“ครูรงค์” ว่าไง? นักสู้แดนภารตะ “ฮิมานชู เคาชิก” ขอแก้มือหลังเคยพ่ายซับมิชชัน
เป็นความฝังใจของนักสู้แดนภารตะ “ฮิมานชู เคาชิก” ที่เคยพ่ายแพ้ให้กับอดีตแชมป์โลก ONE รุ่นสตรอว์เวต ชาวไทยอย่าง “ครูรงค์” เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค แม้ไฟต์นี้จะผ่านมาแล้วร่วมปีครึ่ง แต่เขาก็ยังอยากจะขอโอกาสแก้มือสักครั้ง
ย้อนกลับไปในศึก ONE: HEART OF THE LION เมื่อ 9 พฤศจิกายน 2561 ที่ประเทศสิงคโปร์ อันเปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังที่สองของ เดชดำรงค์
ทั้งคู่เปิดศึกในกติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) 3 ยก รุ่นสตรอว์เวต โดย เดชดำรงค์ มีพื้นฐานมาจากมวยไทย ในขณะที่ ฮิมานชู เป็นแชมป์วูซูและคาราเต้ ซึ่งต่างก็เชี่ยวชาญในเกมยืนสู้เหมือนกัน
อย่างไรก็ตามในช่วงต้นยกแรกของไฟต์ดังกล่าว ฮิมานชู ถูกแจกใบเหลืองฐานทำผิดปกติ ด้วยการเตะเข้าที่ศีรษะของเจ้าตำนานมวยไทย ก่อนจะกลับเข้าสู่การแข่งขันและโชว์ฟอร์มเทกดาวน์ แต่ไม่สามารถทำอะไรอดีตแชมป์โลกชาวไทยได้
พอเข้าสู่ยกสอง เดชดำรงค์ กลับเป็นฝ่ายไล่ต้อน และมีโอกาสทำซับมิชชันด้วยการล็อกคอหลายครั้ง และในที่สุดช่วง 20 วินาทีสุดท้าย เดชดำรงค์ ก็สามารถจัดการ ฮิมานชู ได้อยู่หมัดด้วยการซับมิชชันในท่า rear-naked choke
“ผมว่าผมทำได้ดีในยกแรก แต่ผมหมดแรงลงเร็วมาก และทำไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้ 100%” ฮิมานชู ย้อนถึงไฟต์ดังกล่าว
“ผมอยากจะได้โอกาสแก้มือสักครั้งกับ เดชดำรงค์ และผมรอเวลามานานมากแล้ว”
การถูก เดชดำรงค์ ปิดเกมด้วย rear-naked choke ในครั้งนั้น สร้างบทเรียนให้กับ ฮิมานชู เขาใช้มันเป็นแรงผลักดันตัวเองให้กลับไปพัฒนาทักษะเกมปล้ำจับล็อกให้มากขึ้น และหวังว่าเขาจะมีโอกาสกลับมาแก้มือกับคู่ปรับเก่า รวมถึงใช้เล่นงานกับนักสู้คนอื่นๆ ในรุ่นเดียวกัน
“ผมพัฒนาเกมการสู้ของผมมากขึ้นตั้งแต่ไฟต์นั้น โดยเฉพาะการปล้ำจับล็อก ถ้าหากมีโอกาสได้รีแมตช์กันในอนาคต ผมจะลองเล่นเกมภาคพื้น จับเขาเทคดาวน์ และซับมิชชันเขาให้ได้”
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เสียท่าให้อดีตแชมป์โลกชาวไทย ฮิมานชู ก็พัฒนาฝีมือจนสามารถเผด็จศึกคู่ต่อสู้คนต่อมา อย่าง “เอกี โรซเตน” ชาวอินโดนีเซีย ได้ตั้งแต่ยกแรก ในอีกสองเดือนต่อมาที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
เป้าหมายการแก้มือกับ เดชดำรงค์ ไม่ใช่เพียงแค่การแก้ไขความผิดพลาดของตัวเอง แต่ ฮิมานชู ยังต้องการสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนในประเทศบ้านเกิดของตัวเองด้วย
“ผมอยากพิสูจน์ให้เห็นว่าคนอินเดียไม่ได้เก่งแต่ยืนสู้ แต่ยังเก่งภาคพื้นด้วย ผมอยากแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเองที่เกิดขึ้นในครั้งก่อน และทำให้ประเทศชาติของผมภูมิใจ!”
“ผมตั้งหน้าตั้งตารอที่จะให้มันผ่านวิกฤตินี้ไปเร็วๆ และถ้าผมมีโอกาสได้ขึ้นสังเวียน เมื่อนั้นผมก็มีความพร้อมรออยู่แล้ว”
อ่านเพิ่มเติม:
- 5 ท่าซับมิชชันสุดอันตราย ที่เราไม่อยากให้คุณหรือใครเอาไปใช้เล่นๆ!!!
- เปิดสถิติ 5 อันดับน็อกเอาต์สูงสุดใน วัน แชมเปียนชิพ
- Flashback Friday: “ครูรงค์” ถอนความคิด MMA ล้มแล้วซ้ำ ไม่ใช่กีฬาลูกผู้ชาย
- Saturday Song: 10 นักสู้ไทยกับบทเพลงประจำตัวที่ไว้ “เรียกกำลังใจ” ให้ตัวเอง
- “เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค” นักสู้ผู้สร้างประวัติศาสตร์วงการต่อสู้เมืองไทย