“ทาอิกิ นาอิโตะ” พุ่งเป้าดวล “รถถัง” หลังปราบ “ซาวาส” ที่จาการ์ตา
หลังรับบทพระเอกผู้ทำผลงานได้น่าตื่นตาที่สุดในค่ำคืนของศึก ONE: WARRIOR’S CODE เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นักชกจากแดนซามูไร “Silent Sniper” ทาอิกิ นาอิโตะ ที่เก็บชัยชนะได้เป็นครั้งที่สามและเป็นครั้งที่น่าประทับใจที่สุดใน วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ จากการเล่นงานนักชกหนุ่มจากไซปรัส “The Baby Face Killer” ซาวาส ไมเคิล เพชรยินดีอะคาเดมี ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นคลื่นลูกใหม่ที่มีอนาคตสดใสต้องร่วงลงพื้นถึงสองครั้ง ก่อนที่ นาอิโตะ จะคว้าชัยไปอย่างเป็นเอกฉันท์
หลังจากเก็บสถิติอย่างสวยหรู นักสู้ขวัญใจชาวญี่ปุ่นก็พุ่งเป้าไปยังตัวพ่อของรุ่น “The Iron Man” รถถัง จิตรเมืองนนท์ แชมป์โลกมวยไทย ONE รุ่นฟลายเวต โดยเชื่อว่าเขามีโอกาสที่จะได้เผชิญหน้ากับนักชกที่เก่งกาจที่สุดของรุ่นนี้ และได้เปิดใจเกี่ยวกับฟอร์มการชกของเขาในไฟต์ที่ผ่านมา
ONE: คุณรู้สึกอย่างไรในวันก่อนแข่งขัน
ทาอิกิ นาอิโตะ: เมื่อมองย้อนกลับไป มันมีอารมณ์ผสมปนเปกันหลายอย่างครับ ทั้งอาการสั่นก่อนสู้ตามปกติ ทั้งที่ผมเพิ่งทบทวนแผนการสู้ซ้ำแล้วซ้ำอีก
- “ทาอิกิ นาอิโตะ” บนเส้นทางนักสู้ที่ไม่เคยโดดเดี่ยว
- แรงบวกของ “แสตมป์” เสริมกำลัง “รถถัง” มุ่งมั่นคว้าแชมป์เส้นที่สอง
- “โคโยมิ มัตสึชิมา” พูดคำไหนคำนั้น ลั่นต้องน็อก ก็น็อกได้สำเร็จ
ONE: คุณรู้สึกอย่างไรในการแข่งยกแรก?
ทาอิกิ นาอิโตะ: แรงกดดันเขาหนักมาก และผมรู้สึกว่าเขากำลังไล่บี้ผมอยู่ ผมจึงถอยออกมาดูเชิง พูดตามตรงนะ ยกแรกเป็นของเขาเลย ผมรู้อยู่แก่ใจว่า ซาวาส เป็นนักชกที่ทั้งแข็งแกร่งและอันตราย จึงไม่มีอะไรที่ต้องเซอร์ไพรส์ แต่เมื่อเราเริ่มปะทะกัน ผมรู้ได้ทันทีว่าทักษะการชกของเขาหนักหน่วงมาก ผมรู้สึกได้ทันทีว่าถ้าพลาดโดนเข้าไปสักหมัดล่ะก็ จบเห่แน่
ONE: ยกที่เหลือเป็นไปตามที่คุณคาดการณ์ไว้หรือเปล่า
ทาอิกิ นาอิโตะ: ครับ จริงๆ แล้ว หมัดที่ผมซัดเขาร่วงลงไปนั้นเป็นไปตามที่ผมคิดไว้ อย่างไรก็ตาม ผมไม่ได้คิดว่ามันจะเข้าเป้าขนาดนั้น ยอมรับว่าผมเองก็เซอร์ไพรส์ไม่น้อย
ONE: คุณฝึกหมัดขวามาเป็นพิเศษหรือเปล่า
ทาอิกิ นาอิโตะ: ครับ ผมซ้อมมา แต่ตอนแข่งจริงก็ไม่ได้เน้นตรงนั้นเท่าไหร่ เพราะผมจะตั้งใจฟังพี่เลี้ยงที่มุมมากกว่า การที่ผมแก้เกมเขาได้ส่วนใหญ่เลยมาจากการที่ผมฟังพี่เลี้ยง
การสืบเท้าไปทางซ้ายเป็นไปตามสัญชาตญาณ ผมคอยกะจังหวะ แต่ก็ยังแปลกใจอยู่ดีที่มันเข้าเป้าเต็มๆ ขนาดนั้น ผมดูออกว่าเขาอยากจะอัดหมัดขวาให้โดนผมจังๆ ผมก็เลยชิงโอกาสจากตรงนั้น
ONE: หลังจากทำเขาร่วงได้ในยกสอง คิดว่าน่าจะปิดเกมได้เลยไหม
ทาอิกิ นาอิโตะ: ไม่เลยครับ ในยกสองผมเขาลุกขึ้นมาเร็วมาก ผมจึงไม่อยากวู่วาม หรือทำอะไรที่มันฝืนเกินไป พอถึงยกสาม ผมเริ่มเห็นแววที่จะเผด็จศึกได้แล้ว แต่เขาก็ลุกขึ้นมาอย่างไวอีก ปกติแล้วผมอาจจะติดลูกประมาท หรือพยายามเร่งปิดเกมเร็ว แต่ผมบอกได้เลยว่าเขาไม่ได้ยวบลงเลย เขายังคงมีแรงอยู่ ผมจึงตัดสินใจเดินเกมอย่างสุขุม ซึ่งถ้าผมจะปิดเกมตั้งแต่ตอนนั้น เราคงจะสู้กันบู๊น่าดู
ONE: แล้วตอนนี้คุณรู้สึกยังไง
ทาอิกิ นาอิโตะ: ผมรู้สึกดีที่ผลออกมาเป็นแบบนี้ ในขณะเดียวกันผมก็คิดว่าผมโชว์ให้เห็นแล้วว่าผมพร้อมรับมือกับคู่แข่งแกร่งขึ้นได้ ผมไต่อันดับขึ้นมาตลอด ตอนนี้ผมใส่นวมแบบเปิดนิ้วใน ONE และมันไปได้สวยเลยทีเดียว
ONE: คุณคิดว่าคุณเข้าใกล้จะได้เปิดศึกชิงแชมป์โลกกับ รถถัง หรือยัง
ทาอิกิ นาอิโตะ: ผมคิดว่าอย่างนั้นครับ มันใกล้ความจริงเข้าไปทุกทีแล้ว การได้เผชิญหน้ากับนักชกที่แข็งแกร่งอย่าง ไมเคิล ทำให้ผมมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากขึ้นกว่าเดิม
ONE: คุณอยากเจอใครเป็นรายต่อไป
ทาอิกิ นาอิโตะ: ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากท้าชิงแชมป์โลก ผมรอและเตรียมพร้อมอยู่เสมอ ผมมีความมั่นใจเต็มร้อย ดังนั้นถ้ามันมาถึงผมจะไม่ปฏิเสธแน่นอน แต่ถ้ามันไม่เป็นอย่างนั้น ผมพร้อมเจอกับนักชกชาวไทยหรือใครสักคนที่เคยเป็นแชมป์มาแล้ว ไม่มีใครอยู่ในใจเป็นพิเศษ แต่ผมอยากเจอคนที่แข็งแกร่งขึ้น
ONE: คุณคิดว่าสไตล์ของคุณสามารถรับมือกับมวยฝีมือไหม
ทาอิกิ นาอิโตะ: สไตล์ของผมไม่ใช่มวยไทยเต็มรูปแบบ และนั่นคือกุญแจสำคัญ ถ้าผมพยายามใช้มวยไทย ไปงัดกับนักมวยไทย ผมคงสู้เทคนิคเขาไม่ได้ แต่ผมมีวิชาคาราเต้ และนั่นคือหัวใจสำคัญในการเอาชนะของผม
ผมอยากเอาชนะนักชกที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และแสดงให้โลกเห็นว่านักสู้ชาวญี่ปุ่นก็เก็บชัยชนะได้เหมือนกัน
อ่านเพิ่มเติม: “เดนิส” เจอตัวแม่ “เม ยามากูชิ” และอีกหลายคู่ที่เตรียมตบเท้าสู่แดนสิงโต