“สามเอ” เล็งเข็มขัดมวยไทย เส้นนี้จะเป็นของใครไปไม่ได้
“สามเอ ไก่ย่างห้าดาว” นักมวยไทยระดับเจ้าตำนานวัย 36 ปี หลังคว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต คนแรกในประวัติศาสตร์ของ วัน แชมเปียนชิพ มาครองได้สำเร็จ ก็หมายตาที่จะคว้าเข็มขัดแชมป์โลกในกติกามวยไทยมาครองให้ได้อีกเส้น เพราะตนเกิดมาจากมวยไทยและชกมวยไทยมาทั้งชีวิต ดังนั้นเข็มขัดเส้นนี้จะเป็นของใครไปไม่ได้
ก่อนหน้านี้ สามเอ เคยครองเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทยมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เป็นรุ่นฟลายเวต (56.8 – 61.2 กก.) ซึ่งภายหลังถูกนักมวยหนุ่มชาวอังกฤษ “โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี” กระชากไป โดยวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นเพราะน้ำหนักของรุ่นนี้ที่ใหญ่กว่าน้ำหนักธรรมชาติของ สามเอ
อย่างไรก็ตาม สามเอ ตัดสินใจลดมาสู้ในรุ่นสตรอว์เวต (52.3 – 56.7 กก.) ทันที หลังจากที่มีการเปิดแข่งขันในรุ่นน้ำหนักนี้เป็นครั้งแรกภายใต้กติกามวยไทย โดยเขาเจอกับนักมวยแดนน้ำหอม “ดาเรน โรลลอง” และสามารถน็อกคู่ต่อสู้ได้อย่างเฉียบขาดในยกที่ 2
หลังจากนั้น สามเอ ก็หันไปชิมลางในกติกาคิกบ็อกซิ่งเป็นครั้งแรกในชีวิต ซึ่งไฟต์นั้นมีเข็มขัดแชมป์โลกเป็นเดิมพัน และ สามเอ ก็สามารถขึ้นนั่งบัลลังก์แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวตได้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของ วัน แชมเปียนชิพ หลังคว้าชัยชนะแบบเอกฉันท์เหนือนักชกหนุ่มชาวจีน “Golden Boy” หวัง จึงกวง ในศึก ONE: MARK OF GREATNESS ณ แอ็กเซียตา อารีน่า กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา
ชัยชนะครั้งนั้นส่งให้ สามเอ กลายเป็นแชมป์โลก ONE สองประเภทกีฬาการต่อสู้ในสองรุ่นน้ำหนักคนแรกอีกด้วย
นักมวยที่ผ่านการชกในกติกามวยไทยมาทั้งชีวิตกว่า 400 ไฟต์อย่าง สามเอ การปรับตัวมาชกในกติกาใหม่อย่างคิกบ็อกซิ่งนั้น แม้จะไม่ใช่เรื่องยากเกินไป และเขาก็ได้พิสูจน์ฝีมือตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าคงไม่มีกติกาไหนที่เขาจะถนัดไปกว่าการชกมวยไทยอีกแล้ว
“มันเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น ผมมีอะไรมากมายที่ต้องเรียนรู้และต้องการพัฒนาในคิกบ็อกซิ่งอีกมาก แต่อย่างน้อยผมก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าผมสามารถทำได้”
การเป็นแชมป์โลกที่ว่ายากแล้ว แต่การรักษาแชมป์โลกนั้นยากยิ่งกว่า สามเอ ก็รู้ดีว่าการรักษาเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายความสามารถ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ยังมีเป้าหมายที่จะคว้าเข็มขัดแชมป์โลกในกติกามวยไทยมาให้ได้อีกเส้น เพราะในกติกานี้เป็นกติกาที่เขาถนัดที่สุดและมีความมั่นใจว่าสามารถจะคว้ามาครองในฐานะตัวแทนประเทศไทยได้
“นักสู้ทุกคนมีเป้าหมายในอาชีพ และผมก็มีความสุขมากที่สามารถทำตามเป้าหมายของตัวเองได้สำเร็จ”
“แม้ว่าผมจะอายุมากขึ้น แต่ในฐานะนักสู้ ผมต้องการพัฒนาตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะเป็นด้านมวยไทยหรือคิกบ็อกซิ่งก็ตาม ซึ่งในตอนนี้เมื่อผมได้แชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งมาแล้ว ความท้าทายต่อไปก็คือการชิงแชมป์โลกมวยไทย และผมก็มั่นใจว่าเข็มขัดเส้นนี้อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมครับ”