“เดนิส” มองข้ามช็อต ถ้าโค่น “เม” ได้รายต่อไปขอเจอ “แองเจลา ลี”
“The Menace Fairtex” เดนิส แซมโบอันกา นักสู้สาวสายเลือดตากาล็อกที่ย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ภายใต้การดูแลของค่ายแฟร์เท็กซ์ พัทยา มั่นใจว่าเธอคู่ควรกับตำแหน่งผู้ท้าชิงแชมป์โลก ONE รุ่นอะตอมเวต หากสามารถโค่นหนึ่งในตัวท็อปของรุ่นอย่าง “V.V.” เม ยามากูชิ ได้ในวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์นี้
เดนิส ยอมรับว่าเกือบตั้งตัวไม่ทันเมื่อได้รับข้อเสนอให้ลงแข่งขันในศึก ONE: KING OF THE JUNGLE ที่สิงคโปร์ โดยมีเวลาเตรียมตัวไม่ถึงเดือน แต่เมื่อเป้าหมายมีไว้พุ่งชน และคู่แข่งรายนี้ก็เป็นบันไดสำคัญที่สามารถส่งให้เธอก้าวขึ้นไปเจอกับตัวแม่ของรุ่นอย่าง “Unstoppable” แองเจลา ลี เธอจึงน้อมรับคำท้าอย่างไม่ลังเล
“ตอนนั้นฉันอยู่ที่ฟิลิบปินส์ ทางค่ายแฟร์เท็กซ์โทรถามว่าฉันจะรับศึกนี้ไหม และให้เวลาฉันตัดสินใจหนึ่งวัน ฉันตอบโอเค ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงพักของฉันที่จะได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวช่วงเทศกาลวันหยุด ไม่กี่วันต่อมา ฉันขึ้นเครื่องกลับเข้าค่ายเลย”
“ฉันเชื่อว่าการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นบันไดให้ฉันเข้าใกล้ตำแหน่งผู้ท้าชิงขึ้นไปอีก ถ้าฉันแพ้ มันก็เป็นการแพ้ให้กับตัวท็อปคนหนึ่งของรุ่น แต่ถ้าฉันชนะ มันจะเป็นชัยชนะครั้งสำคัญ ฉันมีแต่ได้กับได้ ไม่มีอะไรจะเสีย แต่ฉันไม่วางแผนเพื่อที่จะไปแพ้แน่นอน”
“ถ้าเอาชนะ เม ได้ฉันจะขอเจอ แองเจลา ลี เป็นรายต่อไป”
เม ยามากูชิ เคยเผชิญหน้ากับแชมป์โลก ONE รุ่นอะตอมเวต อย่าง แองเจลา ลี มาแล้วสองครั้งและพ่ายไปอย่างเฉียดฉิว เธอถือเป็นหนึ่งตัวเอกของรุ่น เจ้าของชัยชนะต่อเนื่อง 4 ไฟต์ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 แน่นอนว่าเธอจะไม่ยอมให้ เดนิส ผ่านบททดสอบนี้ไปอย่างง่ายๆ แน่นอน
https://www.instagram.com/p/Bw01oSFhgF7/
“ฉันย้อนดูการแข่งของ เม และเธอก็เคยสู้กับ เจนนี ฮวง สองครั้ง ซึ่ง เจนนี ซ้อมอยู่ที่แฟร์เท็กซ์ และเราเป็นคู่ซ้อมด้วยกันบ่อยมาก ฉันจึงเชื่อว่าฉันสามารถรับมือของ เม ได้”
“เม เก่งด้านเกมภาคพื้น และทักษะมวยปล้ำก็เยี่ยมมาก ฉันจึงต้องรักษาระยะและหาโอกาสโจมตีด้วยการยืนสู้ ซึ่งมันอาจแตกต่างจากที่ทุกคนเคยเห็น ฉันยังไม่พอใจกับฟอร์มการแข่งขันในไฟต์ล่าสุดเท่าไหร่ แต่ฉันจะชดเชยมันในไฟต์นี้”
แม้ เดนิส จะไม่ประทับใจกับไฟต์ที่ผ่านมาซึ่งเป็นไฟต์เปิดตัวของเธอใน วัน แชมเปียนชิพ และต้องยอมรับว่าเธอเจองานหนักตั้งแต่นัดแรกกับคู่แข่งพรสวรรค์สูงของรุ่นนี้อย่าง “Shadow Cat” จีฮิน รัดซวน ซึ่งวันนั้นอยู่ในฐานะเจ้าบ้าน และมีกองเชียร์หนุนหลังแน่นสนาม แต่ เดนิส ก็ทำเอาผู้ชมชาวมาเลเซียถึงกับเงียบกริบ หลังเปิดเกมบุกเล่นงานฮีโร่เจ้าถิ่น ก่อนคว้าชัยอย่างเป็นเอกฉันท์
การต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งมากประสบการณ์จากแดนอาทิตย์อุทัยวัย 37 ปี ในขณะที่ เดนิส อายุ 23 ปี เธอเชื่อว่ายังมีช่องว่างและความได้เปรียบบางอย่างที่อาจนำเธอไปสู่ชัยชนะที่กำลังจะเกิดขึ้นที่แดนสิงโต ทั้งเรื่องของเกมยืนสู้ และการป้องกันตัวในเกมภาคพื้น
“ฉันคิดว่าช่วงชกของฉันได้เปรียบกว่า และคิดว่าสามารถจับเธอลงพื้นได้ หากเราต้องอยู่ในเกมนอนสู้ ฉันก็จะรับมือกับเกมปล้ำและพยายามอยู่เหนือเธอ เหมือนอย่างที่ฉันเคยทำกับ จีฮิน เมื่อไฟต์ที่แล้ว”
อ่านเพิ่มเติม: