ต้นสังกัดยัน “แสตมป์” ยังสู้ต่อ ขอเวลารักษาแผลกายแผลใจ ให้กลับมาแกร่งดังเดิม
ต้นสังกัดยืนยัน “แสตมป์” ยังสู้ต่อ และหวังจะทวงเข็มขัดแชมป์โลกคืนมาให้ได้ แต่ ณ เวลานี้ขอพักรักษาแผลกายและแผลใจ เพื่อกลับมาภาคใหม่อย่างเข้มแข็ง
นับเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” อดีตแชมป์โลกสาวสองประเภทกีฬา คิกบ็อกซิ่ง และ มวยไทย ยังไม่มีการอัปเดตความเคลื่อนไหว หลังจากเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต เส้นสุดท้ายที่เหลืออยู่ถูกกระชากจากมือไปต่อหน้าต่อตาในบ้านเกิด เมื่อศุกร์ที่ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ในศึก ONE: A NEW BREED
เป็นธรรมดาที่จะเธอจะรู้สึกสะเทือนใจ และขอเวลาพักเพื่อรักษาแผลกายและแผลใจ แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้แฟนคลับที่เป็นห่วงเป็นใยได้คลายกังวล เราจึงสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับอดีตแชมป์โลกสาวชาวระยองไปทางต้นสังกัดค่ายแฟร์เท็กซ์ โดยมี “เปรม บุษราบวรวงษ์” ผู้บริหารหนุ่มและผู้จัดการส่วนตัวของ แสตมป์ ให้ข้อมูล
“ในเบื้องต้นผมยังไม่เห็นเอ็กซเรย์ แต่ทราบว่าน้องจมูกหัก กระดูกใต้เบ้าตาแตก คาดการณ์ว่าน่าจะใช้เวลาพักฟื้นหลายเดือน แต่ทั้งนี้จะมีการอัปเดตจากแพทย์อีกครั้งในสัปดาห์หน้าครับ”
ศอกอันตรายของ อัลลิเซีย
“จริงๆ คือน้องเริ่มรู้สึกผิดปกติที่จมูกตั้งแต่หลังยกสาม ระบบหายใจติดขัด มีเลือดไหลออกตลอด แต่ตัวเขาก็ตั้งใจสู้เต็มที่ ในฐานะแชมป์ก็ต้องโชว์ฟอร์มให้ดีที่สุด และเพื่อให้แฟนๆ ได้สนุก ซึ่งตอนนั้นน้องเองก็เจ็บที่จมูกแล้ว แต่ส่วนอื่นไม่มีอะไรมากครับ เขารู้สึกหายใจลำบากมาก”
“พอลงจากเวที เขาก็เสียใจและขอโทษ น้องบอกหายใจไม่ทันจริงๆ ตอนนี้ก็ให้เวลาเขากลับบ้านไปพักผ่อนกับครอบครัวประมาณสองอาทิตย์ครับ และหลังจากนั้นก็คงต้องรอให้แผลหายดีก่อน”
เกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ แสตมป์ พ่ายในไฟต์นี้ “น่าจะเป็นเพราะร่างกายซ้อมหนักมาสองสามเดือน บวกกับช่วงโควิดที่ร้างไปสี่ห้าเดือน มาชก MMA แค่ยกเดียว (กับ สุนิสา ศรีแสน เมื่อ 31 กรกฎาคม 2563) แล้วพักแค่วันสองวัน ก็มาป้องกันแชมป์มวยไทยต่อเลย ร่างกายจึงพักผ่อนน้อย บวกกับไม่ได้ต่อยในกติกามวยไทยมาเป็นปี ก็ทำให้มีแผ่วไปบ้างครับ”
อย่างไรก็ตาม สำหรับอดีตแชมป์โลกสาววัย 22 ปี ผู้เคยก้าวไปถึงจุดสูงสุดของ วัน แชมเปียนชิพ กับการเป็นแชมป์โลก ONE มวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต คนแรกและคนเดียวของโลกที่ถือครองเข็มขัดสองประเภทกีฬาการต่อสู้ในเวลาเดียวกัน ทางต้นสังกัดเชื่อว่า เธอยังมีความมุ่งมั่นที่จะก้าวไปสู่เป้าหมายเดิมกับการเป็นแชมป์โลก 3 ประเภทกีฬาคนแรกของโลกให้ได้
“เป้าหมายน้องยังเหมือนเดิมแน่นอนครับ แต่ตรงนี้ผมคิดเองนะว่าเขาอาจจะอยากเอาเข็มขัดมวยไทยคืนมาก่อน เพราะว่ามันควรเป็นของคนไทย หลังจากนั้นก็คงเป็นเข็มขัดคิกบ็อกซิ่ง”
“ช่วงนี้ก็คงให้น้องพักผ่อน เพราะจิตใจน่าจะบอบช้ำนะครับ เพราะเขาเพิ่งเสียตำแหน่งไป และครั้งนี้เขาหวังไว้มาก เพราะเป็นเข็มขัดมวยไทยที่เหลืออยู่ มาเจอแบบนี้ ก็เสียใจเป็นธรรมดาอยู่แล้วครับ”
การคว้าแชมป์ที่ว่ายากแล้ว แต่การป้องกันแชมป์กลับยากยิ่งกว่า แสตมป์ ในวันนี้แม้เธอจะไม่ได้อยู่ในสถานะแชมป์โลก แต่ด้วยอายุเพียง 22 ปี เธอยังมีโอกาสที่จะกลับคืนสู่สังเวียนได้อย่างแข็งแกร่ง และทวงบัลลังก์แชมป์โลกของเธอคืนมา
ไม่มีคำว่าสาย ตราบใดที่ร่างกายยังไหว และจิตใจยังพร้อมที่จะเดินหน้าต่อ สู้ๆ นะ แสตมป์ แฟร์เท็กซ์!
อ่านเพิ่มเติม: