เข็มขัดต้องเปลี่ยนเจ้าของ “ซุปเปอร์บอน” พร้อมงัด “ตะวันฉาย” คืนสู่สถานะเจ้าบัลลังก์ผู้ยิ่งใหญ่

Superbon Open Workout

“ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” พร้อมสยบความร้อนแรงของ “ตะวันฉาย” เพื่อเป้าหมายกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ในฐานะเจ้าบัลลังก์

 “ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) วัย 33 ปี พร้อมงัดตำราศาสตร์อาวุธทั้งแปด ขึ้นท้าชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต จาก “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” เจ้าของตำแหน่ง วัย 24 ปี ในศึกใหญ่ส่งท้ายปี ONE ลุมพินี 46 วันศุกร์ที่ 22 ธ.ค.นี้ ที่สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา)


399405419_367969535578361_3031905452785751026_n


สำหรับ “ซุปเปอร์บอน” และ “ตะวันฉาย” ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ถูกวางคิวให้ขึ้นประชันฝีมือกัน แต่เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บกะทันหันของ “ซุปเปอร์บอน” บวกกับอาการป่วยของ “ตะวันฉาย” ทำให้การเผชิญหน้าดังกล่าวต้องถูกเลื่อนออกไป จนกระทั่งได้ฤกษ์ใหม่ในศึกใหญ่ส่งท้ายปีนี้ โดยสองครั้งที่ผ่านมา “ซุปเปอร์บอน” มองว่าอาการบาดเจ็บและอาการป่วยนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่นักกีฬาต้องเผชิญอยู่แล้ว


วันนี้ผมทำ MRI จากภาพ จะเห็นรอยฉีกของกล้ามเนื้อน่อง เป็นเหตุผลที่ผมต้องถอดตัวจากการชกไฟท์นี้…

Posted by Life of Superbon on Friday, September 22, 2023


“อาการเจ็บขาของผมเกิดขึ้นเพราะผมซ้อมเล่นเชิงแล้วกล้ามเนื้อฉีกครับ ก็เลยไปหาหมอทำ MRI ดูว่ามันฉีกตรงไหนแล้วก็ทำการรักษา จริง ๆ หมอบอกว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 เดือน ที่จะหายร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ผมทำกายภาพบำบัดทุกวัน บวกกับใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการรักษาเข้ามาช่วย ทำให้หายเร็วขึ้นช่วงแรก ๆ ก็ไม่ได้ซ้อมเต็มที่ครับ อย่างผมเจ็บขาก็หันมาเล่นเวตช่วงบน ก็ซ้อมในส่วนที่มันซ้อมได้ไปก่อนครับ”

“พอมาครั้งที่สอง ตะวันฉาย ป่วยต้องเลื่อนอีกครั้ง แต่ผมก็รู้สึกเฉย ๆ ครับ เพราะจริง ๆ เรื่องพวกนี้เกิดขึ้นได้ตลอด ผมชกมวยมา 20 กว่าปี  การประกบมวยต้องเลื่อนหรือถอนชกอะไรแบบนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับ”



โดยครั้งนี้ถือเป็นการกลับมาสู้ในกติกามวยไทยครั้งแรกในรอบหลายปีของ “ซุปเปอร์บอน” และยังเป็นการสู้ด้วยนวมเล็กครั้งแรกอีกด้วย ซึ่งในจุดนี้หลายคนมองว่าอาจจะทำให้เขาเสียเปรียบ “ตะวันฉาย” เต็มประตู แต่สำหรับ “ซุปเปอร์บอน” ที่เติบโตมากับศาสตร์มวยไทยมาตั้งแต่ยังเด็ก และยังเคยพ่วงดีกรีแชมป์มวยไทยระดับประเทศ มองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา แม้จะห่างหายจากการขึ้นสังเวียนมวยไทยไปนานก็ตาม

“ที่ผ่านมาผมเคยได้แชมป์ประเทศไทย กับเป็นรองแชมป์มวยรอบมา 2 รายการ แล้วก็ป้องกันแชมป์ประเทศไทยได้ 2 ครั้งครับ แม้ผมจะไม่ได้ชกมวยไทยมาหลายปีแล้ว แต่ทุกวันนี้ผมก็ยังรู้สึกว่าผมก็คือนักมวยไทยคนหนึ่งครับ”



“ไฟต์นี้แทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรเลยครับ เพราะแต่เดิมผมเป็นมวยเข่าแล้วก็มีฟันศอกสลับซึ่งเป็นลูกหากินของผมตั้งแต่สมัยชกมวยไทยอยู่แล้ว ผมแค่ไม่ได้มีโอกาสใช้มันในช่วงเวลาหนึ่ง แต่ความรู้เรื่องมวยไทยของผมไม่ได้หายไปไหน อยู่ที่ว่าผมจะเอามันมาใช้ตอนไหนเท่านั้นเอง”

“ส่วนเรื่องนวมเล็ก แรก ๆ ก็ระแวงว่านิ้วจะซ้นหรือเปล่า ชกไปแล้วโดนหัวนิ้วจะหักหรือเปล่า แต่พอใส่ซ้อมได้สักพักมันก็เริ่มชิน เพราะแต่ก่อนที่ไม่ได้มีอุปกรณ์อะไรมากมาย บางครั้งก็ซ้อมมือเปล่า มาถึงตอนนี้ผมซ้อมนวมเล็กร่วม 3-4 เดือนแล้ว เป็นระยะเวลาที่ผมคุ้นชินแล้วครับ”



แน่นอนว่าแฟนมวยทั่วโลกต่างรับรู้ได้ถึงลีลาการหวดแข้งซ้ายอันเลื่องลือของ “ตะวันฉาย” ที่แสดงให้เห็นถึงความหนักจนคู่ชกถึงขั้นบาดเจ็บหนักมาแล้วถึงสองราย แต่สำหรับ “ซุปเปอร์บอน” มองว่าเรื่องดังกล่าวไม่น่ากังวลใจอะไร เพราะเขาคือนักมวยไทยที่รับมือกับอาวุธอันหนักหน่วงได้ทุกสถานการณ์ นอกจากนี้เขายังศึกษาการชกของ “ตะวันฉาย” จนรู้ซึ้งถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของราชันมวยไทยรายนี้อย่างละเอียดยิบเลยทีเดียว



“เราเป็นมวยไทยเราถูกสอนมาให้บังตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ชาวต่างชาติพวกนั้นเขาไม่บัง พอโดน ตะวันฉาย เตะซึ่งรุนแรงมากก็มีโอกาสที่จะขาหรือแขนหักได้ แต่ถ้า ตะวันฉาย เตะคนไทยแล้วขาหักนี่สิ ถึงจะเป็นเรื่องที่ผมควรน่ากังวล ที่ผ่านมา ตะวันฉาย ไม่เคยเตะคนไทยถึงขั้นขาหักหรือแขนหักเลย ผมก็เลยรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลครับ” 

“ผมว่าจุดเด่นของ ตะวันฉาย เป็นมวยฝีมือที่ออกแข้งซ้ายได้เก่งและรวดเร็ว แถมยังมีลูกถีบที่รุนแรงและหมัดซ้ายที่อันตราย ส่วนจุดอ่อนที่ผมสังเกตในหลาย ๆ ไฟต์คือเขาหมดแรงง่าย เป็นมวยที่แผ่วปลาย เวลาเจอเบียดเข้าไป อาจจะมีอาการแผ่วในบางไฟต์ ผมว่านี่เป็นสิ่งที่ผมสามารถเอาไปใช้ประโยชน์กับการชกครั้งนี้ได้ครับ”



ในการได้รับโอกาสขึ้นชิงเข็มขัดในครั้งนี้ “ซุปเปอร์บอน” หมายมั่นปั้นมือที่จะมาแก้ตัวหลังจากเสียบัลลังก์คิกบ็อกซิ่งเมื่อช่วงต้นปีนี้ โดยเจ้าตัวตั้งใจจะโชว์ศักยภาพให้คนทั่วโลกได้เห็นว่าเขาพร้อมกลับมาทวงความยิ่งใหญ่บนเวทีระดับโลก ด้วยการกระชากเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย จากเอว “ตะวันฉาย” ให้ได้ ยิ่งไปกว่านั้น หากสามารถคว้าชัยได้ในไฟต์นี้ เขายินดีที่จะกลับไปตามล่าบัลลังก์คิกบ็อกซิ่งอีกครั้ง เพื่อกลับมาครองตำแหน่งนักชกที่เก่งที่สุดในโลกเมื่อเทียบปอนด์ต่อปอนด์

“สำหรับผม นี่จะเป็นโอกาสแก้ตัวที่ดีที่สุดเพื่อกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ ถ้าผมได้แชมป์โลกมวยไทย ผมจะกลับไปเอาแชมป์คิกบ็อกซิ่งของผมคืน ผมยังอยู่ในเส้นทางที่จะกลับไปเป็นอันดับหนึ่งได้ ไฟต์นี้จึงสำคัญมากสำหรับชีวิตผมครับ”



“ผมอยากขอบคุณทาง ONE และทีมงานทุกคนครับ ที่มอบโอกาสให้ผมได้ชกในรายการใหญ่ ๆ ได้มีโอกาสโปรโมตตัวเอง และช่วยเหลือผมในทุก ๆ ทาง มันเป็นโอกาสที่ดีมากครับ ผมรู้สึกตื่นเต้นในการที่จะได้ชกในรายการใหญ่ ๆ ชกกับคนเก่ง ๆ นี่เป็นเป้าหมายสำหรับการเป็นนักกีฬาของผมครับ”

ติดตาม “ซุปเปอร์บอน vs ตะวันฉาย” ศึก ONE ลุมพินี 46 วันศุกร์ที่ 22 ธ.ค.นี้ ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) โดยสามารถรับชมผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้

ดูเพิ่มเติมในหมวด ข่าว

11 Suakim vs Panrit OL92 (9)
7_OL81_ShadowMohammad (34)
12 Sitthichai vs Shadow OL92 (48)
77942
OL92_Faceoffs (23)
Cover_OL92_KiamranNabil
OL83 Panrit vs Superball (15)
Khunsueklek Boomdeksean VS Koko Sor Sommai2 1200x800
BG_ONE03_0 (67)
OL68 Sibmuen vs Tyson Harrison (31)
Maisangkum Sor Yingcharoenkarnchang VS Petsansuk ChotBangsaen (17)
ONE172 Takeru vs Rodtang PC 16 12 24 (69)