เจาะคู่หลักในรายการ ONE: WINTER WARRIORS II
ก่อนที่วัน แชมเปียนชิพ จะปิดฉากปี 2564 ด้วยความเดือดกับศึก ONE: WINTER WARRIORS II ซึ่งจะออกอากาศเทปการแข่งขันในวันศุกร์ที่ 17 ธันวาคมนี้ เราอยากพาทุกท่านไปทำความเข้าใจกับเรื่องราวเบื้องหลังของเหล่านักกีฬา 6 คู่หลักในรายการที่จะลงชิงชัยในศึกครั้งนี้เพื่อการรับชมอย่างมีอรรถรสมากขึ้น
แดนนี VS ไครัต
คู่เอกของรายการเป็นศึกของตัวท็อปของแรงกิง ONE รุ่นฟลายเวตระหว่าง “The King” แดนนี คิงกาด ผู้รั้งอันดับ 2 และ “The Kazakh” ไครัต อักห์เมทอฟ มือวางอันดับ 4 ที่ได้มาเจอกันในที่สุดหลังจากที่คลาดแคล้วกันมาถึง 2 ปี โดยทั้งคู่มีเป้าหมายเดียวกันในการคว้าสิทธิ์ขึ้นเป็นผู้ท้าชิงแชมป์โลก ONE รุ่นฟลายเวตรายต่อไป และจะได้โอกาสกลับไปล้างตากับเจ้าบัลลังก์ “Mikinho” อาเดรียโน โมราเอส ซึ่งเคยมีคดีกับทั้งคู่มาก่อนหน้านี้
แดนนี หลังจากพ่าย อาเดรียโน ในศึกชิงแชมป์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 เขาก็ทำผลงานยอดเยี่ยมมาตลอดโดยเก็บแต้มชัยได้ถึง 7 ครั้งจากการลงแข่งขัน 8 นัด และครั้งนี้ หากเขาปราบอดีตแชมป์โลกอย่าง ไครัต ได้ เท่ากับว่าเขามีภาษีพอที่จะได้รีแมตช์กับอริเก่าอย่าง อาเดรียโน อย่างที่ตั้งตารอมานาน
ขณะที่ ไครัต เคยครองบัลลังก์แชมป์รุ่นนี้ในเดือนพฤศจิกายน 2558 และถูก อาเดรียโน แย่งเข็มขัดไปในปี 2560 เขาจึงตั้งใจกลับมาทวงบัลลังก์คืน โดยหวังว่าชัยชนะเหนือผู้ท้าชิงอันดับ 2 อย่าง แดนนี จะเป็นแรงส่งให้เขามีโอกาสหวนคืนสู่บัลลังก์อีกครั้ง
เควิน VS ควอน
คู่รองของรายการเป็นศึกการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รุ่นแบนตัมเวต โดยเป็นการปะทะกันของสองจอมน็อกเอาต์ประจำรุ่น ได้แก่ อดีตแชมป์โลก ONE รุ่นแบนตัมเวต “The Silencer” เควิน เบลิงกอน จอมเก๋าตากาล็อก และ “Pretty Boy” ควอน วอน อิล นักสู้จากแดนกิมจิ
เควิน ตัวอันตรายจากค่ายกางเกงแดง ทีมลาไคย์ แม้จะได้ชื่อว่าเป็นเบอร์สองของรุ่น แต่ในระยะหลังมานี้เขาต้องเผชิญกับความพ่ายแพ้แบบหมดรูป ทั้งจากการถูกแชมป์คนปัจจุบัน “The Flash” บิเบียโน เฟอร์นานเดส ซับมิชชัน และการถูกน็อกเป็นครั้งแรกในชีวิตจากน้ำมืออันดับ 1 ของแรงกิง “Hand of Stone” จอห์น ลินีเคอร์ ครั้งนี้ จึงเป็นนัดชี้ชะตาว่าเขาจะเกาะตำแหน่งจ่าฝูงของแรงกิงต่อไปหรือถูกเขี่ยร่วงตกอันดับ
ขณะที่ ควอน มือน็อกเอาต์ชาวเกาหลีใต้วัย 26 ปี กำลังมาแรงพร้อมสถิติชนะ 10 แพ้ 3 และยังโชว์ฟอร์มสดชนะน็อกต่อเนื่องใน 2 ไฟต์ล่าสุดด้วย โดยเขาเคยลั่นวาจาว่าเขาสมควรกับตำแหน่งตัวท็อปของรุ่นแบนตัมเวต และหากเขาเอาชนะอดีตแชมป์โลกอย่าง เควิน ได้ เขาก็มีโอกาสขยับเข้าใกล้บัลลังก์แชมป์มากขึ้น
วิตาลี VS ฟ่าน หรง
อดีตแชมป์โลก ONE รุ่นมิดเดิลเวต “วิตาลี บิกแดช” ชาวรัสเซียได้ฤกษ์หวนคืนสังเวียน ONE หลังจากที่พลาดโอกาสลงแข่งขันในศึกไตรภาคกับคู่ปรับเก่าตลอดกาลอย่าง “The Burmese Python” ออง ลา เอ็น ซาง อดีตแชมป์โลก ONE สองรุ่น (มิดเดิลเวต/ไลต์เฮฟวีเวต) เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เหตุเพราะอาการบาดเจ็บและปัญหาสุขภาพ
แต่ในเมื่อ อองลา เสียเข็มขัดแชมป์ทั้งสองรุ่นให้กับ “The Dutch Knight” ไรเนียร์ เดอ ริดเดอร์ ไปเรียบร้อยแล้ว วิตาลี ที่กำลังไล่ล่าเข็มขัดแชมป์รุ่นมิดเดิลเวตกลับคืนจึงต้องเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ไปที่แชมป์คนปัจจุบันโดยปริยาย แต่ก่อนจะแตะถึงตัว ไรเนียร์ เขาต้องผ่าน “King Kong Warrior” ฟ่าน หรง นักสู้จอมแกร่งจากแดนมังกรไปให้ได้ในศึกครั้งนี้
ด้าน ฟ่าน หรง ก็กระหายในชัยชนะไม่แพ้กัน เพราะนอกจากจะคว้าโอกาสการเป็นนักกีฬาชายชาวจีนคนแรกที่อาจครองบัลลังก์แชมป์โลก ONE แล้ว ยังเป็นการได้กลับไปล้างแค้น “อัศวินดัตช์” ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้เพียงคนเดียวที่ซับมิชชันเขาได้อีกด้วย
เซบาซเตียน VS มูราด
ศึกเขย่าบัลลังก์ รุ่นเวลเตอร์เวต เป็นการกลับคืนสังเวียนของอดีตราชันย์ของรุ่น “The Bandit” เซบาซเตียน คาเดสตัม นักสู้ชาวสวีเดน ซึ่งจะดวลเดือดกับ “มูราด รามาซานอฟ” จอมพลังผู้ไร้พ่ายจากรัสเซีย
เซบาเตียน สร้างชื่อให้กับตัวเองมาอย่างยาวนานในฐานะนักสู้ที่เปี่ยมพลังทำลายล้างที่สุดในรุ่นและขึ้นครองบัลลังก์แชมป์โลก ONE รุ่นเวลเตอร์เวต เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 แม้เขาจะป้องกันตำแหน่งได้สำเร็จครั้งหนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็ดูเหมือนว่าเขาจะแพ้ทางคู่ต่อสู้นักปล้ำรัดจับล็อก จนสุดท้ายเขาก็เสียแชมป์แก่ “เคียมเรียน อับบาซอฟ” ในปี 2562 ครั้งนี้ เขาจึงหวังกลับมากู้ศรัทธาและศักดิ์ศรีแชมป์เพื่อขึ้นสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง
