10 เรื่องจริงของ “ตะวันฉาย” ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ไม่รู้ไม่ได้!
“ซ้ายดารา” ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ยอดมวยระดับซูเปอร์สตาร์วัย 21 ปี ซึ่งได้ฤกษ์เบิกชัยเวทีระดับโลก วัน แชมเปียนชิพ ในศึก ONE: DANGAL ที่กำลังจะออกอากาศในวันเสาร์ที่ 15 พ.ค.นี้ โดยมีนัดฟาดปากไฟต์แรกกับมวยบู๊ชาวไอริช “ฌอน แคลนซี” ในฐานะคู่รองของรายการ
ก่อนที่เจ้าตัวจะได้พิสูจน์ฝีมือบนเวทีระดับโลก เราอยากจะทดสอบบรรดาแฟนคลับของซูเปอร์สตาร์มวยไทย “ซ้ายดารา” สิว่าคุณรู้จักเขาดีแค่ไหน 10 เรื่องนี้ใครรู้ทุกเรื่องเอาตำแหน่ง “แฟนพันธุ์แท้” ไปครองเลย!
#1 หนุ่มหน้ามนชาวชลบุรี
ตะวันฉาย มีชื่อจริงว่า “ณรงค์ศักดิ์ แก้วมาลา” หรือชื่อเล่นว่า “กัน” เป็นคน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เกิดเมื่อวันที่ 7 เม.ย.42 เป็นบุตรชายของ นายบุญสงฆ์ แก้วมาลา กับ นางธัญชนก จำปาทอง มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน ตนเองเป็นคนเล็ก
ด้วยอุปนิสัยเป็นคนชอบดูมวยมาตั้งแต่เด็ก ตอนอายุ 7 – 8 ขวบ ขณะที่พ่อขับรถผ่านเวทีมวยเทพประสิทธิ์ พัทยา ตะวันฉาย เห็นนักมวยกำลังชกกันทำให้อยากชกบ้าง จึงให้พ่อพาไปฝึกหัดมวยที่ค่ายเพชรรุ่งเรือง ของ “ครูนุ” วิษณุชัย เพชรรุ่งเรือง อดีตมวยดังเมืองพัทยา ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ บ้าน โดยมี “อนันต์ศักดิ์ เปียปลื้ม” เป็นครูมวยคนแรก
#2 ชกมวยครั้งแรกในบาร์
หลังจาก ตะวันฉาย หัดมวยได้สักระยะก็ขึ้นชกโชว์ที่บาร์แห่งหนึ่งแถวชายหาดเมืองพัทยา ในนาม “จตุคาม เพชรรุ่งเรือง” ไฟต์แรกหนุ่มน้อยเปิดตัวได้สวย โดยเอาชนะน็อกคู่ชกเพียงยกแรกจากการเตะซ้ายอย่างเดียว ได้รับเงินรางวัลเป็นทิปน้ำใจจากชาวต่างชาติราว 800 บาทในวันนั้น
จตุคาม พัฒนาฝีมือขึ้นอย่างรวดเร็วจากการเดินสายชกมวยเด็กในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และขยายวงกว้างไปทั่วภาคตะวันออกต่อด้วยอีสาน จนกระทั่งเข้ามาชกในกรุงเทพฯ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี ช่วงอายุ 14 ปี กับน้ำหนักตัวประมาณ 35 – 36 กก.
#3 ซบอกค่าย พี.เค.ฯ
ช่วงที่ จตุคาม เดินสายชกมวยไปกลับกรุงเทพฯ – ชลบุรี ราว 2 ปี ขณะนั้นได้รู้จักกับ “พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ซึ่งเป็นทั้งไอดอลและนับถือเป็นพี่ชาย จึงขอไปอยู่ที่ค่าย พี.เค.แสนชัยฯ ด้วย โดยให้ พระจันทร์ฉาย ช่วยพูดคุยกับ “เสี่ยแขก” สมชาย เทศรุ่งเรือง หัวหน้าค่ายมวยให้
หลังเรียนจบ ม. 3 ที่โรงเรียนเมืองพัทยา 9 จตุคาม จึงย้ายมาเรียนต่อระดับ ปวช. ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการราชดำเนิน กรุงเทพฯ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของค่ายมวย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และใช้ชื่อ “ตะวันฉาย” นับแต่นั้น (พระจันทร์ฉาย เป็นคนตั้งให้) โดยปัจจุบัน ตะวันฉาย จบการศึกษาระดับ ปวส.สาขาการตลาด และกำลังตั้งเป้าจะเรียนให้สำเร็จปริญญาตรีด้านกฎหมาย เพราะอนาคตอยากเป็นตำรวจรับใช้ชาติ
เมื่อเข้ามาอยู่ค่ายมวย พี.เค.แสนชัยฯ ดังที่ตนใฝ่ฝัน จตุคาม ก็ไม่ทำให้ค่ายผิดหวัง เขามุ่งมั่นตั้งใจฟิตซ้อมอย่างเต็มที่ โดยได้แรงผลักดันจากเหล่านักมวยชั้นนำในค่าย และยังได้ “สมหวัง มาทอง” เทรนเนอร์คนเก่งช่วยสอนเชิงให้ ยิ่งทำให้มีความกระตือรือร้นมากขึ้นเป็นทวีคูณ
#4 พีคตั้งแต่ยังหนุ่ม
ความสำเร็จแรกของ ตะวันฉาย ในเส้นทางอาชีพนักมวย เริ่มต้นด้วยการครองแชมป์ประเทศไทย รุ่น 126 ปอนด์ ในปี 2560 ตอนอายุ 18 ปี จากนั้นคว้าแชมป์สมาคมกีฬามวยไทยนายขนมต้ม รุ่น 140 ปอนด์ ในปีต่อมา
เท่านั้นยังไม่พอ ปี 2561 ถือเป็นปีแห่งความรุ่งโรจน์ของ ตะวันฉาย เมื่อเขาได้รับรางวัลเกียรติยศอย่างท่วมท้นในฐานะคลื่นลูกใหม่ของวงการที่กำลังสร้างฟอร์มอย่างร้อนแรง โดยคว้ารางวัล ยอดมวยสยามกีฬาอวอร์ด, นักมวยยอดเยี่ยมสนามมวยเวทีลุมพินี, นักมวยขวัญใจมหาชนยอดเยี่ยม, รางวัลนักมวยไทยอาชีพดีเด่น และ นักมวยไทยอาชีพดีเด่นการกีฬาแห่งประเทศไทย
#5 ฉายา “ซ้ายดารา”
ตะวันฉาย เคยได้รับฉายา “ซ้ายเพอร์เฟกต์” เป็นฉายาแรก แต่พอหลังจากเอาชนะ “กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย” เมื่อเดือนกันยายน 2561 ก็ได้รับฉายาใหม่จากสื่อมวลชนว่า “ซ้ายดารา” ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าน่าจะเป็นเพราะตนเองมีลักษณะรูปร่างหน้าตาขาว ตี๋ สูงยาว ดูสะอาดสะอ้าน แรก ๆ เจ้าตัวก็เขินอยู่เหมือนกันแต่ไป ๆ มา ๆ ก็รู้สึกชอบฉายานี้
#6 ยอดมวยในดวงใจ
ตะวันฉาย และ แสนชัย
นักมวยทุกคนย่อมมีไอดอลของตนเอง ตะวันฉาย ก็เช่นกัน ยอดมวยผู้ยิ่งใหญ่ที่มีส่วนเป็นเบ้าหลอมและเป็นแบบอย่างให้เขาเจริญรอยตามจนแจ้งเกิดเฉิดฉายในวงการได้ คือลูกพี่ใหญ่ประจำค่ายอย่าง “แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ซึ่ง ตะวันฉาย ชื่นชอบที่เขาเป็นมวยฝีมือ อาวุธหนักหน่วง และมีเทคนิคแพรวพราว
รายต่อไปไม่ใช่ใครที่ไหน คนที่นำเขาเข้าสู่อ้อมอกค่าย พี.เค.แสนชัยฯ คือ “พระจันทร์ฉาย” และสุดท้ายคือศิษย์พี่ร่วมค่ายผู้เป็นจอมเก๋าแห่งวงการมวยไทยอย่าง “ปกรณ์”
#7 เจ้าของแข้งซ้ายเพชฌฆาต
ตะวันฉาย จัดว่าเป็นมวยซ้ายสุดอันตรายอีกคนของวงการ ด้วยการสาดแข้งซ้ายได้รวดเร็วและหนักหน่วง โดยอาวุธเด็ดชนิดนี้เคยถูกใช้เผด็จศึกมวยดังอย่าง แสงมณี (ส.เทียนโพธิ์) ส.กาแฟมวยไทย มาแล้ว นอกจากนี้ยังมี กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย รวมถึง หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ ต่างก็ได้ลิ้มรสพิษสงแข้ง ซ้ายดารา กันถ้วนหน้า
ไม่เพียงเรื่องแข้งอันลือชื่อ ตะวันฉาย ยังซุ่มซ้อมเสริมอาวุธหมัด เพิ่มสปีดการชกให้เฉียบคมยิ่งขึ้น ถึงขั้นลงแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์ประเทศไทยปี 2563 เพียงครั้งแรกเจ้าตัวก็คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เหรียญทองแดงติดตัวกลับมาด้วย
#8 นักสะสมพระเครื่อง
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ตะวันฉาย เป็นนักสะสมพระเครื่องตัวเอ้คนหนึ่งของวงการมวย เขามีพระเครื่องเก็บสะสมไว้อยู่ร่วมร้อยกว่าองค์ โดยรุ่นที่เจ้าตัวรักและหวงแหนที่สุดคือ “หลวงปู่ทวด วัดประสาทบุญญาวาท ปี พ.ศ.2505” (ตามภาพ) ซึ่งได้รับมาจาก อนันตศักดิ์ เปียปลื้ม ครูมวยคนแรก ซึ่งเปรียบเสมือนพ่อคนที่สอง ตั้งแต่ตอนเขาอายุ 12 ปี พระเครื่ององค์นี้จึงมีคุณค่าทางใจ เตือนสติให้เขาทำดี และย้ำเตือนว่าเขาเป็นศิษย์มีครู
#9 เป็นไก่ต้องชน เป็นคนต้องสู้
“ไก่ชน” มักถูกจับคู่กับ “นักมวย” อย่างแยกกันไม่ออก ด้วยบทบาทของการต่อสู้เดิมพันชัยชนะบนสังเวียนการแข่งขัน มีนักมวยไทยหลายคนที่เลี้ยงไก่ชนเป็นงานอดิเรก บ้างก็จริงจังถึงขั้นเปิดซุ้มไก่ชนของตนเอง ซึ่ง ตะวันฉาย ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ในฐานะเจ้าของ “ซุ้มไก่ชนซ้ายดาราตะวันฉาย” ตั้งอยู่ที่เมืองพัทยาบ้านเกิด ซุ้มนี้ต่อยอดมาจากพี่ชายที่เคยทำไว้ก่อน จากนั้นเจ้าตัวก็ขยายกิจการเป็นของตนเองได้เกือบปี ปัจจุบันมีไก่ชนอยู่ร่วมร้อยกว่าตัวทีเดียว
#10 Love Me, Love My Dogs!
นอกจากการเลี้ยงไก่ชนเป็นอาชีพ ตะวันฉาย ยังมีสัตว์เลี้ยงโปรดซึ่งก็คือเจ้าตูบสี่ขานามว่า “บูเอล” สายพันธุ์พิตบูล แต่ว่าน้องได้จากโลกนี้ไปแล้วด้วยโรคกระเพาะ ตอนนี้เขามีคู่ซี้สี่ขาตัวใหม่คือ “เจ้ากุชชี” สุนัขพันธุ์ชีวาวา ตัวเล็กปุ๊กปิ๊กน่ารัก รวมถึงบรรดาเพื่อน ๆ ของมันที่เลี้ยงรวมกันอีก 7 ตัวในบ้านที่พัทยา
รักผมก็ช่วยรักหมาผมด้วย สเปคหญิงของ ตะวันฉาย นอกจากจะต้องรักสัตว์เหมือนเขาแล้ว เจ้าตัวยังแอบเปิดใจว่าตอนนี้กำลังคบหาอยู่กับสาวนอกวงการมวย แต่ฝ่ายหญิงยังไม่ยอมให้เปิดเผยความสัมพันธ์ออกสื่อ โดยเจ้าตัวบอกว่า ตนชอบผู้หญิงผิวขาว หุ่นดี เซ็กซี หน้าร้าย ๆ มีเสน่ห์ชวนหลงใหล ที่สำคัญต้องอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข
อ่านเพิ่มเติม: