให้ดีขึ้นได้
#1 สุขภาพที่ดีขึ้น
ในตอนแรกคุณอาจจะคิดถึงแค่เรื่องสุขภาพของตัวเอง แต่ประโยชน์ของศิลปะการต่อสู้นั้นมีทุกด้านของชีวิต แล้วมันเกี่ยวกับเรื่องของการทำงานได้อย่างไร?
เรื่องสำคัญประการหนึ่งเลยคือ การทำให้ตัวคุณแอ็กทีฟและฟิตอยู่เสมอจะช่วยให้มีสุขภาพที่ดี ยิ่งคุณต้องอยู่ติดกับโต๊ะทำงานนานๆ การไปออกยืดเส้นสาย ปล่อยหมัดเท้าเข่าศอกที่ยิมหลังเลิกงานจะช่วยให้คุณได้ผ่อนคลายในแบบที่ร่างกายควรจะเป็น
หากคุณไม่มีกิจกรรมออกกำลังกายเสียบ้าง โรคภัยหรือความเจ็บไข้ได้ป่วยบางอย่างอาจจะถามหา จนทำให้มาทำงานไม่ไหว ซึ่งนอกจากจะเกิดผลเสียต่อร่างกายของคุณเองแล้ว ยังอาจส่งกระทบต่องานที่ทำอีกด้วย
#2 คลายความเครียด
ฮอร์โมนเอ็นโดรฟินที่หลั่งออกมาในระหว่างและหลังการเล่นกีฬา จะช่วยลดความเครียด และสร้างสปิริตให้ตัวของคุณได้ มันจะช่วยกระตุ้นการปล่อยสารเคมีชนิดหนึ่งในประสาทที่ช่วยให้คุณรู้สึกสบาย ลดความเจ็บปวด และมีความรู้สึกดีกับตัวเอง
นอกจากนั้น มันยังช่วยบรรเทาความหงุดหงิด ความเฉื่อย และความวิตกกังวล ทำให้คุณมีโฟกัส สมองที่ปลอดโปร่ง และจิตใจที่มีความสุขมากขึ้น ซึ่งเมื่อคุณมีอารมณ์ที่ดีก็ช่วยให้คุณเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานที่อยู่รอบข้าง เพราะเขาได้รับพลังบวกนั้นจากคุณด้วยเช่นกัน
#3 เสริมสร้างความรับผิดชอบ
เมื่อต้องทำงานเป็นทีม การที่จะปัดความรับผิดชอบสำหรับบางคนนั้นทำได้ง่าย เพราะคิดว่าถึงอย่างไรก็ต้องมีคนรับผิดชอบงานจนสำเร็จอยู่แล้ว แต่นั่นมันส่งผลต่อบุคคลดังกล่าวในทางลบ และส่งผลเสียกับเพื่อนร่วมงาน รวมถึงมิตรภาพภายในทีมอีกด้วย
การฝึกศิลปะการต่อสู้จะช่วยเพิ่มความรับผิดชอบส่วนบุคคลเพื่อให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้นได้อย่างแท้จริง เพราะไม่มีใครที่จะช่วยคุณในการฝึกซ้อมหรือเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ ได้ หากคุณไม่ลงมือทำเอง
แต่เมื่อคุณรับผิดชอบตัวเองจนเป็นความเคยชิน ไม่ว่าจะทำงานเดี่ยว หรืองานเป็นทีม คุณก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีและชัดเจนได้ทีเดียว
#4 สร้างความเคารพต่อผู้อื่นโดยไม่เกี่ยงสถานะ
หลายครั้งหลายหนที่ลำดับชั้นเข้ามามีบทบาทในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นประธาน, ฝ่ายบริหาร, หัวหน้างาน, ผู้ปฏิบัติงาน หรือแม้แต่พนักงานฝึกหัด ซึ่งมีหลายคนยึดติดกับเรื่องนี้ จนลืมไปว่าทุกคนนั้นต้องทำงานร่วมกัน
ศิลปะการต่อสู้ทำให้คุณรู้จักการให้ความเคารพ เริ่มจากโค้ชของคุณที่นอกจากจะให้ความรู้และดึงศักยาภาพในตัวคุณออกมา ไม่เพียงเท่านั้น คู่ซ้อมของคุณก็สำคัญด้วยเช่นกัน
เพราะในศิลปะการต่อสู้ คนที่หนุ่มหรือแก่กว่าสามารถทำซับมิชชันได้ ผู้หญิงสามารถแนะนำผู้ชายอกสามศอกที่ยังติดขัดในเทคนิคบางอย่างได้ ทุกคนล้วนมีของดีอยู่ในตัว และสามารถช่วยเหลือแก้ปัญหาของคนอื่นๆ ได้ การให้ความเคารพและรับฟังคำแนะนำของผู้อื่น จะทำให้ทุกคนได้ประโยชน์อย่างไม่ต้องสงสัย
#5 เพิ่มความมั่นใจ
การฝึกซ้อมศิลปะการต่อสู้ ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและความมั่นคงในตัวเองมากขึ้น ยังช่วยในเรื่องของความอ่อนน้อมถ่อมตน และวางอัตตาของตัวเองลงอีกด้วย ซึ่งความมั่นใจนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากความสามารถทางร่างกายที่พัฒนา รวมถึงบทเรียนทางจิตวิทยาอีกด้วย
เมื่อคุณรู้ว่า คุณสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้ คุณก็สามารถนำวิธีการเดียวกันมาใช้กับหน้าที่การงานได้ เนื่องจากทุกสิ่งในตัวคุณดีขึ้น สิ่งที่เคยเป็นปัญหาในอดีตก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ด้วยความเชื่อมั่น ซึ่งจะช่วยในการนำเสนองาน รวมถึงการสนทนากลุ่มเพื่อสนับสนุนแนวคิดอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม: