แม่สาวขาลุย “เซเลสต์” อดีตแม่ค้าขายสตรอว์เบอร์รี ผู้มี “รถถัง” เป็นไอดอล
พาไปรู้จัก “เซเลสต์ ภูเก็ตสิงห์มวยไทย” แชมป์มวยไทย รุ่นอะตอมเวตหญิง (115 ป.) จากเวทีค้นหาดาวรุ่ง Road To ONE ที่ขึ้นชื่อเรื่องความขยัน เดินหน้าลุย เอาหัวใจเข้าสู้
ภาพของนักสู้หญิงผมทอง น้ำตาไหลอาบหน้า ทรุดตัวลงกับพื้นเวที ทันทีที่โฆษกประกาศชื่อ ว่าเธอคือผู้ชนะการแข่งขัน Road To ONE คนแรกของประเทศไทย คงบรรยายอารมณ์ความรู้สึกของเธอได้มากกว่าคำพูด
สิ่งที่เธอใฝ่ฝันมาโดยตลอด คือการเข้ามาอยู่ในองค์กรการต่อสู้ยิ่งใหญ่สุดในโลก ประหนึ่งฝันกลายเป็นจริง หลังเอาชนะตัวเต็งจ๋าอย่าง “ลมมณี เดอะเลเจนด์ อารีนา” ในรอบไฟนอลมวยไทย รุ่นอะตอมเวตหญิง (115 ป.) คว้าทั้งเข็มขัดแชมป์ และสัญญานักกีฬา ONE มูลค่า 100,000 ดอลลาร์ หรือราว 3.8 ล้านบาทในปัจจุบัน
ก่อนที่ทุกคนจะเห็น “เซเลสต์” ในมาดของแชมป์ Road To ONE อวดโฉมบนเวทีระดับโลกในอนาคต เราจะพาไปทำความรู้จักเธอคนนี้ให้มากขึ้นกับเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจ โดยเฉพาะครั้งหนึ่งเธอเคยอยู่ในจุดตกต่ำ ร่างกายเสื่อมโทรมจากพิษสุรา กระทั่งได้มารู้จักกีฬา “มวยไทย” ที่กลายเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต
#แม่ค้าร้านสตรอว์เบอร์รี่
นักมวยไทยจำนวนไม่น้อย เริ่มต้นหัดชกมวยเพราะด้วยสภาพแวดล้อมที่ใกล้ชิดและคลุกคลีกับสังเวียนผืนผ้าใบ แต่สำหรับ “เซเลสต์ ฮานเซน” หรือ “เซเลสต์ ภูเก็ตสิงห์มวยไทย” นั้นแตกต่างออกไป
เธอเกิดที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เติบโตมาในครอบครัวที่ทำกิจการขายสตรอว์เบอร์รีบนรถฟู้ดทรัก ซึ่งเธอทำงานช่วยที่บ้านมาโดยตลอด โดยแทบไม่เคยมีความคิดว่าอยากเป็นนักกีฬาอยู่ในหัว
“ฉันแทบไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากช่วยงานที่บ้าน เมื่อเสร็จจากงาน ฉันใช้เวลาว่างหมดกับไปการดื่มแอลกอฮอล์ จนติดสุราเรื้อรัง และมันเริ่มส่งผลเสียต่อร่างกาย”
“ฉันรู้สึกอ้วนมาก จึงเริ่มมองหาวิธีการลดน้ำหนัก นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ฉันได้มารู้จักมวยไทย”
#เลิกดื่มได้เพราะมวยไทย
“เซเลสต์” ตัดสินใจมาสมัครเรียนมวยไทย ด้วยความตั้งใจแรกแค่อยากลดน้ำหนัก แต่สิ่งที่ต้องพบเจอในคลาส ทำเอาเธอแทบถอดใจและเสียน้ำตาไปไม่รู้กี่ครั้ง เพราะมวยไทยเป็นกีฬาที่ต้องใช้ร่างกายหนักแทบทุกส่วน เล่นเอาเธอเจ็บระบมไปทั้งตัว ด้านคุณแม่ของ “เซเลสต์” ก็ไม่ค่อยเห็นด้วยที่ลูกสาวเลือกเรียนมวยไทย แต่แม่ก็ไม่สามารถห้ามเธอได้
เวลาผ่านไประยะหนึ่ง “เซเลสต์” ตัดสินใจบินมาฝึกมวยที่ประเทศไทย และมีโอกาสขึ้นชกไฟต์แรกหลังมาอยู่ไทยได้หนึ่งเดือน ผลการชกเธอเอาชนะคู่แข่งชาวไทยได้ และสร้างแรงบันดาลใจต่อยอดให้เธออยากเป็นนักมวยไทย
“ในช่วงเริ่มแรกของการซ้อม ฉันทำได้ไม่ดีสักเท่าไหร่ หลายคนมองว่าฉันคงไปไม่รอด ฉันไม่ชอบการวิ่ง ต้องฝืนวิ่งไปร้องไห้ไป ตอนซ้อมก็ร้องไห้อีก ทุกอย่างมันยากเอามาก ๆ เลยค่ะ”
“ตอนนั้นมีแต่คนบอกว่า ฉันทำไม่ได้หรอก ไม่ไหวหรอก แต่ฉันอยากพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่า ผู้หญิงก็ต่อยมวยได้ แล้วก็ทำอะไรได้หลายอย่างด้วย”
“ฉันเป็นคนที่ทำอะไรเต็มที่เสมอ ตอนดื่มแอลกอกอฮอล์ฉันก็เต็มที่ มาชกมวยก็เลยเต็มที่เหมือนกัน ฉันทุ่มเทให้กับการซ้อมอย่างหนัก จนไม่มีเวลากลับไปดื่มค่ะ ถึงตอนนี้ก็น่าจะประมาณ 5 ปีแล้วค่ะที่ฉันไม่ได้แตะต้องของมึนเมาเลย”
ไม่เพียงแค่รูปร่างที่ดีขึ้น แต่มวยไทยยังสอนให้ “เซเลสต์” รู้จักคำว่าระเบียบวินัย และการมีเป้าหมายในชีวิต ซึ่งเธอใฝ่ฝันถึงการเป็นนักสู้หญิงระดับโลก
แม้หนทางสู่ความสำเร็จนั้นจะยากลำบาก และเธอเริ่มต้นเรียนมวยไทยในวัย 20 กว่า ๆ ซึ่งถือว่าช้าเอามาก ๆ หากเทียบกับนักมวยไทยในบ้านเรา แต่ “เซเลสต์” ก็ไม่หยุดที่จะเพียรพยายาม
เธอตระเวนชกเก็บประสบการณ์ในเมืองไทย โดยได้การรับดูแลจากทีม “ภูเก็ตสิงห์มวยไทย” จนถูกคัดเลือกให้เป็น “นักมวยต่างชาติหญิง” คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้ขึ้นชก ณ สนามมวยลุมพินี เมื่อเดือน พ.ย.64 ในไฟต์ที่พบกับ “น้องนุก โรงเรียนกีฬาโคราช”
#อยากเป็น “ดิ ไอรอนวูแมน”
เกือบหนึ่งปีต่อมา “เซเลสต์” ได้กลับมายังสังเวียนลุมพินีอีกครั้ง พร้อมกับโอกาสที่ใหญ่กว่าเดิม ในฐานะ 1 ใน 8 นักมวยหญิงที่ได้รับคัดเลือกให้แข่งขันในเวทีค้นหาดาวรุ่ง Road To ONE ที่จัดโดย ONE และ แฟร์เท็กซ์ ไฟต์ โปรโมชั่น เพื่อเฟ้นหานักมวยไทยสายเลือดใหม่ เข้าไปเซ็นสัญญากับ ONE ในรุ่นอะตอมเวตหญิง (115 ป.)
รอบแรกของทัวร์นาเมนต์ นักชกสาวออสเตรเลีย กำชัยเหนือ “เพชรสีนิล ส.พวงทอง” จากนั้นในรอบตัดเชือกเธอปราบ “ดวงดาวน้อย ลูกทรายกองดิน” ทำให้เธอคว้าตั๋วผ่านทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเจอกับตัวเต็ง “ลมมณี เดอะเลเจนด์อารีนา” คู่แข่งที่เธอเคยแพ้มาเมื่อ 3 ปีก่อน
“การได้เข้า ONE สำคัญกว่าทุกอย่าง ฉันต้องการโอกาสนี้มากกว่าทุกอย่าง วัน แชมเปียนชิพ คือที่สุดสำหรับฉัน”
“ช่วงเวลา 4-5 เดือนที่ผ่าน มันยากลำบากมาก จนฉันเคยคิดท้อเหมือนกัน ฉันเป็นทั้งโควิด-19, ดวงตาติดเชื้อ แต่ฉันหวังกับรายการนี้ไว้มาก ก่อนนัดชิงชนะเลิศ ฉันจึงซ้อมหนักเหมือนกับเป็นแมตช์ชิงแชมป์โลกเลยค่ะ”
“เซเลสต์” บอกว่าเธอมี “รถถัง จิตรเมืองนนท์” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต เป็นไอดอล เธอจึงเลียนแบบการชกด้วยสไตล์ที่ดุดัน เดินหน้าฆ่ามันแบบไม่มีเกียร์ถอย เพราะใฝ่ฝันอยากจะเป็น “รถถัง” ดิไอรอนแมนในเวอร์ชันผู้หญิง
สุดท้ายความพยายามทั้งหมดที่ “เซเลสต์” ทำมา จากการเริ่มต้นแบบคนไม่เป็นมวย และหาตัวช่วยในการลดน้ำหนัก แต่ผลลัพธ์มันมาไกลเกินกว่าที่ฝันไว้ เมื่อ “เซเลสต์” ได้รับการชูมือให้กำชัยในการแข่งขัน Road To ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวตหญิง
ภาพที่เธอร่ำไห้บนเวที จึงเป็นโมเมนต์ที่เข้าถึงใจผู้ชม ไม่แพ้กับสไตล์การชกที่ถึงอกถึงใจคนดู และหลังจากนี้เราคงจะได้เห็นเธอในรายการ ONE และ ONE Lumpinee ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
“วัน แชมเปียนชิพ คือความฝันของฉันค่ะ ตั้งแต่ฉันเริ่มเรียนมวยไทย สิ่งที่ดีที่สุดคือฉันได้ขึ้นชกที่เวทีลุมพินี เวทีที่หลายหลายคนบอกว่าผู้หญิงไม่สามารถขึ้นไปชกได้ แต่ฉันทำมันได้และกำลังจะได้ไปโลดแล่นใน ONE”
“ฉันมาถึงจุดนี้ เพราะอยากแสดงให้ทุกคนเห็นและเชื่อว่า ไม่ว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร มันเป็นไปได้ หากคุณมีความตั้งใจและทุ่มเทกับมัน”
อ่านเพิ่มเติม:
