ปี 2019 สุดยิ่งใหญ่ของ “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” และแผนต่อไปในปี 2020
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ปี 2019 ถือเป็นปีทองของ “The Doctor” จอร์จิโอ เปโตรเซียน ใน วัน แชมเปียนชิพ ไม่ใช่เพียงแต่มาตรฐานการชกในระดับสูงที่มีมาแต่เดิม แต่ยังเกิดปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่บนเส้นทางนักสู้ ที่ดูว่าจะไม่มีทีท่าว่าเข้าสู่ช่วงขาลงเลย
🥊 THE GREATEST OF ALL TIME 🥊Giorgio Petrosyan defeats Samy Sana via unanimous decision to claim the ONE Featherweight Kickboxing World Grand Prix Championship and US$1 million! 💰📺: Check local listings for global broadcast details📱: Watch on the ONE Super App 👉 http://bit.ly/ONESuperApp🏷: Shop Official Merchandise 👉 http://bit.ly/ONECShop
Posted by ONE Championship on Sunday, October 13, 2019
นักชกชาวอาร์เมเนีย-อิตาลีคว้าชัยชนะ 3 ไฟต์รวดในการแข่งขัน ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นเฟเธอร์เวต และขึ้นแท่นแชมป์ของทัวร์นาเมนต์นี้ พร้อมซิวเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 31 ล้านบาท ซึ่งเงินรางวัลนี้ถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ของวงการคิกบ็อกซิ่งระดับโลก
“มันเป็นการเดินทางที่มหัศจรรย์มากในปี 2019 ถือเป็นอีกปีสำคัญของผมเลยนะ”
“ตอนต้นปีผมตั้งเป้าหมายว่าจะต้องคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์ที่สำคัญที่สุดของวงการคิกบ็อกซิ่งระดับโลกให้ได้ และในที่สุดผมก็ทำมันสำเร็จ”
“แต่ทุกไฟต์นั้นยากและเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่เมื่อทุกอย่างจบลง ผมแทบอธิบายความรู้สึกไม่ได้เลยจริงๆ ครับ”
- เปิดทำเนียบแชมป์โลก ONE ปี 2562 ไทยครองสถิติแชมป์โลกสูงสุด
- ทิศทาง 4 แชมป์โลกชาวไทยบนสังเวียน ONE ปี 2563
- 5 นักชกซูเปอร์สตาร์ชาวไทยที่มีแววเด่นน่าจับตาในปี 2563
เปโตรเซียน เริ่มต้นทัวร์นาเมนต์รอบ 8 คนแรกใน “บ้านแห่งศิลปะการต่อสู้” ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ที่สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม กับคู่ต่อกรคนแรกอย่าง “เพชรมรกต เพชรยินดีอคาเดมี” ซึ่งในไฟต์นั้นจบลงแบบไม่มีผลตัดสิน
ด้วยเหตุดังกล่าว ทำให้ทั้งสองต้องมารีแมตช์ในเดือนกรกฎาคม ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ให้หายคาใจ ก่อนที่นักชกตัวพ่อของวงการคิกบ็อกซิ่งจากเมืองมิลาน จะเอาชนะยอดมวยชาวไทยไปด้วยคะแนนอย่างเป็นเอกฉันท์ ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปเจอกับนักชกไทยเพียงหนึ่งเดียวที่ผ่านเข้ามาในรอบนี้อย่าง “Smokin” โจ ณัฐวุฒิ
ทั้งคู่เคยดวลหมัดกันมาก่อนจนครบ 3 ยกในปี 2561 จึงเชื่อว่าไฟต์นี้จะดุเดือดเลือดพล่านเพราะต่างฝ่ายต่างรู้ทางกันแล้ว อีกทั้ง เปโตรเซียน ก็เจอศึกหนักต่อเนื่องกันจนแทบไม่ได้พัก และต้องขึ้นสังเวียนในเดือนถัดมาทันที โดยศึกนี้จัดขึ้นที่สังเวียนบ้านเกิดของคู่ต่อสู้ที่ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี แต่สุดท้ายเขาก็โชว์ฟอร์มเด็ดช็อกกองเชียร์เจ้าบ้านทั้งสนาม
RIGHT ON THE 💰 Giorgio Petrosyan takes out Smokin' Jo Nattawut with a stunning ONE-PUNCH KNOCKOUT to book his spot in the US$ 1 million ONE Featherweight Kickboxing World Grand Prix Championship Final! 💥🥊📺: Check local listings for global broadcast details📱: Watch on the ONE Super App 👉 http://bit.ly/ONESuperApp
Posted by ONE Championship on Friday, August 16, 2019
เปโตรเซียน ใช้หมัดซ้ายกระทุ้งเข้าหน้านักชกไทยอย่างจังตั้งแต่ยกแรก ส่งให้เขาผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปเจอกับคู่ต่อสู้คนสุดท้ายอย่าง “AK47” เซมี ซานา ในศึก ONE: CENTURY PART II ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
แม้ ซานา จะอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม และผ่านคู่ต่อสู้สุดหินในสองรอบแรกมาได้อย่างไร้ข้อกังขา แต่ในศึกชิงดำของทัวร์นาเมนต์เมื่อเดือนตุลาคม เปโตรเซียน โชว์ฟอร์มเหนือชั้นกว่า และเป็นผู้คว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ พร้อมเงินรางวัลสูงสุดในประวัติศาสตร์วงการคิกบ็อกซิ่งไปครอบครอง
“มันเป็นการแข่งขันที่ท้าทายมาก มีไฟต์ใหญ่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งการเจอกับ เพชรมรกต, โจ ณัฐวุฒิ และ ซานา ต่างก็เป็นการต่อสู้ที่อันตรายและน่าตื่นเต้น แต่ถ้าให้เลือกไฟต์ที่โดดเด่นที่สุดในทัวร์นาเมนต์ของผม คงต้องเป็นไฟต์ที่น็อก โจ ณัฐวุฒิ นั่นแหละครับ”
“รูปแบบทัวร์นาเมนต์ชวนให้กดดันจริงๆ คุณต้องจดจ่ออยู่กับการฝึกซ้อมตลอด ต่อให้คุณชนะ ก็ต้องคิดไปถึงคู่แข่งขันคนต่อไปทันที มันเป็นอะไรที่เข้มข้นเอามากๆ แต่ก็น่าตื่นเต้น และเป็นที่พอใจสำหรับนักสู้และแฟนๆ”
“การคว้าแชมป์ เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ เป็นช่วงที่สะเทือนอารมณ์จริงๆ ตอนที่ได้รับการชูมือ ภาพต่างๆ มันเข้ามาในหัวเต็มไปหมด ทั้งการเสียสละชีวิตส่วนตัวตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็ก เพื่อความฝันที่อยากจะเป็นยอดชกคิกบ็อกซิ่ง ตอนนี้ผมได้พิสูจน์แล้วว่า ผมคือนักสู้ตัวจริง”
แน่นอนว่า การคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์นี้ ทำให้เปโตรเซียนได้รับการยกย่องเป็นคิกบ็อกเซอร์ผู้เก่งกาจที่สุดแห่งยุคและตลอดกาล แต่เขายังไม่เร่งรีบที่จะอิ่มตัวกับความสำเร็จ เขายังคงมุ่งมั่นที่จะโชว์ฝีมือ และมองหาความสำเร็จขั้นต่อไปในเส้นทางนักสู้ให้ตัวเอง
“ตอนนี้ผมโฟกัสไปที่ความท้าทายต่อไปแล้ว”
“ปกติผมจะไม่ค่อยตั้งเป้าหมายในระยะยาวเท่าไหร่นัก เป้าหมายหลักของผมคือการเป็นคนที่เก่งที่สุดของโลกในรุ่น ดังนั้น ผมไม่มีปัญหากับการต้องเจอใครก็ได้ ขอให้บอกมา ผมพร้อมเสมอ”
“ผมยังมองเห็นโอกาสที่จะเติบโตและทำให้ดีขึ้นได้เสมอ ดังนั้นผมไม่ต้องการลิมิตความสามารถตัวเอง ผมจะพยายามเรียนรู้ให้มากที่สุด ทดลองสิ่งใหม่ๆ และนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์”
นอกจากการขัดเกลาทักษะฝีมือ เพื่อพร้อมเผชิญหน้ายอดนักสู้ระดับโลกแล้ว “The Doctor” ยังมีอีกหนึ่งเป้าหมายที่อยากทำให้สำเร็จในปี 2020 นั่นคือการช่วยนำ วัน แชมเปียนชิพ บุกเบิกสู่ดินแดนใหม่
ปฏิเสธไม่ได้ว่า เปโตรเซียน ถือเป็นนักสู้ขวัญใจของชาวอิตาลี และด้วยเหตุนี้ เขาจึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก หากได้มีส่วนช่วยให้องค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเติบโตมากขึ้นในดินแดนรองเท้าบู้ตอันเป็นบ้านของเขา
“แน่นอนว่าถ้า ONE จัดการแข่งขันที่อิตาลีได้ ก็เป็นความฝันของผม และเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เพราะถ้ามองในเรื่องของประสบการณ์และฝีมือนักสู้ นักกีฬาของ ONE ถือว่าอยู่ในระดับสูงสุด และแฟนๆ ชาวอิตาลีจะต้องหลงรักแน่ๆ”
“มันจะเป็นอีกปีที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยเรื่องท้าทาย ซึ่งผมพร้อมแล้ว และผมแทบรอให้ฤดูกาลต่อสู้ของผมมาถึงไม่ไหว”
“สุดท้ายนี้ ผมขออวยพรให้ทุกคนมีความสุขในวันคริสต์มาส สุขสันต์ปีใหม่ แล้วเจอกันในปี 2020 ที่คุณจะได้ตื่นเต้นกับผลงานของผมยิ่งกว่าเดิมครับ”
อ่านเพิ่มเติม: หนีสงคราม นอนข้างถนน ชีวิตสุดติดลบของคิกบ็อกซิ่งตัวพ่อ “จอร์จิโอ เปโตรเซียน”
เตรียมรับศักราชใหม่กับศึก ONE: A NEW TOMORROW | อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี | 10 มกราคม 2563 | 17.30 น. ตามเวลาไทย | ซื้อบัตรเข้าชม: ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ | ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 ออกอากาศเวลา 22.30 น.