“รถถัง” ให้เครดิต “มินิที” เกมจะมันต้องขึ้นอยู่กับสองคน
ไฟต์นี้จะให้เครดิตคนเดียวไม่ได้ “รถถัง” ยอมรับตัวเองก็โดนเยอะ “มินิที” เป็นเสือมีเขี้ยวเล็บ นับถือใจสู้ไม่ถอย เกมจะมันต้องขึ้นอยู่กับสองคน
“The Iron Man” รถถัง จิตรเมืองนนท์ เจ้าของบัลลังก์แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต ประกาศศักดาต่อสายตาแฟน ๆ ชาวอเมริกันในช่วงไพร์ไทม์ไปแล้วเรียบร้อยผ่านศึกใหญ่แห่งปี ONE on TNT I เมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา เก็บชัยชนะไฟต์ที่ 10 ต่อเนื่องได้สำเร็จ ด้วยการซิวคะแนนขาดลอยหลังสอยมวยหน้าใหม่ลูกครึ่งไทย-ออสซี “มินิที” แดเนียล วิลเลียมส์ เสียทั้งนับและแตก แลกกันสุดมันดุเดือดสมกับที่เป็น มวยไทย ซูเปอร์ไฟต์ ปิดท้ายรายการ
รูปเกมโดยรวม รถถัง เป็นต่ออยู่หลายขุม แต่งานนี้เจ้าตัวก็บอบช้ำไม่น้อย อาศัยว่าเก็บอาการเก่งและประคองเกมได้อย่างมืออาชีพ
“นักชกต่างชาติในสังเวียนนี้ไม่มีใครอ่อน แดเนียล เป็นเสือมีเขี้ยวเล็บ เขาเป็นมวยแทนที่ตั้งใจจะชกกับผมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มีความมั่นใจที่พร้อมจะชนแบบไม่หวั่นกลัวใด ๆ ผมรู้ดีว่าเขาเก่งมวยไทย เพราะฉะนั้นผมจะลุยมั่วซั่วไม่ได้ ต้องสู้แบบไม่ประมาท”
“ในยกแรกที่เราแลกหมัดกันอย่างเมามัน ผมเองก็โดนไปเยอะนะครับ ตาผมปิด และเมาหมัดเขาด้วย แต่ผมยังเก็บอาการได้อยู่ครับ”
รถถัง vs แดเนียล (8 เม.ย.64)
“จังหวะก่อนที่ แดเนียล จะโดนนับ ผมยิงหมัดรัว ๆ ไปโดนหัวเขาเต็ม ๆ จนข้อมือซ้ายผมเกิดอาการซ้นทันที เป็นการบาดเจ็บในจุดเดิมเหมือนไฟต์ที่ป้องกันเข็มขัดกับ เพชรดำ (เพชรยินดีอะคาเดมี) เลยครับ ผมต้องเปลี่ยนจากยืนซ้ายมายืนขวา เพื่อเซฟหมัดตัวเอง ประคองไว้ไม่ให้เจ็บไปมากกว่านี้”
หลังจาก แดเนียล โดนนับในยกสอง บรรดาแฟน ๆ ก็มองว่า รถถัง สามารถปิดเกมในยก 3 ได้แต่ไม่ปิด อาจเพราะไม่อยากทำคู่ต่อสู้แล้ว ซึ่ง รถถัง แจงว่าจะบุ่มบ่ามปิดเกมไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมวยตัวนี้ห้ามประมาท แถมบวกกับอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น ส่วนตัวตั้งใจมาเพื่อน็อกอยู่แล้วแต่ทำไม่ได้ในตอนนั้น
จังหวะรัวหมัดแล้วข้อมือซ้น
อย่างไรก็ตาม รถถัง พอใจในรูปเกมโดยรวมที่เกิดขึ้นบนเวที ทั้ง ๆ ที่มีเวลาเตรียมความพร้อมน้อยเพราะชกสองไฟต์ติดต่อกัน
ส่วน แดเนียล นั้นแม้จะมาในฐานะมวยแทนแต่ รถถัง ก็นับถือน้ำใจของเขาที่มีความตั้งใจเดียวกันในการชกอย่างเต็มที่ มีแผลแตกแต่ก็สู้ไม่ถอย ทำให้การแข่งขันไฟต์นี้เอนเตอร์เทนคนดูได้อย่างที่ตั้งใจ ถ้าเจอคู่แข่งเอาแต่ถอยหนี ต่อให้ รถถัง มาดีขนาดไหน รูปเกมก็คงไม่ออกมาดุเดือดได้ เรียกว่างานนี้ต้องยกเครดิตให้กับทั้งสองฝ่าย
อ่านเพิ่มเติม: