“คิมิฮิโร เอโตะ” อัปเกรดตัวเอง พร้อมต่อกรซี้เก่า “อาเมียร์ ข่าน”
“คิมิฮิโร เอโตะ” นักสู้จากแดนซามูไร วัย 31 ปี ที่ขึ้นชื่อในฐานะผู้ชำนาญการปล้ำจับล็อก พร้อมเดินทางสู่สิงคโปร์ เพื่อเผชิญหน้ากับวีรบุรุษแดนลอดช่อง “อาเมียร์ ข่าน” ในศึก ONE: KING OF THE JUNGLE วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ เขาตั้งใจจะพิสูจน์ให้โลกเห็นว่า ในบทบาทของนักกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน เขาสามารถใช้ทักษะการยืนสู้ได้ดีเช่นกัน
“หลายคนบอกว่าทักษะมวยปล้ำของผมนั้นแข็งแกร่ง แต่ในศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน ซึ่งต้องใช้ทั้งทักษะการยืนสู้และการจับล็อก ผมจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่า ตอนนี้ผมสามารถใช้ทั้งสองอย่างได้คล่องแคล่ว”
เอโตะ เป็นนักมวยปล้ำระดับวิทยาลัย เขาตัดสินใจเทิร์นโปรและเปิดตัวบนสังเวียนครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2556 ก่อนสร้างสถิติที่น่าจับตา 13-3-2 ในช่วงเวลาสี่ปีครึ่ง
ต่อมาในเดือนมีนาคม 2561 เขาได้เข้าร่วมการแข่งขัน Rich Franklin’s ONE Warrior Series ซึ่งเป็นเวทีค้นหาดาวรุ่งของ วัน แชมเปียนชิพ ด้วยความหวังว่าจะได้เซ็นสัญญามูลค่า 6 หลักในการเป็นนักกีฬาของ วัน แชมเปียนชิพ
แม้เขาจะพ่ายแพ้ “Crazy Dog” แด ซอง พาร์ค ในการถ่ายทอดสดครั้งแรกของรายการ แต่นักสู้จากกรุงโตเกียวก็ใช้ทักษะการปล้ำจับล็อกจัดการคู่ต่อสู้อีก 3 รายต่อมาได้อย่างน่าประทับใจ จนส่งให้เขาคว้าสัญญาที่หมายปอง แต่เมื่อต้องออกมาสู้บนสังเวียนระดับโลกครั้งแรก และต้องเผชิญหน้ากับคู่แค้นเก่าอย่าง แด ซอง พาร์ค อีกครั้ง มันกลับไม่เป็นอย่างที่เขาคาดหวัง
- เลือกยิมไหนดี? สำหรับให้ลูกเรียน “ศิลปะป้องกันตัว”
- คุณใช่ไหม? ที่อยากเป็นหนึ่งใน The Apprentice: ONE Championship Edition
- “เจเน็ต ท็อดด์” เผยทีเด็ดโค่น “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์”
เอโตะ รู้สึกกดดันอย่างมาก กับการตกอยู่ภายใต้แสงไฟที่สว่างจ้าบนสังเวียน รวมถึงกองเชียร์ที่อัดแน่นทั้งสนาม เขาจึงกลับไปสงบจิตสงบใจ และเรียกความเชื่อมั่น เพื่อกำจัดอาการตื่นสนามก่อนที่การแข่งขันครั้งหน้าจะมาถึง
“ในรายการ ONE Warrior Series ไม่มีผู้ชมเยอะขนาดนี้ ผมเคยชมรายการ วัน แชมเปียนชิพ แต่ไม่คิดว่าเมื่อต้องขึ้นสังเวียนจริงเป็นครั้งแรก ผมจะช็อกกับความยิ่งใหญ่อลังการ จนทำให้สมาธิของผมกระเจิดกระเจิงในยกที่สอง”
“ดังนั้นก่อนที่ผมจะเริ่มซ้อม ผมจึงต้องหลับตาและจินตนาการว่าอยู่ในการแข่งขัน ซึ่งผมไม่ได้ทำในการซ้อมครั้งที่ผ่านมา”
นักสู้ชาวโตเกียวกำลังจะเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เขาคุ้นเคยตั้งแต่เมื่อ 16 เดือนก่อน สมัยที่เดินทางไปฝึกซ้อมที่ยิม อีโวล์ฟ สิงคโปร์ เอโตะ ได้ อาเมียร์ เป็นคู่ซ้อมในช่วงเวลานั้น ซึ่งแม้ว่ามันจะผ่านไปนานปีกว่าแล้ว แต่เขายังคงจำภาพของคู่แข่งที่เคยเป็นอดีตคู่ซ้อมวัย 25 ปีได้ดี และรู้ว่าช่วงเวลาที่ผ่านไป คู่แข่งของเขาพัฒนาฝีมือมากขึ้นกว่าเดิม
“อาเมียร์ เป็นคู่ซ้อมของผมตอนอยู่ที่สิงคโปร์ สิ่งที่ผมประทับใจในตัวเขาคือ เขาเป็นนักสู้ที่ดี และตั้งแต่นั้นมาเราทั้งคู่ได้พัฒนาฝีมือมากขึ้น เมื่อเราต้องฉะกันบนเวที ไฟต์นี้จะสนุกแน่นอน”
เมื่อไก่เคยเห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ เอโตะ ที่เคยคลุกคลีอยู่กับ อาเมียร์ และติดตามผลงานของเขาที่ผ่านมา จึงรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะออกจากแดนสิงโตด้วยชัยชนะ
เอโตะ ลับคมทักษะการยืนสู้ให้มากขึ้น เพื่อช่วยเสริมอานุภาพการปล้ำจับล็อกระดับเวิลด์คลาสที่เขามีอยู่แล้ว ซึ่งมันจะเป็นกุญแจดอกสำคัญต่อเกมการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งครั้งนี้จะจัดในสังเวียนวงกลมเหล็ก อันเป็นสมรภูมิที่เหมาะสมที่สุดสำหรับกลยุทธ์ที่เขาตระเตรียมมา
“แผนของผมคือ การจู่โจมจริงสลับหลอก เพื่อหาจังหวะในการเทกดาวน์ ขึ้นอยู่กับว่าผมจะผสมผสานสองอย่างนี้อย่างไร เขาจะพะว้าพะวง และผมจะสามารถดันเขาไปติดกรงได้ ซึ่งมันจะทำให้เขาเคลื่อนไหวลำบาก และเปิดโอกาสให้ผมทำเทกดาวน์”
“ถ้าเราสู้กันในเวทีมวย เขาจะหลบหนีได้ง่ายกว่า แต่จะทำแบบนั้นไม่ได้เมื่อสู้อยู่ในกรง ความพิเศษของผมคือการใช้เกมมวยปล้ำในกรง ซึ่งผมถนัดมาก”
อย่างไรก็ตาม เอโตะ ก็ไม่ตกอยู่ในความประมาท เขารู้ดีว่า อาเมียร์ มีดีกรีเป็นแชมป์โลกมวยไทย และอดีตผู้ท้าชิงเข็มขัด ONE รุ่นไลต์เวต อีกทั้งคุณภาพการปั้นนักกีฬาของทีมอีโวลฟ์ ทำให้ อาเมียร์ ขึ้นแท่นจอมน็อกเอาต์ผู้สร้างสถิติน็อกคู่ต่อสู้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ วัน แชมเปียนชิพ ถึง 8 ครั้ง เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมที่เป็นราชันย์ของรุ่นนี้อย่าง “The Warrior” คริสเตียน ลี
จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า สิงห์หนุ่มต้องการรักษาฟอร์มอันจัดจ้านของเขาไว้ และเพิ่มสถิติใหม่ที่น่าจับตา
“ผมคิดว่าเขาต้องพยายามเลี่ยงเกมนอนสู้ โดยตั้งท่ายืนให้ต่ำเข้าไว้ และใช้วิชามวยที่ถนัด เขามีช่วงชกยาวกว่าผมนิดหน่อย ดังนั้นเขาคงจะวนไปรอบๆ และออกหมัดแย็บ ถ้าเข้าระยะใกล้เขาจะใช้หมัดขวา เตะลำตัว แล้วถอยห่างออกไป ถ้าผมเข้าประชิดตัวเขาได้ เขาโดนผมรวบแน่”
คงได้เห็นแผนการและความตั้งใจของ เอโตะ อย่างชัดเจนแล้ว ซึ่งหากเขาทำได้อย่างที่ลั่นวาจา ในการผสมผสานทักษะการต่อสู้สองสไตล์เข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน คืนวันศุกร์นี้ เขาจะเป็นนักสู้อีกคนที่น่ากลัวของรุ่นไลต์เวตอย่างแน่นอน
อ่านเพิ่มเติม: การคิดบวกที่ได้จากพ่อ ช่วย “อาเมียร์ ข่าน” รับมือกับอุปสรรคในชีวิต