ดาวดังประจันหน้าในงานแถลงข่าวก่อนศึก ONE: DAWN OF HEROES
บรรดาดาวดังดีกรีแชมป์โลกต่างตบเท้าเข้าร่วมงานแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนระเบิดศึก ONE: DAWN OF HEROES เมื่อวันอังคารที่ 30 กรกฎาคม ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้นในวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคมนี้ ที่ มอลล์ ออฟ เอเชีย อารีน่า
คู่ชูโรงของรายการเป็นการชิงเข็มขัดแชมป์โลกสองเส้น เสริมด้วยทัพนักสู้ระดับพระกาฬจาก ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รอบรองชนะเลิศ ทั้งในรุ่นไลต์เวตและฟลายเวต
โดดเด่นที่สุดและเป็นคู่เอกของรายการ เป็นการป้องกันแชมป์โลก ONE รุ่นเฟเธอร์เวตของ “The Situ-Asian” มาร์ติน เหงียน กับผู้ท้าชิงแกร่งที่สุดในนาทีนี้อย่าง “Moushigo” โคโยมิ มัตสึชิมา
เหงียน อาจไม่ได้เติบโตมาที่ฟิลิปปินส์ แต่เขาประสบความสำเร็จอย่างมากในกรุงมะนิลา รวมถึงการนั่งบัลลังก์แชมป์โลก ONE รุ่นไลต์เวตเมื่อปี 2017 ซึ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ท่ามกลางแฟนๆ ชาวฟิลิปิโน
ก่อนที่การป้องกันแชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวตครั้งที่ 3 จะเริ่มขึ้น เขาได้ให้คำมั่นไว้ว่าจะโชว์ฟอร์มอย่างสุดความสามารถอีกครั้ง
“ถือเป็นเกียรติ ผมตื่นเต้นที่จะได้เผชิญหน้ากับนักรบที่ทุ่มหมดหน้าตักอย่างที่ผมทำ”
“ในคืนวันศุกร์นี้ ทุกๆ คนจะได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ เมื่อมันเป็นการแข่งขันในรุ่นน้ำหนักนี้ ซึ่งเป็นรุ่นของผม และยังจะเป็นของผม”
มัตสึชิมา อาจเข้าสู่การแข่งขันในฐานะมวยรอง แต่ยอดฝีมือชาวญี่ปุ่นก็พกประสบการณ์ในการเผชิญหน้าคู่ต่อสู้แถวหน้าของรายการนี้ หลังจากที่คว้าชัยชนะมาได้ 2 ครั้ง เขาหวังว่าจะสอยแชมป์โลก ONE รุ่นเฟเธอร์เวตกลับไปเชยชมที่บ้านได้
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้ขึ้นสังเวียนกับแชมป์โลกผู้ยิ่งใหญ่อย่าง มาร์ติน เหงียน ในการแข่งขันครั้งประวัติศาสตร์นี้”
“ในวันนั้นการต่อสู้ของเรามันจะต้องสนุกและเร้าใจมากอย่างแน่นอน”
คู่เอกร่วมรายการจะเป็นการพบกันระหว่าง 2 นักชกจอมบู๊ “The General” โจนาธาน แฮ็กเกอร์ตี ขึ้นป้องกันแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต กับนักชกสุดฮอตที่เขาหมายตาจะเผชิญหน้าตั้งแต่วินาทีแรกที่คว้าแชมป์อย่าง “The Iron Man” รถถัง จิตรเมืองนนท์
นักชกชาวอังกฤษเคยคว้าชัยเหนือเจ้าตำนานชาวไทย “สามเอ ไก่ย่างห้าดาว” พร้อมกระชากเข็มขัดเส้นนี้มาครอง และเขาเตรียมตัวที่จะสร้างความชอกช้ำให้กับนักชกไทยอีกคนที่มาจากประเทศบ้านเกิดของมวยไทย ท่ามกลางสักขีพยานเต็มสนามในวันศุกร์นี้
“ผมรู้ดีว่ารถถังนั้นมาพร้อมกับไฟที่ลุกโชน เขาเป็นเช่นนั้นมาตลอด”
“ผมตั้งใจที่จะทำให้เขาหงุดหงิด โดยใช้ทักษะการต่อสู้ หลีกเลี่ยงการเอาไฟไปแลกกับไฟ ผมตั้งใจจะทำในสิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุด โดยใช้เทคนิคที่มีพลังและรูปเกมที่ดี”
“เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมผมเอาชนะ สามเอ ไก่ย่างห้าดาว ในการชิงแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต และเข็มขัดเส้นนี้จะต้องคงอยู่กับผมต่อไป”
แฮ็กเกอร์ตี มั่นใจว่าจะรักษาเข็มขัดเส้นนี้ไว้ให้ได้ ในขณะที่รถถังเองย่อมเตรียมพร้อมมาอย่างดีสำหรับโอกาสทองที่ได้ขึ้นชิงแชมป์โลกครั้งนี้ ซึ่งเขาคงไม่ปล่อยให้หลุดลอยไปโดยเปล่าประโยชน์
“ผมอยากจะบอกว่านี่คือไฟต์ที่สำคัญที่สุดในอาชีพของผม การต่อสู้เพื่อชิงแชมป์โลก ONE คือสิ่งที่นักสู้ทุกๆ คนใฝ่ฝัน” รถถังกล่าว
“แน่นอนว่ามันยังเป็นการล้างแค้นให้กับนักสู้ร่วมชาติอย่าง สามเอ ไก่ย่างห้าดาว อีกด้วย”
ในการแข่งขัน ONE เวิลด์ กรังปรีซ์ รุ่นไลต์เวต รอบรองชนะเลิศ “Landslide” เอดูอาร์ด โฟลายัง จะเผชิญหน้ากับตำนานชาวอเมริกัน “The Underground King” เอ็ดดี อัลวาเรซ ในการปะทะกันระหว่างอดีตแชมป์โลกฝั่งตะวันออกและตะวันตก
อัลวาเรซ รู้ดีว่าการแข่งขันครั้งนี้จะเกิดขึ้นในบ้านเกิดของคู่แข่งขัน แต่มันไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้เขาอ่อนข้อต่อนักสู้เจ้าถิ่น
“โดยปกติแล้วผมไม่ใช่นักสู้ฝ่ายอธรรมสักเท่าไหร่ แต่ผมขอสัญญาถ้าผมเป็นตัวร้าย ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง” อัลวาเรซลั่น
“ในภาพยนตร์ ฮีโร่มักจะเป็นฝ่ายที่เหนือกว่าเสมอ ตัวร้ายจะได้พบกับความพ่ายแพ้ และจบแบบแฮปปี้ แต่โชคร้ายที่มันไม่ใช่เรื่องราวที่ผมจะเขียนขึ้นในครั้งนี้ คุณเล่นผิดคน ผิดเวลาแล้ว”
“เอดูอาร์ด บอกว่ามันเป็นโอกาสดีสำหรับเขาที่ได้เผชิญหน้ากับผม แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันเป็นโอกาสของผมมากกว่า เขาเคยเป็นแชมป์โลกของ ONE และนั่นคือสิ่งที่ผมต้องการในตอนนี้ ผมเคยคว้าแชมป์โลกรายการอื่นมาแล้ว แต่นี่คือสิ่งเดียวที่ผมต้องการ เอดูอาร์ดเคยครอบครองตำแหน่งนี้มาหลายครั้งแล้ว และการโค่นแชมป์โลกถือเป็นเจตนารมณ์ของตัวผมเอง”
“ผมจะต่อยเขาด้วยหมัดขวา ซัดเขาให้ร่วงลงพื้น และทำให้เขายอมแพ้ หากว่าเขายืนขึ้นมาได้ ผมก็จะต่อยเขาอีกครั้ง ทำให้เขาร่วงลงพื้น และทำให้เขายอมแพ้ นี่คือกลยุทธ์ของผม เอดูอาร์ดได้รู้แล้วในตอนนี้ เราค่อยไปดูในวันศุกร์นี้แล้วกัน”
ขณะที่ฝูงชนในมะนิลาฮือฮาไปกับการให้สัมภาษณ์ของ อัลวาเรซ คู่แข่งขันเจ้าบ้านอย่าง โฟลายัง ยังคงมั่นใจว่าเขาจะสามารถปกป้องความภูมิใจในบ้านเกิดเอาไว้ได้ พร้อมหวังว่าจะสามารถเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของการแข่งขัน ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นไลต์เวต ซึ่งจะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคมนี้
“เขาบอกว่ามันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม แต่ผมคิดว่ามันคือเวลาที่สมควรแล้วกับการเผชิญหน้ากันครั้งนี้ มันเป็นเกียรติอย่างสูงที่ผมจะได้ทดสอบฝีมือและความพร้อมว่าทำมันได้ดีแค่ไหน” โฟลายังกล่าว
“ผมเสียเข็มขัดไปเมื่อเดือนมีนาคม และช่วงเวลานั้นได้ผ่านไปแล้ว ตอนนี้ผมอยู่ที่นี่เพื่อเขียนก้าวต่อไปในการเดินทางของผม”
“การเสียเข็มขัดแชมป์โลกมันเป็นเรื่องปวดใจ แต่ผมก็สามารถก้าวข้ามไปได้ เพราะผมได้รับโอกาสใหม่ในการคว้าเข็มขัดเส้นอื่น ซึ่งนั่นก็คือเข็มขัด เวิลด์ กรังปรีซ์”
คู่ชิงของการแข่งขัน ONE เวิลด์ กรังปรีซ์ รุ่นฟลายเวต จะได้ทราบกันว่าเป็นใคร จากสองคู่แข่งขันสุดตื่นเต้นที่ลงชิงชัยในวันศุกร์นี้
“Mighty Mouse” ดิมีเทรียส จอห์นสัน เตรียมขึ้นสังเวียน ONE เป็นครั้งที่ 2 ดวลกับแชมป์โลก DEEP รุ่นฟลายเวตอย่าง “The Sweeper” ทัตสึมิตสึ วาดะ
แชมป์โลกศิลปะการป้องกันตัวแบบผสมผสาน 12 สมัย เพิ่งจะคว้าชัยชนะเหนือเพื่อนร่วมทีมของ วาดะ มาได้ ซึ่งเขาต้องแลกมาด้วยการฝึกฝนอย่างหนัก และกำลังจะได้พบกับบททดสอบอีกครั้งที่กรุงมะนิลา
“ผมมั่นใจว่าผมจะต้องเจอกับการต่อสู้ที่ยากลำบากกับ ทัตสึมิตสึ วาดะ” จอห์นสันกล่าว
“เขามาจากค่ายที่ยอดเยี่ยมอย่าง Tribe Tokyo เช่นเดียวกับ ยูยะ วากามัตสึ ดังนั้นผมมั่นใจเลยว่าทั้งคู่จะต้องมีแผนการในการเขี่ยผมให้ร่วง แต่ผมก็ยังก้าวต่อไปเรื่อยๆ”
นอกเหนือไปจากการผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของ ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นฟลายเวต วาดะ รู้ดีว่ามันมีความหมายสำหรับเขามาก หากสามารถเอาชนะไอคอนอย่าง จอห์นสัน ได้ ทำให้เขาต้องทุ่มเต็มที่กับการเตรียมพร้อมในครั้งนี้
“สัปดาห์นี้ผมจะต่อสู้กับนักศิลปะการป้องกันตัวแบบผสมผสานที่ดีที่สุดเมื่อเทียบแบบปอนด์ต่อปอนด์อย่าง ดิมีเทรียส จอห์นสัน” วาดะกล่าว
“ถือเป็นเกียรติอย่างสูงที่ผมจะได้ต่อสู้กับเขา แต่ผมก็มีโอกาสเหมือนกัน ผมจะทำตามแผนและพยายามคว้าชัยชนะให้ได้”
อีกคู่ของทัวร์นาเมนต์นี้ ขวัญใจเจ้าถิ่น “The King” แดนนี คิงกาด จะปะทะฝีมือกับ “Lightning” รีซ แม็คลาเรน ซึ่งได้โอกาสเข้าเสียบแทน “The Kazakh” ไครัต อักห์เมทอฟ ที่ถอนตัวเนื่องจากบาดเจ็บ
“ผมต้องขอบคุณที่ได้กลับเข้ามาใน เวิลด์ กรังปรีซ์ อีกครั้ง” แม็คลาเรนกล่าว
“เมื่อได้รับโอกาส ก็ต้องคว้ามันไว้ด้วยสองมือ เราต่างก็เตรียมตัวกันมาเป็นอย่างดี เราจะขึ้นไปดวลกันอย่างเต็มที่บนสังเวียนวงกลมเหล็ก พวกเราพร้อมแล้ว”
คิงกัด ได้รับความชื่นชมอย่างมากเมื่อเขาตบเท้าขึ้นบนเวที เขาหวังจะสานชัยชนะต่อเนื่อง 5 ไฟต์ ซึ่งทำให้เขาดูมีความพร้อมกว่าครั้งไหนๆ ที่เคยผ่านมาในการแข่งขันอาชีพ
“นี่คือการแข่งขันครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของ วัน แชมเปียนชิพ ที่กรุงมะนิลา ซึ่งเราต่างตื่นเต้นกันมากกับวันศุกร์ที่กำลังมาถึง” เขากล่าว
“ผมต้องการจะบอกว่า รีซ ถือเป็นหนึ่งในไอดอลของผม เราจะเผชิญหน้ากันบนเวที และผมก็ตื่นเต้นมากกับครั้งนี้”