“เพชรมรกต” แบกเข็มขัดแชมป์โลกกลับไทย นับถือหัวจิตหัวใจคู่แข่ง “พงษ์ศิริ”
“เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี“ นักมวยไทยระดับแถวหน้าของประเทศวัย 25 ปี ลงจากสนามอิสโตรา เสนายัน ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยจารึกชื่อของตัวเองไว้บนหน้าประวัติศาสตร์ของ วัน แชมเปียนชิพ หลังเปิดศึกกับ “พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ในศึก ONE: WARRIOR’S CODE เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนคว้าเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ ด้วยชัยชนะอย่างเป็นเอกฉันท์
“คู่มวยฟ้าลิขิต” ที่ฟ้าขีดเส้นทางให้มาเจอกันอย่างปัจจุบันทันด่วน เนื่องจากการเปลี่ยนคู่ชกเพราะเหตุสุดวิสัยในช่วงโค้งสุดท้าย แต่ในที่สุดก็ได้นักมวยหัวใจใหญ่กว่าตับอย่าง พงษ์ศิริ มาขัดตาทัพ ภายใต้ข้อจำกัดที่ว่ามีเวลาจัดหาและฝึกซ้อมเพียงแค่ 2 วันก่อนการแข่งขัน
การเจอกันของทั้งคู่เริ่มต้นขึ้นภายใต้กติกามวยไทย 5 ยกในรุ่นเฟเธอร์เวต (65.9-70.3 กก.) โดยได้ผ่านการชั่งน้ำหนัก วัดระดับน้ำในร่างกาย และตรวจสุขภาพทั้งหมดอย่างครบถ้วนตามกฎกติกาสากลของ วัน แชมเปียนชิพ ซึ่งในวันชั่งน้ำหนัก เพชรมรกต ชั่งได้ 70.3 กก. ขณะที่ พงษ์ศิริ ชั่งได้ 70.2 กก.
ทันทีที่เสียงระฆังยกแรกดังขึ้น เพชรมรกต ซึ่งได้เปรียบเรื่องความสูงและช่วงชกกว่าถึง 11 ซม. จึงใช้ประโยชน์จากจุดนี้ในการสกัดคู่ต่อสู้ ด้วยลูกแย็บและถีบ เพื่อไม่ให้ พงษ์ศิริ เข้ามาระยะประชิด ก่อนจะเสยด้วยหมัดซ้ายและแข้งซ้ายสูงทำคะแนนนำไป แถมยังได้ลูกถีบหน้าเต็มๆ
ขณะที่นักมวยจากค่าย พี.เค.แสนชัยฯ ยังพยายามหาทางแก้เกมเพื่อฝ่าด่านเข้าไปประชิด ด้วยการเดินหน้าบุกพร้อมสวนลูกเตะขวาสลับออกหมัดชุด แต่ยังไม่จะแจ้งนัก
เพชรมรกต เปิดเกมยกสองด้วยการถลุงหมัดใส่คู่ต่อสู้ ก่อนที่จะสาดแข้งซ้ายเข้าลำตัวและศีรษะ ขณะที่อีกฝ่ายตอบโต้ได้บ้างด้วยการอาศัยจังหวะรับลูกเตะและจับขา เพชรมรกต ไว้และสวนหมัดตอบโต้ แต่ก็ถูกนักมวยค่ายเพชรยินดีฯ ประเคนศอกเข้าเต็มๆ
นักมวยหนุ่มจากอุบลราชธานีออกอาการมั่นใจเมื่อเห็นคู่ต่อสู้ยังหาทางแก้เกมไม่ได้ จึงใช้แผนเดิมดำเนินการต่อด้วยการสาดแข้ง ประเคนเข่า แม้ พงษ์ศิริ จะพยายามเหวี่ยงหมัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ระยะที่เข้าทำนั้นเป็นอุปสรรคเหลือเกิน
ขึ้นยกสาม พงษ์ศิริ ไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินหน้าลุยแหลกตามสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัวซึ่งเป็นนักมวยที่ไม่มีเกียร์ถอย พร้อมกับเปลี่ยนแผนมาโจมตีด้วยลูกเตะล่าง แต่ก็ต้องแลกกับการรับประทานหมัดและเข่าเมื่อเข้าระยะประชิด
ทั้งสองขับเคี่ยวกันอย่างไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนแรง และเมื่อมั่นใจว่าคุมเกมอยู่ เพชรมรกต จึงเป็นฝ่ายเริ่มถอยและดักจังหวะสอง
การแข่งขันยังดำเนินไปอย่างที่ผู้ชมไม่อยากละสายตา เมื่อ พงษ์ศิริ ยังชวนทะเลาะไม่เลิก โดยพยายามเข้าไปคลุกวงในแบบไม่มีอะไรจะเสีย โดยถลุงหมัด ฟาดแข้งใส่ เพชรมรกต ได้จังๆ หลายครั้ง เรียกเสียงจากกองเชียร์ชาวอินโดนีเซียลั่นสนาม
เข้าสู่โค้งสุดท้าย เพชรมรกต เหมือนรู้ตัวว่าชัยชนะกำลังรออยู่แล้ว จึงได้แต่ประคองเกมไว้ ในขณะที่อีกฝ่ายยังไม่เลิกล้มความพยายาม และได้โอกาสเตะกวาดคู่ต่อสู้ที่ตัวสูงกว่าลงพื้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะสามารถทำคะแนนไล่ตามทันได้
หลังการแข่งขัน 15 นาทีผ่านไป สองนักชกจากค่ายมวยใหญ่ในกรุงเทพมหานคร ยืนรอฟังผลการตัดสินอย่างใจจดใจจ่อ โดยกรรมการทั้งสามลงความเห็นมอบเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ให้ “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” ไปครอบครองเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของ วัน แชมเปียนชิพ
ทั้งคู่เข้าสวมกอดและแสดงความนับถือต่อกัน เป็นภาพที่ทำให้แฟนๆ สุดประทับใจ หลังพิธีกรบนเวทียิงคำถามความรู้สึกไฟต์นี้ เพชรมรกต ก็ยอมรับว่าตนดีใจที่ได้ครองเข็มขัดแชมป์โลก ONE แต่ก็ไม่ลืมที่จะพูดถึงคู่แข่งขันของตัวเอง
“ผมขอชื่นชมคู่ต่อสู้ของผมครับ เขามาเต็มที่ พยายามต่อยกันแบบสนุก พี่เขาเก่งมากครับ”
“(สำหรับไฟต์ต่อไป) ผมแล้วแต่ทาง วัน แชมเปียนชิพ ผมพร้อมต่อยเสมอครับ”
นับว่า “เพชรมรกต เพชรยินดีอะคาเดมี” เป็นแชมป์โลกชาวไทยคนที่ 7 ที่ได้ครอบครองเข็มขัดแชมป์โลก วัน แชมเปียนชิพ โดยเข็มขัดเส้นนี้เป็นเส้นที่ 6 ที่ยังอยู่บนแผ่นดินสยามในปัจจุบัน
อ่านเพิ่มเติม: เจาะใจ “เพชรมรกต vs พงษ์ศิริ” เปิดศึกเดือดแบบไม่ได้นัดหมาย
ONE: WARRIOR’S CODE | จาการ์ตา อินโดนีเซีย | 7 กุมภาพันธ์ 2563 | 17.30 น. ตามเวลาไทย | รับชมทาง ONE Super APP เวลา 17.30 น. | ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เวลา 22.40 น.