“โมโมทาโร” ช็อก น็อก “สิงห์ทองน้อย” เร็วเกินคาดหมาย
“โมโมทาโร” โคเฮอิ โคเดระ คาดไม่ถึงว่าจะคว้าชัยเหนือตำนานมวยไทยได้อย่างง่ายดายขนาดนี้
แม้ว่านักชกหนุ่มสุดแกร่งจากแดนอาทิตย์อุทัยจะมั่นใจในการล้ม “สิงห์ทองน้อย ป.เตละกุล” ในศึก ONE: IMMORTAL TRIUMPH ที่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม แต่เขายอมรับว่า ยังรู้สึกประหม่ากับการเผชิญหน้าเจ้าตำนานดีกรีอดีตแชมป์สนามมวยเวทีลุมพินีและแชมป์โลก WMC มวยไทยรายนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อ “โมโมทาโร” ก้าวขึ้นสังเวียนฝูเถาะ อินดอร์ สเตเดียม เมื่อวันศุกร์ที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา นักสู้วัย 29 ปีดูไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรีของคู่แข่งเลยแม้แต่น้อย
และภายในเวลาไม่ถึงนาที “โมโมทาโร” ก็ประเคนหมัด ศอก เข่า เป็นชุด อย่างสุดกำลัง ส่งนักชกไทยจากค่าย Evolve ร่วงลงผืนผ้าใบ
“การเจอคู่ต่อสู้ระดับท็อปอย่างสิงห์ทองน้อย ทำให้ผมรู้สึกประหม่าไม่น้อย”
“ผมโล่งใจที่คว้าชัยชนะมาได้ ผมเตรียมตัวเป็นอย่างดีสำหรับการชกทั้งสามยก แต่การชนะแบบนั้นทำเอาผมช็อกอยู่เหมือนกัน สิงห์ทองน้อยเคยชนะ ‘มาซาฮิเดะ คูโด’ และมีสถิติการชกกว่า 300 ไฟต์ ผมตื่นเต้นและลุ้นว่าผมจะทำอะไรได้บ้าง พูดจริงๆ ผมกังวลอยู่มาก”
“ผมซ้อมอย่างต่อเนื่อง และก็แค่ขึ้นไปเวที เพื่อทำในสิ่งที่ฝึกฝนมา ซึ่งมันสัมฤทธิ์ผล”
นักสู้จากค่าย Oguni Gym ของกรุงโตเกียว คาดว่าศอกจะเป็นอาวุธที่เขาจะใช้จัดการคู่ต่อสู้ ทว่าชัยชนะครั้งนี้มาจาก “ศาสตร์แห่งอาวุธทั้งแปด” ที่เขางัดออกมาใช้งานทั้งหมด
ด้วยจังหวะเวลาที่เหมาะเจาะพอดี “โมโมทาโร” สวนหมัดหันหลังกลับ ปะทะเข้าใบหน้ายอดมวยชาวไทยอย่างจัง ก่อนตามไปประเคนหมัด ศอก เข่า เป็นชุด
สิงห์ทองน้อยประคองร่างขึ้นมาอย่างโซซัดโซเซ กรรมการบนเวทีจึงตัดสินใจโบกมือยุติการแข่งขัน
“ผมคิดว่ามันน่าสนใจไม่น้อยหากเอาชนะนักมวยไทยด้วยศอก แต่ผมเซอร์ไพรส์มากที่สามารถน็อกเขาได้เร็วขนาดนั้น”
“ผมดูเชิงเขาในช่วงแรกๆ จากการเตะ และคิดว่า ‘ถ้าความเร็วระดับนี้ ผมรับมือได้’ หลังจากนั้นผมก็เริ่มออกสเต็ปและเตะ ก่อนจะหาจังหวะหมุนตัวและฟาดด้วยหลังมือตามที่ผมได้ซ้อมมา”
“ไม่น่าเชื่อเลยว่ามันจะได้ผล ผมเห็นเขาเริ่มออกอาการ ผมจึงตามไปเล่นงาน ทั้งหมัด เข่า และศอกเป็นชุด ผมคิดว่าจะน็อกเขาด้วยหมัด และมันก็เป็นไปตามที่ผมซ้อมมาทุกอย่าง แต่ผมไม่ได้คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้ หมัดซ้ายผมตรงเข้าคางเขาเต็มๆ เป็นอันจบ”
นักชกชาวไทยวัย 39 ปีพยายามฟื้นตัวกลับมาสู้ต่อ แต่ยังเมาหมัดและประคองร่างขึ้นมาอย่างโซซัดโซเซ ทำให้กรรมการโบกมือยุติการแข่งขันไว้เพียง 41 วินาทีเท่านั้น
นี่คือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่และเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมในอาชีพของ “โมโมทาโร” ซึ่งกรุยทางให้เขาก้าวสู่ระดับที่สูงขึ้นไปในรุ่นฟลายเวตของ วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ กับการเผชิญหน้ายอดฝีมือตัวท็อปของรุ่นนี้ หรือแม้แต่การท้าชิงแชมป์โลก
การปิดจ๊อบอย่างรวดเร็วทำให้นักชกจากแดนอาทิตย์อุทัยแทบจะไม่เจ็บตัวเลย ดังนั้นเขาพร้อมที่จะกลับเข้าค่ายอย่างเร็วที่สุด
“ผมอยากขึ้นชกกับนักมวยไทยระดับแนวหน้า หรือนักชกจากยุโรปอย่าง ‘โจนาธาน แฮกเกอร์ตี’ ผมไม่รู้ว่าผมจะได้ขึ้นสังเวียนอีกครั้งเมื่อไหร่ แต่ผมจะตอบรับโอกาสนั้นทันที ตอนนี้ผมจะเดินหน้าเตรียมพร้อมสำหรับไฟต์ต่อไป”
“ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี และผมได้รับชัยชนะในครั้งนี้ ไม่ว่าผมจะเจอใครในครั้งต่อไป ผมจะไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังแน่นอน ผมต้องการให้โลกได้รับรู้ว่า ‘โมโมทาโร’ จากญี่ปุ่นคนนี้แข็งแกร่งแค่ไหน”
ยังมีโอกาสอีกมากมายสำหรับแชมป์โลก WBC มวยไทยในการกลับสู่สังเวียน วัน แชมเปียชิพ ในปีนี้ แม้ว่าศึก ONE: CENTURY ที่ญี่ปุ่นจะวางตัวครบหมดแล้ว แต่ก่อนสิ้นปี 2019 นี้ “บ้านแห่งศิลปะการต่อสู้” ยังมีการแข่งขันที่ มะนิลา, จาการ์ตา, ปักกิ่ง, สิงคโปร์ และกัวลาลัมเปอร์
ไม่ว่าจะเป็นประเทศใด เชื่อว่า โคเดระ พร้อมจะขึ้นสังเวียนอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม เขาอยากกลับมายังเวียดนามอีกครั้งสำหรับการแข่งขันครั้งหน้าในปี 2020
“ทุกคนที่ผมพบในเวียดนามอบอุ่นมาก ไม่ว่าจะเป็นที่โรงแรมหรือที่อื่นๆ ผมพูดคุยกับพนักงานที่ร้านอาหารและเขาก็ตามมาดูผมชกที่สนาม”
“ก่อนที่ผมจะเดินทางกลับ ผมได้เจอพวกเขาอีกครั้ง และพวกเขาดูมีความสุขมาก ผมยังเป็นเพื่อนกับพวกเขาในเฟซบุ๊กด้วยนะ และเราพูดคุยกันผ่านแชท ซึ่งก็หวังว่าเราจะได้พบกันอีกที่เวียดนาม ดังนั้นผมจึงอยากกลับไปที่นั่นอีกครั้งหากมีโอกาส”