“ครูรงค์” รับคำท้าล้างตาดาวรุ่งแดนโรตี ถ้ายังเจ็บไม่พอจะขออีกทีก็ย่อมได้
“ครูรงค์” เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค อดีตแชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวต คนแรกและคนเดียวของประเทศไทย หลังได้รับคำท้าจากคู่ปรับเก่า “ฮิมานชู เคาชิก” ดาวรุ่งเลือดร้อนจากแดนโรตีที่เคยโดนพิษเจ้าตำนานมวยไทยซับมิชชัน (รัดคอ) จนต้องแท็บขอยอมแพ้ ในกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 จะด้วยเกิดอาการแพ้แล้วพาล หรือ ฟิตไม่เต็มที่ในไฟต์นั้นก็ตามที ฮิมานชู อยากจะขอล้างตากับ ครูรงค์ อีกครั้ง
ย้อนกลับไปในศึก ONE: HEART OF THE LION เมื่อ 9 พฤศจิกายน 2561 ที่ประเทศสิงคโปร์ อันเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของ ครูรงค์ เป็นอีกหนึ่งไฟต์สำคัญตอกย้ำความสำเร็จของยอดมวยไทยผู้ผันตัวสู่เส้นทางศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน เขาสามารถซับมิชชันคู่ต่อสู้แดนโรตีไปได้เพียงแค่ยกที่สอง
ในครั้งนั้น ฮิมานชู ทำผิดกติกาโดยเตะเข้าที่ศีรษะของ ครูรงค์ ในขณะยังอยู่ที่พื้น ทำให้ได้รับใบเหลืองไปตั้งแต่ยกแรก หลังจากนั้นนักสู้หนุ่มแดนโรตีก็ใช้แรงไปมากมายหวังจับรวบยอดมวยไทยลงพื้น แต่ ครูรงค์ ก็ป้องกันตัวได้เป็นอย่างดี สามารถเอาตัวรอดมาได้
พอเข้าสู่ยกที่ 2 ฮิมานชู กลับไม่เหลือแรงให้สู้ต่อ เอาแต่หนีให้นักสู้จอมเก๋าชาวไทยไล่ต้อน และปิดฉากซับมิชชันได้ในที่สุด
“จังหวะนั้นที่โดนเขาเตะหัว ผมรู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจครับ เขาแสดงออกชัดเจนว่าเขาเสียใจ อีกอย่างคือผมบล็อกทัน จึงไม่ได้เป็นอะไร ไม่ถือสาหาความกันครับ” ครูรงค์ ย้อนความหลัง
“ลองคิดกลับกัน ถ้าครั้งนั้นผมเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี แต่สุดท้ายแล้วผิดแผน โดนใบเหลืองตั้งแต่ยกแรก ผมก็คงต้องรีบทำคะแนนกลับมาเหมือนกัน และการที่เขาพยายามมากเกินไป ทำให้รูปเกมเสีย หมดแรงในยกที่สอง ผมจึงอยากให้โอกาสเขาได้แก้ตัวสักที เขาคงอัดอั้น ค้างคาใจตัวเองอยู่”
แม้ ครูรงค์ จะถนัดมวยไทย แต่ชัยชนะทั้ง 11 ครั้งที่ผ่านมา ก็สามารถจับคู่ต่อสู้ซับมิชชันได้ถึง 3 ครั้ง ซึ่ง ฮิมานชู คือหนึ่งในนั้น เขาไม่เคยกลัวเกมนอน และมั่นใจว่าสามารถเล่นเกมภาคพื้นได้กับทุกคน
“สไตล์ผมยังไงก็เดินไล่ตลอดครับ แต่ทุกอย่างมันอยู่ที่จังหวะหน้างานด้วย ผมต้องพร้อมทั้งเกมภาคพื้นและยืนสู้ ซ้อมมาหมดทั้งมวยไทยและบราซิลเลียนยิวยิตสู”
“ผมไม่เคยกดดันตัวเองว่าจะต้องเผด็จศึกใครให้ได้ แต่ถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ ผมก็พร้อมปิดเกมทันที”
ปัจจุบัน ครูรงค์ ในวัย 41 ปี กับประสบการณ์บนสังเวียนมวยไทย 350 ไฟต์ และในกติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน 16 ไฟต์ ขณะที่ ฮิมานชู ยังหนุ่มแน่นอายุ 27 ปี เป็นแชมป์วูซูระดับประเทศที่มาพร้อมสถิติ 76 ไฟต์ ก่อนจะผันมาแข่งขันในการต่อสู้แบบผสมผสาน 9 ไฟต์
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคู่ “สด vs เก๋า” ที่น่าติดตามอีกคู่หนึ่ง แต่ถ้าสถานการณ์โควิด-19 ยื้อไปเรื่อยๆ ครูรงค์ ก็จะอายุมากขึ้นทุกที แล้วจะเสียเปรียบเรื่องวัยไหมไปฟัง ครูรงค์ ตอบกัน
“หากวัดกันที่กำลัง ผมยอมรับว่าอายุมีผล แต่ก็แค่ส่วนหนึ่ง ความเหนื่อยล้าจริงๆ มันอยู่ที่การคุมจังหวะ ระบบการหายใจ การบริหารแรงบนสังเวียนมากกว่า ผมซ้อมวิ่งทุกวันเช้าเย็นร่วมสิบกิโลฯ ก็ช่วยเพิ่มความอึดตรงนี้ได้”
“ต่อให้เขาจะเป็นแชมป์วูซู ผมก็ไม่กลัวเลย มั่นใจว่ามวยไทยหนักแน่นกว่าครับ แต่ผมก็นับถือใจเขานะครับ หนึ่งคือกล้าขอกลับมาล้างตาเพื่อพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง สองคือกล้าท้าทายความสามารถตัวเองด้วยการเปลี่ยนมาสู้ MMA เหมือนกับผมที่ผันจากมวยไทย”
อ่านเพิ่มเติม:
- “ครูรงค์” ว่าไง? นักสู้แดนภารตะ “ฮิมานชู เคาชิก” ขอแก้มือหลังเคยพ่ายซับมิชชัน
- Flashback Friday: “ครูรงค์” ถอนความคิด MMA ล้มแล้วซ้ำ ไม่ใช่กีฬาลูกผู้ชาย
- “พงษ์ศิริ” ยอมรับแต่โดยดี เจอใครไม่เกี่ยง คนนี้คนเดียวที่ไม่ขอเจอ
- 5 ช็อตเดือด เชือดด้วยเข่า เขย่าสังเวียน วัน แชมเปียนชิพ
- ยิมปิดไม่หยุดฟิต!! กับคลาสสอนการต่อสู้ออนไลน์ฟรีจากครูดีกรีแชมป์โลก