ขณะที่ มูราด ก็กำลังมาแรงด้วยการครองสถิติ 2 ไฟต์ไร้พ่ายตั้งแต่เปิดตัวใน ONE โดยสามารถกำราบมือดีอย่าง “Wolverine” แบ มง โฮ และบดขยี้ “Japanese Beast” ฮิโรยูกิ เท็ตซูกะ มาแล้ว และถ้าเขาสามารถทำแบบเดียวกันกับ เซบาซเตียน ก็อาจส่งให้เขาทะลุขึ้นมาอยู่ตำแหน่งหัวแถวและขยับเข้าใกล้เส้นชัยมากขึ้น
สเตฟาน VS ยูซูป
ดาวรุ่งหน้าใหม่จากทีมลาไคย์ “The Sniper” สเตฟาน โลมาน ได้ฤกษ์เปิดตัวบนเวที ONE เป็นครั้งแรก โดยเจ้าตัวหวังแทรกขึ้นมาอยู่ในแรงกิงท็อปไฟว์ รุ่นแบนตัมเวต แทนที่ “Maestro” ยูซูป ซาดูลาเอฟ จอมซับมิชชันจากแดนหมีขาวที่ปัจจุบันรั้งอันดับ 3 ของแรงกิงรุ่นนี้
เดิมที สเตฟาน ถุูกวางตัวให้เจอกับ “Hands of Stone” จอห์น ลินีเคอร์ มือวางอันดับหนึ่งของรุ่นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่เขากลับพบว่าผลตรวจเชื้อโควิดเป็นบวกจึงต้องถอนตัวจากการแข่งขันและพลาดโอกาสลุ้นเป็นผู้ท้าชิงรายต่อไปกับ “บิเบียโน เฟอร์นานเดส” แชมป์โลกคนปัจจุบัน ครั้งนี้ เขาจึงหวังใช้ ยูซูป เป็นบันไดส่งให้เขาได้รับสิทธิ์ชิงแชมป์ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ยูซูป ก็คิดว่าเขาสมควรได้รับโอกาสท้าชิงแชมป์โลกเช่นกัน หากเขาสามารถสานต่อชัยชนะต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 4 ในศึกนี้ ประกอบกับมีเครดิตดีจากการครองสถิติไม่เคยแพ้ใครในรุ่นแบนตัมเวตมาตั้งแต่ปี 2557 ด้วย
จันโล VS พอล
คู่เปิดรายการหลักเป็นการปะทะกันระหว่างคลื่นลูกใหม่มาแรงจากค่ายกางเกงแดง “ทีมลาไคย์” “The Machine” จันโล มาร์ค ซานเกียว กับนักสู้รุ่นเดอะจากแดนอิเหนา “The Great King” พอล ลูมิฮี ในกติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) รุ่นแบนตัมเวต
จันโล ลูกชายวัย 19 ปี ของ “มาร์ค ซานเกียน” ผู้ก่อตั้งและหัวหน้าโค้ชทีมลาไคย์ กำลังจะปรากฏตัวครั้งแรกบนเวที ONE นอกจากจะถูกจับตามองในฐานะทายาทนักสู้ระดับตำนานแห่งชาติฟิลิปปินส์แล้ว จันโล ยังโดดเด่นเรื่องฝีมือการต่อสู้เช่นกัน โดยเป็นเจ้าของสถิติชนะ 3 ไฟต์ไร้พ่ายในระดับอาชีพซึ่งส่งให้เขาได้มีโอกาสก้าวเข้าสู่ชายคา ONE นั่นเอง
ด้าน พอล ในวัย 33 ปี ก็ขึ้นชื่อเรื่องความเก๋าที่ผ่านศึกมามากกว่าคู่ต่อสู้หนุ่มถึงสี่เท่า แม้ที่ผ่านมา พอล ต้องล้มลุกคลุกคลานบนเส้นทางใน ONE และยังไม่สามารถตีไข่แตกได้เลย แต่หากครั้งนี้เขาสามารถสกัดดาวรุ่งอย่าง จันโล ได้ ก็จะทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นนักสู้ชาวอินโดนีเซียคนแรกที่ปราบนักรบจากทีมลาไคย์ได้บนเวที ONE และได้โอกาสก้าวต่อไปในอีกขั้น
อ่านเพิ่มเติม: