หนักกว่าเธอก็เจอมาแล้ว “ทิฟฟานี เตียว” ไม่หวั่นเกมล็อก “อายากะ”
หลังหลุดพ้นจากฝันร้ายจากอาการบาดเจ็บที่ทำให้เธอต้องร้างสังเวียนไปกว่าหนึ่ง “No Chill” ทิฟฟานี เตียว พร้อมแล้วที่จะหวนคืนสังเวียนอย่างยิ่งใหญ่ในบ้านเกิด
นักสู้สาวชาวสิงคโปร์จำใจถอนตัวจากการลงแข่งกับ “ไมรา มาซาร์” เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน เพราะอาการบาดเจ็บที่ดวงตา แต่ตอนนี้เธอหายดีเป็นปลิดทิ้ง และพร้อมที่จะงัดกับดาวรุ่งสาวแดนซากูระ “อายากะ มิอูระ” ในศึก ONE: KING OF THE JUNGLE ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งผู้ชนะจะได้กลายเป็นตัวเต็งขึ้นท้าชิงแชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวตทันที
“รู้สึกยาวนานเหลือเกินกว่าจะได้กลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้ง แต่ตอนนี้ฉันหายดีแล้ว และดีใจที่ในที่สุดก็ได้กลับมาลงแข่งเสียที”
การกลับขึ้นสังเวียนของ “No Chill’s” ต้องถูกเลื่อนออกไป เมื่อเธอทราบข่าวร้ายชวนช็อกว่า อาการบาดเจ็บนี้อาจจะส่งผลรุนแรงต่ออนาคตนักกีฬาของเธอ
ขณะนั้นเธอกำลังฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวลงแข่งขันในรายการ ONE: EDGE OF GREATNESS ที่งวดเข้ามาทุกที แต่เธอกลับเสียการทรงตัวเมื่อแพทย์ระบุว่าเธอไม่ผ่านการตรวจสุขภาพ
“ระหว่างการตรวจเช็คร่างกายก่อนแข่งขัน จักษุแพทย์แจ้งว่า ฉันมีรอยฉีกเล็กๆ ในเรตินา และแนะนำให้ฉันเข้ารับการผ่าตัดทันที ซึ่งตอนนั้นมันเหลือเวลาอีกแค่ 2-3 อาทิตย์ แต่ฉันก็ต้องหยุดทุกอย่างและหันไปให้ความสำคัญกับการผ่าตัดและพักฟื้น”
ทิฟฟานี ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน และไม่รู้อนาคต เธอวิตกกังวลกับกระบวนการรักษาและการพักฟื้นหลังจากนั้น
“เกิดมาฉันเพิ่งเคยบาดเจ็บแบบนี้ แถมไม่รู้จักใครที่เคยเป็นมาก่อน เพื่อที่จะขอแนะนำได้เลย ฉันนึกไม่ออกว่าการผ่าตัดจะเป็นยังไง จะใช้เวลาพักฟื้นนานแค่ไหน ฉันมีอาการซึมเศร้าเล็กๆ และต้องถอยออกมาก้าวหนึ่งเพื่อตั้งสติ แล้วค่อยๆ แก้ไขไปทีละเรื่อง”
เพราะอวัยวะที่เธอต้องรักษานั้นมีความบอบบางมาก นักสู้จากแดนสิงโตวัย 30 ปี จึงต้องพักอยู่เฉยๆ ไม่ฝึกซ้อมอะไรทั้งนั้น และไปเช็คอาการเป็นระยะทุกๆ สองสัปดาห์ตามที่แพทย์สั่ง
สำหรับนักกีฬาที่เคยออกกำลังและฝึกซ้อมเป็นประจำ มันคงน่าหงุดหงิดมาก แต่เมื่อเธอมองการณ์ไกลถึงเป้าหมายที่เธอตั้งใจไว้ เธอก็สามารถข้ามผ่านจุดนั้นมาได้ และวันนี้เธอพร้อมสมบูรณ์แล้วที่จะกลับมารับความท้าทายอีกครั้ง
“สิ่งสำคัญที่ฉันได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นี้คือ จงเชื่อมั่นในกระบวนการ โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับอุปสรรคที่ไม่อาจบอกได้ว่าอะไรรออยู่ข้างหน้า เราอาจเลี้ยวออกข้างทางก่อนจะถึงเส้นชัยได้ แต่ต้องเตือนตัวเองเสมอว่าปลายทางคืออะไร และเดินไปตามเส้นทางนั้น”
ในที่สุดเรื่องนี้ก็กลายเป็นความหลัง แต่ปัจจุบัน ทิฟฟานี อดีตผู้ท้าชิงแชมป์โลก ONE รุ่นสตอว์เวต ไม่รอช้าที่จะเร่งเครื่องกลับเข้ามาเป็นตัวเต็งในการกระชากเข็มขัดจากแชมป์คนปัจจุบันอย่าง “The Panda” ซง จิง หนาน แต่การที่จะไปถึงจุดนั้น เธอต้องฝ่าด่านสำคัญที่กำลังรออยู่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
“อายากะ มิอูระ” เป็นนักยูโดสายดำดั้งสาม เธอเก็บชัยชนะต่อเนื่องมาแล้ว 6 ครั้ง โดย 3 ครั้งหลังเป็นการแข่งขันใน “บ้านแห่งศิลปะการต่อสู้” วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งเธอแผลงฤทธิ์ซับมิชชันคู่ต่อสู้ทั้งสามด้วยท่า scarf-hold Americana อันเป็นทีเด็ดของเธอ และเธอมั่นใจว่าจะสามารถสานต่อสถิติไร้พ่ายได้อีกครั้งในการแข่งขันที่สิงคโปร์
ด้าน ทิฟฟานี เคยโชว์ผลงานการรับมือกับตัวแม่ด้านการปล้ำจับล็อก ดีกรีแชมป์โลกบราซิลเลียนยิวยิตสู 8 สมัยอย่าง “มิเชลล์ นิโคลินี” มาแล้ว โดยเธอสามารถแก้สถานการณ์และเอาตัวรอดจากการถูกล็อกมาได้ทุกครั้ง แถมยังใช้ความได้เปรียบในเกมยืนสู้จากดีกรีแชมป์มวยสากลหญิงเล่นงานคู่แข่ง จนสามารถคว้าชัยชนะมาได้อย่างเป็นเอกฉันท์ ซึ่งชัยชนะครั้งนั้นเป็นแบ็คกราวด์ความมั่นใจให้กับเธอได้อย่างมหาศาล
“ฉันคิดว่าจะใช้ยุทธวิธีที่แตกต่างจากตอนสู้กับ มิเชลล์ ซึ่ง อายากะ เองก็เก่งเรื่องการปล้ำจับล็อกเหมือนฉัน และฉันเชื่อว่าเราจะดวลกันในเกมภาคพื้นอย่างสนุกแน่ แต่คงจะยากสักหน่อยถ้าเธอคิดจะรวบฉัน”
“ที่ผ่านมาคู่แข่งคนอื่นของเธอพยายามจะเลี่ยงไม่ไปสู้กับเธอที่พื้น เพราะรู้กิตติศัพท์ของเธอดี แต่สำหรับฉัน ฉันมั่นใจในเกมนอนของตัวเองมากทีเดียว ฉันจะไม่หนี และถ้ามีโอกาสซับมิชชันได้ ฉันก็จะทำ”
“ฉันพอมองออกว่าศึกนี้อาจเป็นไปได้สองทิศทาง เราอาจสู้กันจนครบสามยก หรืออาจจะจบลงด้วยการซับมิชชัน แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ฉันก็จะลงจากเวทีในฐานะผู้ชนะ”
อ่านเพิ่มเติม: