“เรเน คาตาลัน” เผยสาเหตุรับดวล “โจชัว พาซิโอ
เดิมที “The Challenger” เรเน คาตาลัน ไม่ต้องการที่จะแข่งขันกับนักสู้ชาติเดียวกันอย่าง “The Passion” โจชัว พาซิโอ แต่เมื่อศักดิ์ศรีถูกย่ำยี ก็ทำให้เขาเปลี่ยนใจ
วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายนนี้ นักสู้จากค่ายคาตาลัน ไฟติ้ง ซิสเต็ม (CFS) รับคำท้าดวลกับดาวดังรุ่นน้องจากทีมลาไคย์ เพื่อชิงบัลลังก์แชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวต ในฐานะคู่เอกของศึก ONE: MASTERS OF FATE ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
แม้เขามีเป้าหมายที่จะไปให้ถึงจุดสูงสุด แต่ก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาสู้กับเพื่อนร่วมชาติฟิลิปปินส์ด้วยกัน แต่ด้วยความบีบคั้นบางอย่างทำให้นักสู้วัย 40 ปี เกิดแรงฮึดที่จะลุกขึ้นมา และนี่คือสาเหตุที่ทำให้สองเจ้าถิ่นขึ้นสังเวียนฟาดฟันกันเอง
ONE: คุณเคยตั้งใจว่าจะไม่สู้กับคู่ต่อกรชาติเดียวกัน อะไรคือสาเหตุที่ทำให้คุณเปลี่ยนใจ
เรเน คาตาลัน: ผมไม่ค่อยชอบใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับผม ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้พูดอะไรถึงเขาเลย ผมปฏิเสธไฟต์นี้ไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เพราะไม่อยากสู้กับคนฟิลิปปินส์ด้วยกัน อีกทั้งผมเองก็แฮปปี้ที่ได้เห็นเพื่อนร่วมชาติเป็นแชมป์โลก และผมก็พร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่
แต่ พาซิโอ ได้โพสต์ว่าเขาสามารถคว่ำผมได้ในเวลาไม่ถึง 15 นาที ผมไม่ทราบว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่เมื่อมีสื่อถามผมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมก็แค่ตอบไปว่า งั้นก็คอยดูก็แล้วกัน
หลังจากนั้น เขาก็โพสต์ว่า เขาไม่เคยพูดอะไรแบบนั้นเลย ทำให้ผมถูกโจมตีจากกองเชียร์ของทีมลาไคย์ ผมไม่ได้มีกำลังหนุนแบบนั้น มีแต่เพียงแฟนกลุ่มหนึ่งที่สนับสนุน และกองเชียร์เหล่านั้นก็ดูจะทำกันเกินไป จนกลุ่มกองเชียร์ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานอีกหลายกลุ่มเข้ามาผสมโรงด้วย
จริงอยู่ เราเองก็มีความเป็นคู่แข่งกับทีมลาไคย์เป็นเวลากว่าทศวรรษ เพราะเขาก็เป็นหนึ่งในท็อปทีมของประเทศนี้ ซึ่งเราเองก็มองเขาอยู่ เพราะเราก็อยากที่จะไปให้ถึงจุดนั้นเหมือนกัน เราเข้าใจดีว่าพวกเขาต้องเสียสละตัวเองแค่ไหนเพื่อไปให้ถึงจุดนี้ เขาต้องจากครอบครัวเพื่อมาฝึกซ้อม ต้องลงทุนกับค่าใช้จ่ายต่างๆ และต้องลงแรงเพื่อต่อสู้กับนักสู้ทุกคนเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จ
ผมเชื่อว่าพวกเขามีชีวิตอยู่อย่างรู้คุณค่าของศิลปะการต่อสู้ จนฝ่าฝันอุปสรรคต่างๆ มาได้ ผมบอกนักกีฬาของผมเสมอว่า อย่าไปอิจฉาพวกเขาหรือใครๆ แต่ให้โฟกัสไปที่ความท้าทายที่พวกเขาต้องเจอและวิธีรับมือจะดีกว่า เพราะการจะไปให้ถึงจุดหมายเดียวกับเขาได้ เราก็จำเป็นต้องผ่านสิ่งต่างๆ เหล่านี้เช่นกัน ฉะนั้นเราควรเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ
ขณะที่ผมชื่นชมทีมของเขา ชนวนที่นำมาซึ่งไฟต์นี้ กลับเกิดขึ้นจากกองเชียร์ที่พยายามพูดถึงผมและทีมในแง่ลบ และเมื่อมาถึงจุดหนึ่ง ผมก็จำเป็นต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของผมและทีมด้วยเช่นกัน
- เก็งผล ONE FANTASY ของ 5 ขุนศึกไทยในศึก ONE: MASTERS OF FATE
- ศิลปะการต่อสู้ช่วยจุดประกายความหวัง ความสำเร็จ แด่ชาวฟิลิปปินส์
- “เอดูอาร์ด โฟลายัง” เตรียมดวลเดือด “โซกูคู” ในเวทีบ้านเกิด
ONE: ไฟต์นี้เป็นโอกาสในการพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า CFS พร้อมแล้วสำหรับการโค่นทีมลาไคย์ในฐานะอันดับหนึ่งของประเทศหรือไม่
เรเน คาตาลัน: พวกเขาเป็นท็อปทีม ที่เกือบทุกคนมักจะนึกถึงเป็นชื่อแรกๆ เสมอเมื่อพูดถึงกีฬาการต่อสู้ บางคนก็เข้าใจว่าผมอยู่ทีมลาไคย์ เพราะเห็นผมเป็นคนฟิลิปปินส์ที่ฝึกกีฬาศิลปะการต่อสู้
พวกเขาอยู่ในจุดนี้มานับสิบปี ซึ่งมันก็สมควรแล้ว หากเราสั่งสมเวลามากกว่านี้สักหน่อย ผมก็หวังว่าทีมของผมจะไปถึงจุดนั้นเช่นกัน หรืออย่างน้อยที่สุดก็ขอให้เป็นหนึ่งในท็อปทีมที่มีโอกาสปั้นนักสู้ให้เฉิดฉายในอนาคต
ผมต้องการใช้ความเป็นท็อปทีมในการพัฒนาวงการศิลปะการต่อสู้ของฟิลิปปินส์ เป้าหมายของผมคือการสนับสนุนนักกีฬาท้องถิ่น นี่แหละคือเหตุผลที่ผมตัดสินใจไม่กลับไปประเทศแคนาดาในตอนที่มีโอกาส รวมถึงปฏิเสธข้อเสนอจากหลายๆ ประเทศ
ผมจัดตั้งค่ายคาตาลัน ไฟติ้ง ซิสเต็ม ขึ้นที่นี่ และผมต้องการผลักดันให้มันเติบโตขึ้น เพื่อจะได้มีศักยภาพในการสนับสนุนนักกีฬาฝีมือดีที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ และสนับสนุนพวกเขาให้มีโอกาสเลี้ยงดูครอบครัวได้ในอนาคต
ONE: หากตัดเรื่องการต้องสู้กับเพื่อนร่วมชาติออกไป คุณคิดอย่างไรกับการได้เป็นส่วนหนึ่งของการชิงแชมป์โลก ที่กรุงมะนิลา
เรเน คาตาลัน: ในฐานะชาวฟิลิปปินส์ ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มาถึงจุดนี้ ผมรู้สึกขอบคุณที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ ได้เป็นคู่เอกของศึกที่ยอดฝีมือมาเจอกัน โดยมีเข็มขัดแชมป์โลกเป็นเดิมพัน
ผมดีใจ รู้สึกเป็นเกียรติ และขอบคุณกับโอกาสที่ได้รับในการต่อสู้บนเวทีอันยิ่งใหญ่ในฐานะคู่เอกของศึกนี้
เป้าหมายของผมคือชัยชนะ ไม่ใช่เพื่อตัวผมเอง แต่เพื่อให้ตำแหน่งแชมป์โลกได้อยู่กับคนที่เหมาะสม แน่นอนว่าผมคงดีใจหากผมได้รับชัยชนะ แต่คงไม่มากเท่ากับที่จินตนาการไว้ เพราะมันคือการกระชากเข็มขัดแชมป์โลกมาจากชาวฟิลิปปินส์ด้วยกันเอง
ONE: การได้ขึ้นชิงแชมป์โลกมีความหมายกับคุณอย่างไร
เรเน คาตาลัน: ในฐานะนักสู้ การได้ชิงแชมป์โลกคือรางวัลตอบแทนการทำงานอย่างหนักตลอดช่วงที่ผ่านมา นักกีฬาทุกคนล้วนใฝ่ฝันถึงโอกาสนี้กันทั้งสิ้น และตอนนี้ผมก็ได้รับสิ่งนั้น
มันสำคัญกับผมมาก เพราะวันหนึ่งผมก็อยากนำเข็มขัดแชมป์โลกไปให้แฟนๆ ทั่วประเทศได้ชื่นชม พร้อมกับแบ่งปันประสบการณ์ที่ทำให้ผมบรรลุเป้าหมายนี้ได้ ผมต้องการให้ทุกคนเห็นว่า ผมต้องฝ่าฟันอะไรบ้างกว่าจะมาถึงจุดหมายที่น้อยคนนักจะได้สัมผัส
ONE: มีอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษในตัว โจชัว
เรเน คาตาลัน: ผมคิดว่าความกดดันในการเดินเกมเร็วเป็นสิ่งที่ผมต้องระวัง พวกเขารู้อยู่แล้วว่าผมเป็นนักวูซู แต่ผมไม่ใช่หนุ่มๆ แล้ว ผมคิดว่าเขาคงเตรียมตัวมาแบบครบเครื่อง และคงไม่ใช่เปิดช่องให้ผมง่ายๆ
ONE: คุณมีแผนจัดการจุดแข็งของเขาอย่างไร
เรเน คาตาลัน: ผมเตรียมตัวมาเพื่อรับมือกับทุกอย่างที่เขาอาจใช้เล่นงานผม ผมฝึกซ้อมทั้งเกมนอนและยืนสู้ เพื่อต่อกรกับกลยุทธที่เขาน่าจะหยิบมาใช้ ผมไม่กังวลเรื่องรูปเกมสักเท่าไหร่ เพราะผมรู้ดีว่าเขาได้ทั้งสองอย่าง และมีการเตรียมพร้อมในทุกด้านอย่างสุดยอด แต่ผมก็เชื่อว่าผมสามารถที่จะรับมือเขาได้
ONE: คุณมองเห็นโอกาสในการต่อสู้ตรงไหนบ้าง
เรเน คาตาลัน: เราทุกคนต่างรู้ว่า โยซูเกะ ซารูตะ เป็นนักปล้ำจับล็อกชั้นยอด และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เราเห็นเขา (พาซิโอ) เจอกับงานยาก ผมคงทำแบบเดียวกันไม่ได้ ประการแรกคือเวลาในการเตรียมตัวผมค่อนข้างน้อย และอีกอย่างทักษะการจับล็อกของผมเองก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับซารูตะ
อย่างไรก็ตาม ผมเห็นการโจมตีของคู่ต่อสู้คนก่อนๆ ของเขา ซึ่งมันใช้ได้ผล และผมจะนำมาผสมกับอาวุธที่ผมมีเพื่อเล่นงานเขาในไฟต์นี้